เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 222

“เสี่ยวหยูเรียนอยู่ที่มหาลัยนั้นก็ไม่เลวเลยนะ อีกทั้งสาขายังดีอีก หากเธออยากจะมาฝึกงานที่แผนกเทคนิคก็ไม่เป็นไรนะ”

เหยาเสินนั้นค่อยๆเอื้อมเข้ามาหยิบเส้นผมบนผ้าขนหนูของเขาออก ก่อนที่จะเอ่ยอย่างตื่นเต้น “ในมื้อค่ำที่คุณไม่อยู่ คุณปู่รองของฉันเขาเข้ามาขอโทษพวกเราเองเลยนะ”

เหยาเจิ้นชูที่อยู่ในบ้านตระกูลเหยาแน่นอนว่านี่หมายถึงความมีอำนาจ เขาถึงสามารถที่จะเข้ามาขอโทษด้วยตนเองอีก นี่เป็นสิ่งที่เหยาเสินคิดไม่ถึงเลยจริงๆ

“ใช่หรอ? จะให้คนที่แก่กว่ามาก้มหัวขอโทษมันไม่ง่ายเลยนะ” เซียวชุ่นเอ่ยยิ้มๆ

“หากพูดแบบนี้แม่ของพวกเรานั้นเขายอมที่จะกลับมาบ้านตระกูลเหยาแล้วใช่ไหม?”

ยังไม่ได้พูดเลย แต่เหมือนจะยอมๆบ้างแล้ว ฉันคิดว่าเขาน่าจะยอมนะ ฉันรู้จักนิสัยแม่ฉันดี อีกทั้งรอบนี้คุณปู่รองมาขอโทษเองด้วย นี่มันเป็นการไว้หน้าให้จริงๆ หรือว่าเจ้าหญิงจะกลับมาที่วังแล้ว เป็นเวลาที่หลินหยุนเซียง กลับมาเขานั้นเลิกคิ้ว เพราะนี่เป็นโอกาสดีที่จะกลับมาแสดงพลังในบ้านตระกูลเหยา เธอหรือจะพลาดโอกาสแบบนี้”

เหยาเสินนั้นยักคิ้ว ก่อนที่จะเอ่ยอย่าล้อเล่น

“มาพูดเรื่องผู้ใหญ่ลับหลังแบบนี้ ไม่กลัวฉันเอาไปฟ้องหรอ” เซียวชุ่นเอ่ยยิ้มและหัวเราะ

“คุณกล้าหรอ!” เหยาเสินเอ่ยอย่างโกรธๆ

”ก่อนที่จะเอ่ยอย่างจริงจัง “ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบคนพวกนี้ของตระกูลเหยา แต่ว่าพวกเรานั้นมีธุรกิจเป็นของตนเองแล้ว ไม่ต้องพึ่งใครอีก และไม่ต้องไม่สนใจสีหน้าของพวกเขาอีก หากคุณไม่ชอบก็ไม่ได้ไปพูดจากับพวกเขามากก็ได้ ”

“หลบไม่ได้หลอก ผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว” เซียวชุ่นเอ่ยแล้วหัวเราะออกมา

……

ถึงแม้เหยาเสี่ยวหยูจะถูกเซียวชุ่นทำให้ตกใจในคลับ แต่นี่เองก็ทำให้เธอมั่นใจว่าเขานั้นเหมาะที่จะเป็นลูกเขยของตระกูลเหยา โดนคนตระกูลเหยาเยาะเย้ยมาตั้งหลายปี เขาตั้งมีจุดประสงค์อื่นๆแน่ๆ

เพราะไม่งั้นเขาที่มีพลังอำนาจที่เยอะขนาดนี้ แล้วทำไมจะต้องยอมให้ใครๆก็ว่าเขา ยอมจำนนให้คนอื่นเขาเยาะเย้ยด้วย

ดังนั้นเธอเลยมีความคิดที่อยากจะช่วยเหยาเสิน ช่วยครอบครัยตะรกูลเหยาจากโศกนาฏกรรมจาก น้ำไฟ แต่ที่น่าเศร้าคือแลจะไร้เดียงสาเกินไป

วันที่สองเธอนั้นได้สะพายกระเป๋า ชาแนล ที่เหยาเสินเคยมอบให้เธอ เดินเข้าไปราวกับไม่เกรงกลัวอะไรเข้าไปในออฟฟิศของบริษัทซิงเหอ คีเอเจอร์

ในออฟฟิศ เมื่อเห็นเหยาเสินเธอก็ได้รีบเข้าไปกอดอย่างตื่นเต้น ก่อนที่จะโชว์กระเป๋าชาแนล แล้วจับมือของเธอแล้วเอ่ย“ขอบคุณพี่เหยาเสินที่ให้กระเป๋าฉันนะพี่”

เหยาเสินตะลึง เพราะคิดออกว่านั่นคือกระเป๋าที่หลิวม่ายเซียงให้กับเธอ

ยังไงสะเธอเองก็ไม่ชอบ งั้นก็ให้เธอไปยังจะดีกว่า

เธอเอ่ยอย่างยิ้มกริ่ม“ชอบไหม?”

เหยาเสี่ยวหยูเอ่ย “ชอบค่ะ”

“ชอบก็ดีแล้วล่ะ”

ในตอนเข้าเหยาเสินนั้นให้ม่ายหย่าฉินพาเหยาเสี่ยวหยูไปเที่ยวที่ห้าง ก่อนที่จะจัดการให้เธอไปลงที่แผนกช่างเทคนิค

เพราะตอนนี้แผนกช่างเทคนิคมีหน้าที่ที่สำคัญเลยก็คือทำให้ธุรกิจนั้นมีผลที่เติบโต อีกทั้งพวกเขายังไม่รู้จะทำยังไง ดังนั้นเลยจะให้หน้าที่ทุกคนหาอะไรที่หลากหลาย อีกทั้งยังเพื่อปรับปรุงธุรกิจเดิมให้ดีขึ้นไปอีก

หลังจากนั้นสองวัน ตำรวจได้พบศพที่ลอยมากับน้ำ นั้นก็คือโจวฉู่ผู้จัดการฝ่ายตลาดของบริษัทจินสีในรุ่นก่อน ทำไมถึงตายล่ะ ตำรวจเลยพิสูจน์และได้คำตอบว่าไม่มีบาดแผลอะไรเกิดขึ้น นี่เป็นการกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย

ในความเป็นจริงแล้ว คนส่วนมากไม่ได้สนใจเท่าไหร่

เพราะเขานั้นเป็นแค่เพียงคนที่ไม่มีความโดดเด่นอะไร เกิดตายยังไงก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องหรือสูญเสียใจกับใคร

นี่มันก็ไม่ใช่ความผิดของเซียวชุ่น คนอย่างโจวฉู่นั้นไม่ได้มีคนจะสนใจเลย ใครจะลงมือ เขานั้นก็ขี้เกียจที่จะไปเอ่ยถาม

จึงทำได้เพียงแค่ถอนหายใจยาวๆ เขานั้นมีความผิดแต่ก็ไม่ควรจะถึงตายนะ

หลังจากที่ฝนตก บรรยากาศเปลี่ยนเป็นร้อนขึ้น นั่นหมายความว่าฤดูใบไม้ผลินั้นใกล้เข้ามาแล้ว

ณ ลานถนนติ้งซิน

ชีวิตในสมัยก่อนนั้นช่างมีความสุขจริงๆเลย สามารถที่จะขโมยเวลาว่างๆไปครึ่งวัน

ตอนนี้ธุรกิจของบริษัท สตาร์บีโอไลท์ ได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนเซียวชุ่นก็ยุ่งๆ

ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยเก่งเรื่องธุรกิจ แต่วิ่งไปวิ่งมาเขานั้นก็ยังทำได้ ตอนนี้เขานั้นรู้สึกเสียใจแล้วที่เรียนขับรถมา

เพราะเหยาเสินนั้นให้วันหยุดเขามาหนึ่งวัน ก่อนที่จะเดินไปนั่งแถวๆลานถนนด้านหน้า ชงชา ก่อนที่จะมองไปที่ซ่งหลิงเอ๋อร์เต้นสวยจนมิอาจหาใครมาเปรียบเทียบได้

และมียันต์อยู่บนตัวของเหยาเสิน ตอนนี้เซียวชุ่นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของเธออีกสักพักหนึ่ง

เขานั้นอยากที่จะสอนหงส์แดงเป็นอย่างมากในการใช้จิตวิญญาณในการแกะสลัก แต่ว่าเขานั้นไม่ได้มีโอกาส ดังนั้นวันนี้เลยรับเธอมาที่นี่โดยเฉพาะ ก่อนที่ทั้งสองคนจะนั่งใต้แสงแดดและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการแกะสลัก

ส่วนต้วนเจียนั้นก็ได้ฝึกวิชาต่อสู้อยู่ข้างๆซ่งหลิงเอ๋อร์

ซ่งหลิงเอ๋อร์นั้นเดิมที่มีเสน่ห์เป็นอย่างมาก แต่ตั้งแต่ใช้ยาชะล้างไขกระดูกเลยทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้นเป็นอย่างมาก

เป็นเพราะยาไขกระดูก เลยทำให้การกระทำของเธอนั้นดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ไปจนถึงตอนที่รากฐานนั้นใกล้จะเสร็จแล้ว

เป็นเพราะเธอยั้งกำลังไว้ ต้วนเจียกลัวแม้แต่ครั้งแรกนั้นก็คงจะรับไม่ไหว

ทั้งสองคนเคยต่อสู้ด้วยกันหนึ่งครั้ง ก่อนที่ซ่งหลงเอ๋อร์เดินเข้ามาด้วยใบหน้าสีแดง ก่อนจะจิบน้ำชา แล้วเช็ดมุมปาก และเอ่ย “อาจารย์ คุณอยากจะฝึกฉันให้เป็นถึงพวกมือสังหารหรอ”

“หมายความว่ายังไงกัน?” เจ้าเด็กบ้านี่น่าจะคิดเยอะไปแล้ว บางครั้งเซียชุ่นก็คิดว่าเขานั้นตามเธอไม่ทัน ดังนั้นจึงไม่ได้เงยหน้า และรอให้เธอพูดจบก่อนถึงค่อยพูด

“ฉันมาคิดคิดแล้ว ก้าวดาราบวกกับหมัดชีเสวียนรวมกับมันจะเก่งเกินไปแล้ว เมื่อตอนที่คู่ต่อสู้เห้นฉัน ฉันใช้ท่าก้าวดาราก็ถึงตรงหน้าพวกเขาแล้ว ก่อนที่จะรีบใช้ท่าหมัดชีเสวียนใส่พวกเขา อัดจนหน้าหงายไปเลย ” ซ่งหลิงเอ่อร์เอ่ยอย่างด้วยความภูมิใจ

“แต่ว่าท่าก้าวดารานั้นมันใช้เคลื่อนที่ได้แค่ในระยะใกล้ๆ หากมีศัตรูอยู่ล้อมรอบ งั้นมันก็ไม่มีประโยชน์น่ะสิ?”

หงส์แดงจ้องมองไปที่ดวงตาที่มีนัยตาสีฟ้า ก่อนจะเอ่ยอย่างจริงจัง

“ยังไงก็จะค่อยๆพัฒนาไปเองแหละ ตอนนี้ฉันก็เก่งมากแล้วนะ”ซ่งหลิงเออร์เอ่ย

“ใช่แล้วอาจารย์ ก้าวดาราฉันนั้นฝึกฝนจนถึงขั้นที่สำเร็จแล้วนะ?”

เซียวชุ่นคิดแล้วเอ่ย “เมื่อไหร่ที่หงส์แดงยิงปืนแล้วไม่โดนเมื่อไหร่ นั่นแหละถึงจะเรียกว่าสำเร็จแล้ว”

เจียต้วนยิ้มหัวเราะและเอ่ย“งั้นหากฉันจะฝึกจนถึงตอนที่หงส์แดงนั้นยิงปืนไม่โดนบนร่างกายของฉันเมื่อไหร่ นี่ก็นับว่าสำเร็จแล้วเนอะ”

เซียวชุ่น“ ตามทฤษฎีก็ตามนี่แหละ ในตอนแรกก็แค่ลูกปืนธรรมดา”

ซ่งหลิงเอ๋อร์ได้ยินดังนั้น ก่อนที่จะพึมพำ“ฉันรู้สึกว่าตอนนี้หงส์แดงน่าจะยิงไม่โดนฉันแล้วนะ ไม่เชื่อก็มาลองดูกัน”

หงส์แดงได้ยินดังนั้น ก่อนที่จะคิดว่าตนเองนั้นเปลี่ยนมาเป็นสิ่งของชั้นต่ำตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

อันนึงก็ฝึกฝนจนสู้ไม่ได้ อีกอันก็ฝึกและตีไม่โดน นี่เธอต้องการจะมายั่วยุกันใช่ไหม!

เธอลุกขึ้นและหยิบปืน ก่อนที่จะบิดไหล่และเอ่ย“ไป พวกเราไปลองกัน”

ซ่งหลิงเอ๋อร์ก็ไม่ยอม ก่อนที่จะรีบลุกขึ้น แล้วเอ่ย“ลองก็ลองสิ”

เซียวชุ่นนั้นเอามือกุมขยับ จะร้องไห้หรือยิ้มก็ทำไม่ได้ “ พวกเจ้าสองคนเป็นบ้าหรือไงกัน?นี่มันลองกันได้ที่ไหน?นั่งลงให้หมดเลยนะ”

เขามองไปที่ซ่งหลิงเอ๋อร์และพูด“ หากยิงโดนหัวสมองระเบิดจะทำไง ใครไปช่วยไม่ได้นะ ฉันจะไปพูดกับคุณลุงยังไงนะ?”

ซ่งหลิงเอ๋อร์ถึงเพิ่งเข้าใจความสำคัญของเรื่องนี้ ก่อนที่จะยื่นลิ้นออกมา ใบหน้ารู้สึกผิดและยิ้ม ก่อนที่จะหยิบเมล็ดแตงไปหนึ่งกำมือ ไขว้ขา ก่อนที่จะนั่งคิดพร้อมกับกินเมล็ดแดง

“อาจารย์ พวกเรายังขาดแม่นมน่ะ”

“หมายความว่าอะไรกัน?”

“อาจารย์ดูสิ ลุงตวนเป็นโล่ให้ ส่วนฉันเป็นมือสังหาร ส่วนพี่หงส์แดงเป็นADC อาจารย์ล่ะ คิดวะว่าเป็นนักเวทย์ก็แล้วกัน เอาแม่นมมาอีกพวกเรานั้นก็นับว่าเป็น หุบเขาเดอะคิง ผู้พิทักษ์ปราสาทแล้ว” ซ่งหลิงเอ๋อกะพริบตาและเอ่ยอย่างกะตือรือล้นมาก

เซียวชุ่นเอามือเกาหนวดแล้วมองไปที่เธอ ก่อนจะลุกขึ้นไปยืนด้านหลังของเธอ ก่อนที่จะจับเธอยกขึ้น

“ห้ะ?อาจารย์!อาจารย์จะทำอะไรเนี่ย?”

“มองดูแล้วเจ้าน่าจะเล่นเกมมาไม่น้อยเลยน่ะ วันนี้ไปฝึกก้าวดาราสอบรอบ หมัดชีเสวียนสามรอบ ฝึกเสร็จค่อยพักนะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊