เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 18

เซวเฉิงโกรธจนหอบหายใจถี่ แทบไม่สนใจความสง่าผ่าเผยที่มี พูดต่อว่าหน้าดำหน้าแดง“ฉันว่าคนจนอย่างแกคงไม่มีอะไรจะให้เสียหรอก เอาแบบนี้แล้วกัน หากแกแพ้ ก็คุกเข่าลงตรงหน้าและคำนับฉันสามครั้ง จากนั้น ก็ออกไปให้พ้นๆจากตระกูลเหยา!ว่ายังไง?”

เซียวชุ่นตอบอย่างไม่ต้องคิด“ ก็ได้”

เหยาเสินรีบดึงชายเสื้อของเขา“เซียวชุ่น นายบ้าไปแล้วหรือไง?”

“วางใจเถอะ ตามที่บอก ผมไม่มีทางแพ้ ดังนั้นผมก็จะไม่ไปจากตระกูลเหยา และไม่ไปจากคุณ”

เซียวชุ่นหันมองดูเธอ และพูดด้วยท่าทีสบายๆ

เหยาเสินมือกุมหน้าผากทันที ไอ้บ้านี่กำลังคิดอะไรอยู่ ฉันแค่อยากจะบอกว่าการเดิมพันนี้มันเลอะเทอะเกินไป ใช่ว่าจะกลัวเขาไปซะที่ไหนกัน ?

“บ้าไปแล้ว บ้ากันไปแล้วหรือไง จะกินข้าวด้วยกันแท้ๆ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?”เถียนเมิ่งหยุนโกรธจนแทบพูดอะไรไม่ออก

“คุณอา คุณน้า แค่เกมสนุกนิดหน่อยครับ เป็นเรื่องระหว่างผมกับเฮียเซียว งานเลี้ยงวันนี้ของเรายังดำเนินตามปกติครับ ”

เซวเฉิงสงบจิตสงบใจลงในที่สุด กลับมาสง่างามและภูมิฐานอีกครั้ง แสร้งทำทีพูดอย่างคนใจกว้าง

หลิวหยุนห่ายรู้ตัวดีว่างานเลี้ยงนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เดิมอีกแล้ว ที่เขาจัดงานเลี้ยงนี้ขึ้นมาก็เพียงจะอวดความสำเร็จของลูกสาวตัวเอง ไม่คิดว่าตอนนี้จะยุ่งเหยิงไปหมด ความคิดของญาติๆทุกคนในตอนนี้คงไปอยู่กับการเดิมพันที่เหลวไหลนั้น เขาในตอนนี้ก็หวังแค่ให้รีบๆกินแล้วรีบๆจบมันซะ

“เสี่ยวเซว เรื่องนี้ผิดที่อาไม่ได้จัดการให้ดี เราอย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”

“ไม่เลยครับ คุณอากล่าวเกินไปแล้ว” เซวเฉิงพูดด้วยรอยยิ้มละมุน

“บุญวาสนาไม่เท่ากัน จะชิงดีชิงเด่นกับคนอื่นคงไม่ได้ ดูเซวเฉิงใจดีและใจกว้างแค่ไหน แล้วดูไอ้ตัวขยะของตระกูลเหยา ช่างไร้ยางอายจริงๆ ยังกล้าไปเดิมพันกับเขาอีก”

“ที่น่ากลัวที่สุดคือการไม่รู้จักประมาณตน”

ในตอนนี้เอง จู่ๆก็มีชายคนหนึ่งที่แต่งตัวเหมือนหัวหน้าของทางร้านอาหารเดินเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด พูดอย่างสุภาพยิ่งว่า

“ทุกท่านครับ ต้องขอโทษด้วย เนื่องด้วยพวกคุณเป็นลำดับสุดท้ายที่ทำการจองเข้ามากับทางร้าน ตอนนี้เรามีแขกผู้ทรงเกียรติมา รบกวนทุกท่านกลับไปก่อนในตอนนี้ แล้วค่อยมาใหม่ในวันหลังได้ไหมครับ ? ทางเราจะชดเชยค่าอาหารให้กับพวกคุณเป็นจำนวนสองเท่า”

ภายในห้องก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที

“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ? เราทำการจองไว้แล้วไม่ใช่เหรอ ? ทำไมถึงบอกจะให้เราไปง่ายๆแบบนี้ มีใครที่ไหนเขาทำการค้าแบบนี้กัน ?”

“ทำไมเราต้องไปด้วย ? แล้วทำไมไม่เอาห้องอื่นให้แขกกิตติมศักดิ์ของคุณล่ะ?”

ในบรรดาญาติที่อายุยังน้อยก็พูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ

แม้ว่าจะโกรธมาก แต่ทุกคนต่างก็รู้ ว่าหอตี้หวางนี้เป็นธุรกิจของตระกูลซ่งหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเจียงไห่ ดังนั้นก็จึงไม่กล้าเหิมเกริมเท่าไร

หลิวม่านชิงหันมองไปหาเซวเฉิง“ที่รัก นี่มันอะไรกันคะ ? ที่บ้านของคุณสนิทกับผู้จัดการที่นี่ไม่ใช่เหรอ หรือไม่ก็ลองโทรไปถามดูว่าเกิดอะไรขึ้น ?”

“น้องชิง ไม่ต้องกังวลไป เดี๋ยวผมจัดการให้เอง ”

เซวเฉิงพูดปลอบหลิวม่านชิง จากนั้นก็หันไปพูดกับหัวหน้าคนนั้น“ตามผู้จัดการคุณมา ผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าแขกกิตติมศักดิ์ที่ไหนถึงกับให้เราต้องยกห้องนี้ให้ !”

ภายในใจของเซวเฉิงเต็มไปด้วยความโกรธ เดิมทีว่าอยากจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน้าคนของตระกูลหลิว แต่ก็ดันมาเจอเข้ากับคนบ้าที่มาเดิมพันบ้าๆกับตัวเอง และตอนนี้ก็มาเจอเรื่องแบบนี้อีก ทำให้เขารู้สึกวันนี้ช่างเป็นอะไรที่พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกเสียจริง

ต้องหาใครสักคนมา เพื่อระบายไฟแค้นนี้

แม้ตำแหน่งหัวหน้าหอตี้หวางจะไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ก็พบเจออะไรมามากพอ บุคคลสูงส่งแค่ไหนก็เจอมาแล้วทั้งนั้น มาถึงตรงนี้ต่อให้จะใหญ่คับฟ้าแค่ไหนก็ต้องก้มหน้าก้มตา แล้วนับประสาอะไรกับเด็กน้อยแบบนี้

ยังไงเซวเฉิงก็เป็นถึงคุณชายผู้ร่ำรวย คาบช้อนเงินช้อนทองออกมา ตลอดยี่สิบปี เคยเจอความหยาบคายแบบนี้ที่ไหนกัน ทันใดนั้นก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา“ คุณเป็นผู้จัดการของร้านเหรอ ? คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร ? ผมเป็นลูกชายของเซวเหยาห่าย……”

ใบหน้าที่สวยงามของผู้จัดการเย็นชา พูดตัดบทเสียงเข้ม“ฉันไม่สนใจว่าคุณจะเป็นเซวเหยาห่าย หรือเซวอะไรอย่าหาว่าฉันไม่เตือน ต่อให้คุณจะใหญ่โตมาจากไหน ยังไงวันนี้ก็ต้องหลบทางให้ฉันค่ะ!”

ออร่าที่เปล่งออกมาจากหญิงสาวร่างเล็กคนนี้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดี สมกับเป็นคนของหอตี้หวาง ทำเอาห้องทั้งห้องถึงกับเงียบกริบในทันที ทุกคนต่างก็ตกตะลึง

เซียวชุ่นที่อยู่มุมห้องถึงกับยกยิ้ม ราวกับกำลังดูละครสนุกอยู่

สำหรับเขาแล้ว ที่นี่ก็เป็นแค่สถานที่ที่คนเอามาโอ้อวดกันเท่านั้น จะกินข้าว กินที่ไหนมันต่างกันยังไง ?

“เสี่ยวหลี่ เกิดอะไรขึ้น ? ห้องรับรองที่ฉันให้เตรียมจัดการเสร็จหรือยัง?”

ในตอนนี้เอง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างนอก

ผู้จัดการคนสวยรีบหันหลังกลับด้วยความตกใจ พูดกับคนที่ประตูว่า“เถ้าแก่ ฉันบกพร่องต่อหน้าที่ แขกที่อยู่ในนี้ไม่ยอมออกไปค่ะ ”

“ไม่ออกไป ก็ให้รปภ.มาลากพวกเขาออกไปสิ ”

ทันทีที่สิ้นเสียง ก็เห็นคนทรงผมสกินเฮด ชายวัยกลางคนที่รูปร่างไม่ได้สูงมากปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทุกคน

“ซ่งเหลียงห่าย……ผู้มีอำนาจอันดับสองของตระกูลซ่ง!”

“จบแล้ว จบเห่แล้ว ว่ากันว่าตระกูลซ่งคนนี้เป็นคนที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่สนถูกผิด วันนี้มามีเรื่องกับคนที่ไม่ควรมีเรื่องด้วยจนได้……”

เมื่อตระกูลหลิวเห็นคนที่มา ก็กระซิบกระซาบกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊