“คุณปู่......”ซ่งหลิงเอ๋อร์ไม่ยอมรับเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด
“ขอบคุณท่านซ่ง ท่านซ่งช่างเป็นผู้มีคุณธรรมและบารมีสูงส่ง วงการธุรกิจของเจียงไห่ยังต้องให้ท่านดูแลแล้ว”เจิ้งหยุนเห้อก้มคำนับไม่ยอมหยุด
“ฉันมีคุณธรรมและความสามารถอะไรงั้นหรือ? ตั้งแต่วันนี้ ทั้งเจียงไห่จะเป็นของคุณเซียวท่านนี้ และตั้งแต่นี้เป็นต้นไปตระกูลซ่งของฉันเองก็จะเคารพคุณเซียว”ซ่งเจิ้นไห่ส่ายหัวและมองทางเซียวชุ่นพลางพูด
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ตระกูลเจิ้งเองก็จะทำตามคำสั่งของคุณเซียวเท่านั้น”เจิ้งหยุนเห้อรีบพูดกับเซียวชุ่น
ในเวลานี้ โจ๋วจือหยวนที่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสองคนของสมาคมบู๊โบราณเดินไปอยู่ตรงหน้าเซียวชุ่น เขายิ้มอย่างขมขื่นและพูดอย่างเศร้าสร้อย: ”นายโจ๋วมีตาหามีแววไม่ ทำให้คุณโกรธเคือง หวังว่าคุณจะให้อภัย เรื่องวันนี้ล้วนเป็นความผิดของนายโจ๋ว ตระกูลโจ๋วของฉันจะไม่แก้แค้นอย่างแน่นอน สำหรับความเสียหายที่สมาคมบู๊ได้รับในวันนี้ นายโจ๋วจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ส่วนสมาคมบู๊ก็จะไม่ไปรบกวนคุณ”
“การฝึกฝนของคุณช่างล้ำลึก รอนายโจ๋วหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว ไม่รู้ว่าจะขอให้คุณช่วยแนะนำสักหน่อยจะได้หรือไม่ นายโจ๋วคงซาบซึ้งใจมาก”
เซียวชุ่นยิ้มอ่อน ๆ พยักหน้าและพูด: ”คุณกับฉันมีดวงชะตาต้องกัน หากมีโอกาสคงได้เจอกันอีก”
“คุณช่างใจกว้าง”
“เรื่องวันนี้ ฉันไม่ต้องการให้คนภายนอกงานนี้รู้เรื่อง หลังจากที่ทุกคนออกไปก็ให้ระมัดระวังคำพูดด้วยนะ”เสียงของเซียวชุ่นไม่ดังมากนัก แต่ก็ดังพอให้ทุกคนในงานได้ยินอย่างชัดเจน
พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน นัยน์ตามองเห็นเพียงหิมะที่ตกในฤดูหนาว
ข้าราชการยศสูงที่มาร่วมงานศพต่างค่อย ๆ ทยอยแยกย้ายกันไป โจ๋วจือหยวนเองก็ถือโอกาสที่ฟ้ามืดพาสมาชิกสมาคมบู๊โบราณออกจากตระกูลซือคงอย่างอึดอัดใจ
“คุณปู่ ทำไมท่านต้องปล่อยเจิ้งหยุนเห้อไป คุณปู่ห้าถูกเขาทำร้ายจนเป็นเช่นนี้ อย่างน้อยต้องหักขาเขาสักข้างหนึ่งถึงจะถูก”
เรื่องราวของตระกูลซือคงสิ้นสุดลง เมื่อคนตระกูลซ่งทั้งสามตามเซียวชุ่นออกไป ซ่งหลิงเอ๋อร์ตีหน้าบึ้งตึงและพูดอย่างไม่พอใจ
“แม้ว่าจะฆ่าเจิ้งหยุนเห้อไป คุณปู่ห้าของหลานก็ไม่ลุกขึ้นมาหรอก เมื่อเร็ว ๆ นี้ เจียงไห่เองก็อยู่ในความวุ่นวาย ไม่รู้ว่ามีคนตายไปแล้วกี่คน คุณปู่เองก็แก่แล้ว หัวใจเต้นได้ไม่ดีดั่งก่อน ดังนั้นเรื่องของเจียงไห่ในอนาคตก็ให้ท่านอาจารย์ของหลานจัดการเถอะ”
ซ่งเจิ้นไห่พูดพลางมองเธออย่างสนอกสนใจ
“หลานคิดว่าท่านอาจารย์คงไม่สบายใจขนาดนั้น เขาไม่ใช่คนที่ชอบหลอกลวงผู้คน”ซ่งหลิงเอ๋อร์กล่าว
“เมื่อเจอความแข็งแกร่งและอำนาจเทียบเท่ากันก็จำเป็นต้องหน้าไหว้หลังหลอก แต่ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ไม่จำเป็นต้องหลอกลวงผู้อื่นเลย”
ซ่งหลิงเอ๋อร์ฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจ แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะครุ่นคิดคำพูดของคุณปู่ เวลาผู้ใหญ่พูด พวกเขามักจะพูดจากำกวมทำให้ฟังลำบาก
“พี่ซ่ง หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ตระกูลซือคงจะขายทรัพย์สมบัติในเจียงไห่โดยเร็วภายในสองวัน บ้านหลังเก่าของตระกูลพวกเขาไม่เลวเลย คุณช่วยซื้อให้ฉันและฉันจะจ่ายเงินให้” เซียวชุ่นพูดกับซ่งชิงโจ
“คุณดูลานบ้านหลังนี้และพูดกับตระกูลซือคงสักนิด พวกเขาคงประเคนมันให้คุณด้วยสองมือทันที ไม่เห็นจะต้องทำให้ยุ่งยากเลย?”ซ่งชิงโจไม่เข้าใจ
“นั่นไม่ใช่การปล้นหรอกหรือ? ถ้าเรื่องแบบนี้ถูกปล่อยออกไป มันจะฟังดูไม่ดีนะ”เซียวชุ่นพูดอย่างจริงจัง
ซ่งชิงโจ: ”……”
ตอนฆ่าคนต่อหน้าผู้คนทำไมไม่คิดว่าถ้าเรื่องแพร่ออกไปจะฟังดูไม่ดีบ้างละ?
“วันนี้ยังต้องขอบคุณคุณอาซ่งหากไม่ได้คุณเตือนสติ วันนี้ฉันคงฆ่าคนในตระกูลซือคงทั้งหมดด้วยความโกรธและถือโอกาสเอาทรัพย์สมบัติของตระกูลซือคงเข้ากระเป๋า ข้าราชการและเศรษฐีคนอื่นในเจียงไห่คงต้องกังวลอย่างมาก พวกเขาเห็นฉันเป็นเสี้ยนหนาม ฉันคงจำเป็นต้องทำให้พวกเขาเกรงกลัวและไม่เห็นฉันเป็นศัตรู”เซียวชุ่นพูดต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...