Sign in Buddha’s palm 93 นภาชั้นที่สามขั้นสมบูรณ์! ‘เต๋าสะสม‘ หมดสิ้น!
วัดเส้าหลิน
ที่เขตหวงห้ามภูเขาด้านหลัง
ซูฉินกำลังนั่งขัดสมาธิ
บริเวณภูเขาด้านหลังโอบล้อมไปด้วยหมอกสีขาวที่รั่วไหลออกมาจากค่ายกลสวรรค์เขตแดนพิสุทธิ์ หลายๆ คนไม่เคยได้เห็นซูฉินเลย แต่ตัวตนของเขาจะต้องอยู่ในใจของศิษย์วัดเส้าหลินทุกคนเป็นแน่ และทุกคนมองที่นี่ไม่ต่างไปจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการบ่มเพาะ
“ในที่สุดก็เข้าใกล้จุดสูงสุดของนภาชั้นที่สาม…”
ซูฉินเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ ร่องรอยแห่งความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
หลังจากฝึกฝนมาตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ในที่สุดซูฉินก็มาถึงจุดสูงสุดของระดับนภาชั้นที่สาม
“ว่ากันว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงศักยภาพหลังจากที่ตัดผ่านนภาชั้นที่สามเข้าสู่นภาชั้นที่สี่?”
ซูฉินแตะปลายคางของตน สีหน้าครุ่นคิด
ในขอบเขตวิทยายุทธทั้งเก้าระดับชั้น ในทุกๆ สามระดับชั้นจะแบ่งออกเป็นขอบเขตสามระดับล่าง สามระดับกลาง และสามระดับบน
การที่แบ่งขอบเขตนี้เอาไว้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การจัดระดับชั้นเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะแต่ละขอบเขตใหญ่นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นในทุกๆ สามระดับ
ตัวอย่างเช่น ระดับที่ต่ำกว่าขอบเขตสามระดับบน ผู้ฝึกยุทธจะทำได้เพียงขัดเกลากายเนื้อและกำลังภายในได้เพียงเท่านั้น
แต่ถ้าต้องการเข้าสู่ขอบเขตสามระดับบน ต้องทำลายสิ่งกั้นขวางระหว่างตนเองกับโลกภายนอก ปล่อยให้พลังฟ้าดินเข้ามาชำระร่างกาย
ขั้นตอนนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ไม่รู้ว่ามีผู้ฝึกยุทธในระดับชั้นที่สี่ตั้งกี่คนที่ล้มเหลวในขั้นตอนนี้
มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าสู่ขอบเขตสามระดับบนได้อย่างแท้จริง
เช่นเดียวกับระดับนภาชั้นที่สามจะเข้าไปสู่อรหันต์ระดับนภาชั้นที่สี่
“ข้าคิดว่าอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสองถึงสามปีจึงจะเข้าสู่นภาชั้นที่สามขั้นสมบูรณ์ แต่ด้วยพลังฉีฟ้าดินอันมากล้นที่รวบรวมมาได้รวมถึงโอสถอายุวัฒนะเคลือบทองคำและพระสูตรอมิตาภาบรรพกาล ระดับนี้จึงใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว…”
ความคิดของซูฉินพลิกผันไปมา
ต้องบอกว่าค่ายกลสวรรค์เขตแดนพิสุทธิ์ช่วยซูฉินย่นระยะเวลาในการบ่มเพาะให้สั้นลงไปมาก
“เมื่อเป็นเช่นนี้”
“ข้าจะควบรวมพลังเข้าสู่ระดับนภาชั้นที่สามขั้นสมบูรณ์!”
ซูฉินตัดสินใจ
การก้าวเข้าสู่ระดับนภาชั้นที่สามขั้นสมบูรณ์ไม่ใช่ความก้าวหน้าที่ข้ามผ่านขอบเขตขนาดใหญ่อะไร ตราบใดที่ซูฉินระวังตัวมากขึ้นสักหน่อย มันจะไม่มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้น
นอกจากนี้ซูฉินยังมีดวงจิตรู้แจ้งพันปีคอยปกป้องคุ้มครองอยู่กับตัวเสมอ เว้นแต่ซูฉินจะจงใจสังหารตัวเองเท่านั้น ฉะนั้นไม่ควรจะมีอุบัติเหตุใดเกิดขึ้น
ซูฉินกลับมาจมอยู่กับการฝึกฝนอีกครั้ง
ปึงปึงปึง
พลังแห่งฟ้าดินอันไม่มีที่สิ้นสุดในภูเขาด้านหลัง ทั้งหมดม้วนตัวรวมกันเข้ามาหาเขา
รู้หรือไม่ว่าด้วยค่ายกลสวรรค์เขตแดนพิสุทธิ์ เขตแดนหวงห้ามภูเขาด้านหลังตอนนี้ได้รวบรวมพลังฟ้าดินในรัศมีหลายสิบลี้ไว้หมดแล้ว
เวลาค่อยๆ ผ่านเลยไป
หลายวันผ่านไปในพริบตา
ในช่วงสองสามวันมานี้นอกจากไปลงชื่อเข้าใช้แล้ว ทุกวันซูฉินจะหมกมุ่นอยู่แต่กับการฝึกฝนในช่วงเวลาที่เหลือ
และตอนนี้เขาก็ยังคงดูดกลืนพลังงานเข้ามาเรื่อยๆ ไอพลังในร่างถูกเติมเต็มจนสมบูรณ์และมันโปร่งใสขึ้นราวกับกลมกลืนไปกับอากาศธาตุโดยรอบ
“มีอะไรเกิดขึ้นกับท่านผู้ทรงสมณศักดิ์หรือไม่นะ…”
เฉียนขู่ยืนอยู่ด้านนอกพื้นที่หวงห้ามภูเขาด้านหลัง พูดพึมพำอยู่กับตนเอง
โดยปกติซูฉินจะมาให้คำแนะนำแก่เขาเป็นครั้งคราว แต่ช่วงเวลานี้เฉียนขู่ไม่ได้เห็นแม้แต่หน้าของซูฉินเลย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการได้รับคำแนะนำ
เฉียนขู่ไม่ได้สนใจเรื่องคำชี้แนะแต่อย่างใด สิ่งที่เขากำลังกังวลอยู่ตอนนี้คือจะมีปัญหาใดเกิดขึ้นกับผู้ทรงสมณศักดิ์หรือไม่?
แม้ว่าในสายตาของเฉียนขู่ ซูฉินจะไม่ต่างไปจากเทพเจ้าหรือองค์ยูไล แต่กับเรื่องอุบัติเหตุนั้น มันย่อมเกิดขึ้นเมื่อไหร่กับใครก็ได้มิใช่หรือ?
ในขณะที่เฉียนขู่ลังเลว่าจะเข้าไปดีหรือไม่นั้น
พื้นที่หวงห้ามภูเขาด้านหลังก็สั่นกระเพื่อม
จากนั้นหมอกทั้งหมดที่ปกคลุมทั่วผืนฟ้าก็ลดระดับลงและไหลเทเข้าไปในส่วนลึกของภูเขาด้านหลัง
“นี่คือ?”
เฉียนขู่ถึงกับผงะไปชั่วครู่
ในฐานะที่เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดเส้าหลิน เขาย่อมรู้ว่าหมอกเหล่านั้นเกิดจากการควบแน่นของพลังฟ้าดิน
ตามที่เฉียนขู่ได้รู้มา หมอกที่ลอยออกมาจากพื้นที่หวงห้ามภูเขาด้านหลังไม่มีทางที่จะหมดไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]