"คุณพักที่ไหน?"
หลังจากออกจากไนท์คลับ เซียวชุ่นได้ถามถางชือชือ
"โรงแรมเดียวกับคุณ"
"......คุณนี่มาทำร้ายคนจริงๆเลยนะ คุณชายเฉิงคนนั้นตอนนี้เกรงว่าคงทนรอที่จะถลกหนังดึงเส้นเอ็นผมไม่ไหวแล้ว"
“วางใจเถอะ เฉิงหยูคนนี้ฉันก็นับว่ารู้จักเขาดี ในวงเวียนของเมืองหลวงมีสี่คุณชายใหญ่ และหนึ่งในนั้นก็คือเขา สี่คุณชายใหญ่นี้ไม่ใช่ คุณชายเสเพลที่ไม่เล่าเรียนวิชาความรู้ประเภทนั้น แต่เป็นคุณชายนอบน้อมถ่อมตนมีความสามารถและเล่าเรียนจริงๆ ดังนั้นเขาโกรธก็ส่วนโกรธ จะไม่ทำอะไรที่เป็นการรุนแรง" ถางชือชือยิ้มเบาๆแล้วกล่าว
“จริงเหรอ?” เซียวชุ่นยิ้มอย่างขมขื่นทีหนึ่ง และไม่ได้พูดอะไรอีก
ดูเหมือนว่าถางชือชือจะไม่ค่อยเข้าใจเฉิงหยูคนนี้มากนัก หรือบางทีอาจจะไม่ค่อยเข้าใจผู้ชายที่ตกหลุมรัก ถึงกับจ้างฆาตกรฆ่าคนแล้ว ยังจะคุณชายสุภาพบุรุษบ้าบออะไรกันอีก
เขาก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่ถางชือชือ ประการแรกมันไม่จำเป็น และประการที่สองเขาก็ไม่มีหลักฐานโดยตรงที่จะพิสูจน์ได้ว่าในตอนนั้นเป็นลูกจ้างของเฉิงหยู
หลังจากที่มาถึงทางเข้าโรงแรมแล้ว ต้วนเจียก็ไปจอดรถ ส่วนเซียวชุ่นและถางชือชือก็เดินเข้าไปในโรงแรมกันก่อน
“จะไปนั่งเล่นในห้องของฉันหรือเปล่า?” ขณะที่จะก้าวเข้าทางเข้าลิฟต์ ถางชือชือมองไปที่เซียวชุ่นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเอ่ยขึ้น
ถางชือชือก็ไม่รู้ว่าทำไม เห็นท่าทางที่ดูสงบและจริงจังอยู่ตลอดของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อเขาอยู่เสมอ อยากจะดูว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรใช่ว่าไม่ปกติก็ดูปกติหรือเปล่านะ
"สะดวกหรือ?"
"สะดวกสิ"
“งั้นก็ไม่ไปแล้ว”
"……ผู้ชายที่ไร้ความรู้สึก"
หลังจากที่ทั้งสองคนแยกจากกันก็ต่างกลับไปที่ห้องของตัวเอง
สงบเงียบทั้งคืน
บ่ายวันถัดมา ตามรายการที่กำหนดไว้ เซียวชุ่นทั้งสามคนมาถึงงานประชุมอภิปรายที่จัดที่โรงแรมโอเรียนทัล ต้วนเจียบอกว่าเขาเคยชินกับความอิสระ จึงทนไม่ไหวกับบรรยากาศที่เคร่งครัดของประชุมประเภทนี้ก็เลยไม่ตามเข้าไปแล้ว จะอยู่รอพวกเขาทั้งสองคนที่ด้านนอก
เซียวชุ่นคิดว่าเขาเข้าไปก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ดังนั้นจึงตามแต่ใจเขา
เมื่อเดินถึงประตูโรงแรมก็บังเอิญพบเหว้ยเทียนฮั๋วเข้าพอดี วันนี้เหว้ยเทียนฮั๋วตั้งใจแต่งชุดที่เป็นทางการ ด้านหลังยังมีชายและหญิงหลายคนที่แต่งกายแบบธุรกิจ
หลังจากที่เห็นเซียวชุ่น เขาโบกมือส่งสัญญาณให้พวกเขาเข้าไปกันก่อน แล้วตัวเองก็เดินไปที่ข้างตัวเซียวชุ่นแล้วพูดจาเยาะเย้ยว่า “เมื่อคืนแกโชคดี แต่ว่าคนจะไม่โชคดีเสมอไปหรอกนะ เดินยามค่ำคืนมากเกินไปยังไงก็ต้องเจอผีเข้า”
“ดูเหมือนว่าที่ถูกคุณชายเหว้ยตบเมื่อคืนจะหนักหนาไม่พอนะ คนที่นายทำให้โกรธเคืองไม่ได้ไม่ใช่เพียงแค่เฉิงหยูคนเดียวสินะ? ระวังตัวให้มากนะ” เซียวชุ่นยิ้มอย่างเฉยเมยพร้อมกับเอ่ย
“คอยดูกัน” เหว้ยเทียนฮั๋วฮึ่มเบาๆเสียงหนึ่ง แล้วหันหลังก้าวเดินก้าวใหญ่เข้าไปด้านใน
“เหว้ยเทียนฮั๋ว หลานชายแท้ๆของเหว้ยเหวินตงประธานสหการค้าแห่งหนิงโจว ลูกชายคนที่สองของประธานใหญ่เหว้ยคนใหม่แห่งอสังหาฯฮั๋วเป่า ประธานเซียวไปทำให้คนแบบนี้โกรธได้ยังไงกันนะ ได้ยินมาว่าเป็นคนบ้าอำนาจ และเป็นคุณชายเจ้าสำราญที่มีชื่อเสียงแห่งเหลยหยาง”
ติงเยว่พูดจายืดยาวแบบนี้ออกมาอย่างสบายๆ เห็นได้ว่าเธอหาข้อมูลมาไม่น้อย พูดแล้วเธอก็ถอนหายใจอย่างดูไม่ออก
“ผมก็แค่มาประชุม บริจาคเงินนิดหน่อย แล้วเขาจะทำอะไรกผมได้?” เซียวชุ่นพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเขาไม่ได้เปรียบอะไรหรอก”
ติงเยว่ไม่รู้ว่าเขาไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ขณะที่คังหย่งเหนียนให้เธอมาก็ไม่ได้เอ่ยถึงฐานะประธานกรรมการแห่งจินสีกรุ๊ปของเซียวชุ่น บอกเพียงว่าเป็นเถ้าแก่ของซิงเหอ คีเอเจอร์ ซึ่งเป็นเพื่อนคนหนึ่งของเขา และขอให้เธอช่วยเซียวชุ่นให้ดี ดังนั้นเธอเพียงแค่ทำหน้าที่ของเธอให้ดีก็พอ
ขณะที่ทั้งสองเข้าไปในสถานที่จัดงาน ก็เห็นภายในโถงประชุมขนาดใหญ่มีที่นั่งอยู่สิบกว่าแถว
แต่ละแถวก็น่าจะมีประมาณน่าหลายสิบที่นั่ง โดยรวมๆมองไปแล้วคาดว่าน่าจะมีสี่ห้าร้อยที่นั่ง ด้านหน้าแท่นบรรยายมีโต๊ะยาวแถวหนึ่งวางอยู่ คิดว่าจะต้องเป็นที่ของพวกผู้นำแน่ๆ
ในเวลานี้งานประชุมยังไม่เริ่ม และยังมีที่นั่งว่างอีกมาก เซียวชุ่นจงใจค้นหามุมที่ค่อนข้างห่างไกล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...