เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 236

แสงแดดอบอุ่นสาดส่อง ท่ามกลางฤดูใบไม้ผลิ

เมื่อครอบครัวเหยาเสินมาถึงบ้านบรรพบุรุษตระกูลเหยามีรถยนต์จอดอยู่หน้าประตูมากกว่าสิบคัน

หลิวหยุนเซียงเชิดหน้ายืดอกอย่างภาคภูมิใจราวกับไก่ตัวผู้ ก้าวข้ามธรณีประตูด้วยท่าทางอย่างผู้ชนะ เสียงรองเท้าส้นสูงดังกระทบพื้นเป็นจังหวะ ราวกับส่งเสียงเชียร์เป็นกำลังใจที่เธอกลับบ้านตระกูลเหยา

เมื่อเดินเข้ามาที่สนามหน้าบ้านก็ได้ยินเสียงลูกหลานตระกูลเหยาคุยกันอย่างครึกครื้นดังมาจากห้องโถงหลัก เมื่อเหลือบมาเห็นครอบครัวของเหยาเสินเดินเข้ามา พวกเขาก็หยุดพูดทันทีและพากันจ้องมองมาทางครอบครัวของเหยาเสิน

สถานการณ์นี้ห่างไกลจากภาพที่หลิวหยุนเซียงวาดไว้ในหัวมากเหลือเกิน แม้ว่าจะไม่เป็นที่ต้อนรับ อย่างน้อยก็ควรจะเป็นทางการมากกว่านี้หน่อยไหม? ทำให้เธอผิดหวังเล็กน้อย

ลูกหลานตระกูลเหยากลุ่มนึงมองดูพวกเขา ในสายตาแปลกประหลาดและคาดหวังนั้นเจือด้วยความ......สงสาร?

บนใบหน้าของเหยาฮั่น หลี่ชุนเหลียนและคนอื่นๆไม่มีสีหน้าโศกเศร้าหลักจากการพ่ายแพ้แม้แต่นิดเดียว แต่กลับมองพวกเขาอย่างครุ่นคิด สายตาเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม

ทั้งสามคนเดินเข้ามาที่โถงหลัก เมื่อเหลือบไปเห็นเหยาเจิ้นชูจึงร้องทักขึ้น เหยาเจิ้นชูลุกขึ้นกล่าวอย่างไร้อารมณ์ : “ไปเถอะ ไปที่หอบูชาบรรพบุรุษ”

เมื่อกล่าวจบเขาก็เดินนำออกไป ครอบครัวเหยาเสินทั้งสามคนตามไปติดๆ ยังไงการกลับมาสู่วงศ์ตระกูลก็ถือเป็นเรื่องสำคัญในตระกูล ทั้งสามคนไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

มีเพียงหลิวหยุนเซียงทอดถอนใจกับตัวเองเงียบๆ : “ไร้วาสนาเกิดเป็นคนในตระกูลร่ำรวยและทรงอิทธิพล แต่กลับมีปัญหากับกฎระเบียบที่เคร่งครัดของตระกูลที่มั่งคั่งและทรงอิทธิพล แค่เรื่องคำพูดไม่กี่คำ ถึงได้เกิดปัญหายุ่งเหยิงมากมาย”

หอบูชาบรรพบุรุษของตระกูลเหยาเป็นอาคารโบราณ ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของปีกตะวันตก ในลานเล็กๆที่แยกจากลานด้านหน้าด้วยกำแพง ลูกหลานของตระกูลเหยาจะมาจุดธูปบูชาบรรพบุรุษในวันขึ้นปีใหม่และเทศกาลต่างๆ

“คุกเข่าลง”

หลังจากเข้ามาด้านในหอบูชาบรรพบุรุษแล้ว เหยาเจิ้นชูก็จุดธูป จากนั้นยืนอยู่ด้านข้าง ท่าทางเคร่งขรึมศรัทธา และพูดกับครอบครัวของเหยาเจี้ยนกั๋ว

ปกติจะมีฟูกฝ้ายวางอยู่หน้าโต๊ะบูชาให้ทุกคนคุกเข่าบูชา แต่วันนี้กลับไม่มีแล้ว

แต่ตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องถามมาก สามคนเดินไปคุกเข่าลงข้างหน้า

“เหยาเจี้ยนกั๋ว ในฐานะหัวหน้าครอบครัวแล้วเจ้าควรเป็นตัวแทนหลิวหยุนเซียงกับเหยาเสินไม่ใช่หรือ?” เหยาเจิ้นชูถาม

เหยาเจี้ยนกั๋วรวมถึงอีกสองคนไม่เข้าใจ จึงเหลือบมองกัน หลิวหยุนเซียงและเหยาเสินไม่พูดอะไร ยอมรับอยู่ในใจ

เหยาเจี้ยนกั๋วพยักหน้าตอบ : “ได้”

“เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้าก็ควรสาบานต่อหน้าบรรพบุรุษ ต่อหน้าผู้คนมากมายในตระกูลเหยาของเรา ว่าจะไม่มีวันทำสิ่งใดเพื่อทรยศหรือทำลายสิทธิประโยชน์ของตระกูลเหยา และจะไม่มีวันหักหลังตระกูลเหยา” เหยาเจิ้นชูกล่าวด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม

เหยาเจี้ยนกั๋วมั่นใจว่าเขาทำได้ หันหน้าไปทางป้ายวิญญาณบรรพบุรุษ กล่าวสาบานอย่างซื่อสัตย์และศรัทธาว่า : “ข้าเหยาเจี้ยนกั๋วลูกหลานรุ่นที่สามสิบสองของตระกูลเหยาแห่งเจียงไห่ขอสาบานต่อหน้าบรรพบุรุษทุกๆรุ่นว่าข้าจะไม่มีวันทรยศตระกูลเหยา และทำสิ่งที่เป็นการทำลายผลประโยชน์ ไม่มีวันหักหลังตระกูลเหยา หากข้าผิดคำสาบานขอให้......”

เมื่อกล่าวสาบานจบ เหยาเจิ้นชูก็พูดตัดบท : “เอาล่ะ ข้าขอประกาศว่า นับจากนี้ไปครอบครัวของเหยาเจี้ยนกั๋วได้กลับคืนสู่สายเลือดตระกูลเหยา คำนับเสียเถิด”

ครอบครัวเหยาเจี้ยนกั๋วทั้งสามคนคำนับตามที่บอก

หลังจากคำนับ หลิวหยุนเซียงไม่พบความรู้สึกเหนือกว่าอย่างที่คาดไว้ และไม่พอใจที่ถูกบังคับให้ทำพิธีการที่ยุ่งเหยิงนี่ ในตอนนี้เธอหมดความอดทนเตรียมที่จะลุกขึ้น

“คุกเข่าลง! ฉันพูดยังไม่ทันขาดคำ ใครให้เธอลุกขึ้นฮะ?!” เหยาเจิ้นชูต่อว่าเธอ ด้วยเสียงที่จู่ๆก็ดังขึ้นกว่าเดิม

ทันใดหลิวหยุนเซียงที่หวาดกลัวก็คุกเข่าลงบนพื้นอีกครั้งตามสัญชาตญาณ เหยาเจี้ยนกั๋วและเหยาดสินก็ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

“ยังประพฤติตัวไร้ระเบียบเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด” หลี่ชุนเหลียนมองหลิวหยุนเซียงแล้วกล่าวขมุบขมิบด้วยความดูถูก

“เหยาเจี้ยนกั๋ว เจ้ายอมให้ภรรยาและลูกสาวของเจ้าปีนเกลียว ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ เหยียดหยามผู้นำตระกูล ขโมยสูตรที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษของตระกูลเหยา ละเมิดกฎครอบครัว ความผิดนี้ไม่อาจอภัยได้ ตามกฎของตระกูล เจ้าจะถูกลงโทษด้วยการโบยสามสิบที เจ้ามีอะไรจะพูดไหม?” เหยาเจิ้นชูตะโกนด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊