“สาวสวยตื่นแล้วหรอ?”
ถังจื้อเอ่ยทักทาย“ฉันมาหาพ่อของเธอมีธุระสักหน่อย”
“พ่อของฉันยังไม่ลงมาอีกหรอ?”
ถังเฟยเฟยรู้สึกประหลาดใจ เพราะปกติพ่อของเธอตื่นแต่เข้า แล้วจะไปออกกำลังกายหมัดไทเก๊ก วันนี้เกิดอะไรขึ้น?
ถังจื้อไม่รู้ก่อนที่จะยักไหล่ เพราะเขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
ข้าวเช้าที่อุดมสมบูรณ์ได้ขึ้นโต๊ะแล้ว ถังชือชือเดินเข้าไปที่โต๊ะอาหารแล้วนั่งลง ก่อนที่จะดื่มนม “อาสาม ยังไม่ได้กินข้าวเช้ามาใช่ไหม มากินด้วยกันสิ”
ถังจื้อไม่เกรงใจอีก ก่อนที่จะวางหนังสือพิมพ์ เดินไปก็แกล้งเล่นไป“มาตั้งแต่เช้าก็เพื่อมาขอกินข้าวเช้าเลยนะเนี่ย”
แต่บ้านตระกูลถังนั้นมีกฎ หากถังหลี่ไม่ลงมา ทั้งสองคนจึงทำได้แค่ดื่มนมไปก่อน ไม่มีใครแตะตะเกียบ
หลังจากนั้นสองสามนาที ถังชือชือก็มองเห็นพ่อของเธอค่อยๆประคองแม่ของเธอเดินลงมาจากบันไดอย่างช้าๆ
เหยียนหยิงอายุสี่สิบต้นๆ ดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี มองดูแล้วเด็กราวๆกับถังชือขือยังไงอย่างงั้น ร่างกายสวยงาม ผิวหน้าเต่งตึง
“พ่อ นี่มันยังไงกัน?” ถังชือชือเอ่ยถามอย่างกังวลใจ
ดวงตาของถังหลี่เต็มไปด้วยเส้นเลือด ดวงตาบวมแดง และถุงใต้ตาหนักมาก บวมราวกับลูกท้อลูกเล็กๆๆ
เหยียนหยิงพยุงถังหลี่นั่งลง ก่อนที่จะสะบัดมือให้ทั้งสองคน“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก อย่ากังวลไปเลย เมื่อรู้สึกคันๆ ฉันไม่ได้สนใจหรอก พอดีเมื่อวานเริ่มคันๆอีก ตอนเช้ามาก็เป็นสะอย่างงี้แล้ว น่าจะเป็นเยื่อบุตาอักเสบ เดี๋ยวสายๆหน่อยจะให้หมอเข้ามาดูนะ”
ก่อนที่ถังชือชือจะเอ่ยเรื่องที่เขาพบเจอกับพวกคนอันตพาลในเมืองเจียงไห่ขึ้น
ภายในใจของเธอนั้นอึดอัด มือเย็นๆของเธอกำแน่น ก่อนที่จะหันหน้าไปสบตากับเล่อเหวิน
พ่อของเธอนั้นได้มีอาการโรคหัวใจวายก่อนเธอสองปี เป็นไปได้ไหมที่เจ้าบ้านั่นจะพูดถูก?
เล่อเหวินขมวดคิ้ว ก่อนที่จะมองไปที่เธอ ภายใต้เบื้องหน้าของพ่อ เธอยังรู้วิธีที่จะเงียบสงบ เพราะที่นี่ไม่มีที่ให้เธอพูด
“วันนี้มาทำอะไรที่นี่แต่เช้าเลยคุณ มีเรื่องเร่งรีบอะไรล่ะ?”ถังหลี่มองไปที่ถังจื้อและเอ่ยถาม
“ดูคุณพูดเข้า ไม่มีเรื่องก็ไม่สามารถจะมาหาพี่ชายได้แล้วหรือไงกัน?”
ถังจื้อนั้นอายุสี่สิบกว่าแล้วยังเหมือนเด็ก นิสัยร่าเริง ปกติแล้วชอบยิ้ม แต่ในเรื่องสำคัญนั้นเขาไม่ได้เอ่ยทำอะไรเลอะเทอะ ดังนั้นถังหลี่จึงนับถือเขานั้นเหมือนน้องชายคนหนึ่ง
ถังหลี่เอ่ยต่อ “เจ้า? มาดูข้าโดยเฉพาะหรอ ลองทายสิว่าฉันจะเชื่อไหม?”
ถังจื้อยิ้มหยี๋ ก่อนจะพูด“ ท่านประธานหลินไปที่เจียงไห่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการซื้อบริษัทซิงเหอ คีเอเจอร์”
ถังชือชือได้ยินเจียงไห่ ก่อนที่ภายในใจเผยให้เห็นแสงสว่างขึ้นมา
“อ้อ มีข่าวมาแล้วหรอ?”
“ไม่มี โดนคนตีแล้ว” ถังจื้อเอ่ยยิ้มหัวเราะ “ ผู้จัดการหลินของพวกเรามองดูแล้วเขาจะเป็นคนที่ถือตนสูงอยู่นะ รอบนี้เกรงว่าพวกเราจะทำให้เธอนั้นเสียเวลาไปสะเปล่า”
ถังหลี่ตะลึงครู่หนึ่ง ก่อนที่จะไม่ได้ฟังคำหลังที่เขาพูด ขมวดคิ้วและเอ่ย:“ทำไมถึงไปโดนใครตีมา?ใครกันเป็นคนทำ?”
”ถังจื้อได้ยัดขนมปังเข้าไปในปากก่อนเอ่ย “คนที่ไปกับเธอกลับมารายงานว่า เป็นประธานขอบริษัทซิงเหอ คีเอเจอร์เป็นคนตีพวกเขา”
เมื่อได้ยินเขาแนะเรื่องที่เกี่ยวกับบริษัทซิงเหอ คีเอเจอร์แล้ว รวมถึงเรื่องในคลับ ถังจื้อนั้นดูเหมือนก็จะไม่ได้ทราบอะไร
เมื่อได้ยินเขาพูดจบ ถังหลี่นั่นได้นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยนิ่งๆ“เปลี่ยนคนไปคุยสิ เอาความจริงใจไป เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา”
“จะไปคุยอีกหรอ?หากให้ผมพูด……”
ถังจื้อพูดได้ครึ่งนึงก็ได้เห็นถึงสายตาที่จ้องมาของถังหลี่ ก่อนที่จะรีบกลืนคำที่เหลือไปและเอ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจ “ได้สิ ผมฟังพี่อยู่แล้ว”
“พ่อ คุณอาสาม ไม่งั้น ให้ฉันไปลองเป็นไง?”ถังชือชือเอ่ยตอบ
“ฉันจะพูดยังไงแต่ก็เป็นครอบครัวเดียวกันของตระกูลถัง นี่คงจะเป็นเรื่องดีที่จะทำให้ตระกูลนะ?”
หนึ่งเพราะเธอนั้นไม่ชอบที่จะอยู่แต่บ้าน สองเพราะเธอนั้นก็อยากจะไปลองเจอหมอนั่น แต่ว่าต้องรอคุณหมอไป๋มารักษาอาการพ่อก่อน ว่าสรุปมันเป็นอะไรกันแน่
“หลานสาว ไม่เป็นไรหรอก ที่เมืองเจียงไห่ มันยากจนนะ เจ้าคงรับความทรหดไม่ได้หรอก”ถังจื้อเอ่ยยิ้มหัวเราะ
“อีกทั้งเจ้ายังไม่ประสบการณ์ในการเจรจา การจะซื้อบริษัทซิงเหอ คีเอเจอร์มารวมกับคุนหลุนกรุ๊ปนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลยนะ”
ถังชือชือแม้จะจบมาจากต่างประเทศ แต่ถังจื้อก็พอจะทราบ ว่าเธอนั้นเอาแต่กินเที่ยวเล่นในต่างประเทศ ถึงแม้จะเรียนรู้ทุกอย่าง แต่ว่ากลับมาก็ไม่เคยไปงานร่วมธุรกิจ ประสบการณ์ก็ไม่มี แล้วจะไปทำเรื่องใหญ่แบบนี้ได้ยังไง?
ถังหลี่ลังเล เพราะตระกูลถังในเมืองหลวงนั้นเป็นตระกูลใหญ่ และไม่ใช่แค่เขาคนเดียว แต่นี่เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดมากๆอีกด้วย
เขารู้ดีว่าหากสามารถที่จะซื้อซิงเหอ คีเอเจอร์มาได้จะมีรสชาติยังไง แน่นอนว่ามันจะต้องทำให้เขานั้นอยู่ยืนยาวเป็นนิรันดร์แน่ๆ
ตั้งแต่ถังชือชือกลับมาเธอนั้นปฏิเสธมาตลอดในงานของบริษัทคุนหลุนกรุ๊ป แต่เรื่องนี้เธอกลับเสนอตัวเอง
เขามีลูกสาวเพียงคนเดียว หากเรื่องนี้ถังชือชือทำสำเร็จ ถังชือชือจะต้องมีตำแหน่งในบริษัทแน่ๆ และหากในอนาคตจะให้เธอมาสานต่อ คนอื่นๆก็คงจะไม่มีความเห็นอื่นๆ
“ลูกยินยอมที่จะไปจริงๆหรอ?”ถังหลี่เอ่ยมองและถามถังชือชืออย่างจริงจัง
“ยินยอมสิ” ถังชือชือกะพริบตาแล้วเอ่ยตอบ
“งั้นก็ได้”
ถังหลี่หันไปเอ่ยกับถังจื้อ “คุณจัดการหาคนไปช่วยถังชือชือให้ไปกับเธอหน่อยก็แล้วกัน”
“พี่ชาย……คุณก็รู้ว่าเรื่องนี้มันสำคัญต่อพวกเรามากแค่ไหน ชือชือนั้นเด็กเกินไป ผมกลัวว่า……”ถังจื้อร้อนรนขึ้นมา และไม่รู้ว่าจะต้องเอ่ยยังไงต่อ
“คุณอาสาม,ทำไมลุงถึงไม่มองหนูให้ดีๆล่ะ?”ถังชือชือเอ่ยออกมาอย่างหน้ามุ่ย
“คุณอาสามไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น งั้นก็ได้ ฉันจะจัดการให้ก็แล้วกัน” ถังจื้อเอ่ยอย่างหมดหนทาง และก็ไม่มีอารมณ์ที่จะกินต่อ ก่อนจะเอ่ยทิ้งท้าย “ผมจะไปจัดการเตรียมคนให้เดี๋ยวนี้” หลังจากนั้นก็รีบลุกเดินจากไป
“ภาพซ้อน ฉันมองไม่เห็นอะไรชัด” เหยียนหยิงเอ่ยพูด
“ไม่อย่างงั้นก็ไม่ต้องประคองผมลงไปข้างล่างหรอก”
“เรื่องเล็กน้อยนะ หากเป็นคุณ ไปที่เจียงไห่รอบนี้คุณเชื่อมั่นไหม?”ถังหลี่สะบัดมือ ก่อนจะพูดเสียงต่ำ “จำเอาไว้ เพียงแค่ให้ฝั่งตรงข้ามเสนอราคา แค่นี้ก็พอจะไปต่อไปแล้ว”
“มันใหญ่ขนาดนั้นเลยหรอ?” ถังชือชือมองไปที่ถังหลี่ก่อนจะเอ่ยพูดเปลี่ยนคำและขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ ฉันหมายถึง จำนวนเงินเท่าไหน มากสุดเท่าไหร่”
“หนึ่งหมื่นล้าน”
ถังชือชือตกใจจนเอามือปิดปาก และเผยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อเลย“บริษัทอะไรกันที่จะแพงถึงหมื่นล้าน? เพราะบริษัทของตระกูลถังของเราคุนหลุนกรุ๊ปในราคาตลาดทั้งหมดยังแค่หกพันล้าน พ่อจะไปเอาเงินสดหมื่นล้านนี้มาจากไหน?”
“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องสนใจหรอก ที่พ่อต้องการมันไม่ใช่บริษัทเปล่าๆแน่นอน พ่ออยากจะได้ทีมที่วิจัยและสูตรยาต่างหาก เรื่องนี้ลูกต้องติดตามนะ” ถังหลี่เอ่ยอย่างจริงจัง
“หากไม่เข้าใจล่ะก็ให้ลองถามคนที่คุณอาสามจัดหาคนมาช่วยก็ได้ เรื่องนี้ต้องสำเร็จ พ่อจะให้ลูกพักร้อนหนึ่งปี อยากจะไปเที่ยวไหนก็ได้ พ่อจะไม่สนใจเลย”
สายตาของถังชือชือเปล่งประกาย ก่อนที่จะรีบพยักหน้า
ไม่กี่วันหลังจากนั้น ถังชือชือได้พาเล่อเหวินและลูกมือไม่กี่คนเดินทางออกจากเมืองหลวงไปยังเจียงไห่
แต่ว่าไม่กี่วันนี้อาการป่วยของถังหลี่นั้นไม่ได้ดีขึ้นเลย ถึงแม้จะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่เมื่อคิดถึงคำที่เซียวชุ่นเอ่ยทิ้งไว้เขานั้นรู้สึกกระวนกระวาย หากเป็นตามที่เขาพูดจริงๆล่ะก็ ผิวหนังนั้นจะค่อยๆเน่าเปื่อยเสียไป จนกระทั่งเสียชีวิต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊