เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 244

"คุณมานั่งที่ข้างผมนี่" เซียวชุ่นลุกขึ้นดึงติงเยว่ไปนั่งที่ตรงที่นั่งของตัวเอง ส่วนเขานั่งหันข้างไปยังที่นั่งของติงเยว่

จงต้าจุนใบหน้าซีดเผือด เหลือบมองเขาด้วยความไม่พอใจสุดขีด แล้วส่งเสียงฮึ่มเสียงหนึ่งด่าเสียงเบาว่า "ไอ้สวะ"

“คุณเป็นผู้จัดการใหญ่สาขาของแห่งคุนหลุนกรุ๊ปหรือ?” เซียวชุ่นถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

“ใช่ ทำไมเหรอ? นายคงจะไม่ใช่ว่าไม่เคยได้ยินแม้แต่คุนหลุนกรุ๊ปมาก่อนหรอกนะ?” จงต้าจุนยิ้มแล้วกล่าวล้อเลียน

“แน่นอนว่าเคยได้ยิน ไม่ใช่แค่เคยได้ยิน แต่ผมยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของคุนหลุนกรุ๊ปด้วย” เซียวชุ่นเหลือบมองเขา แล้วยิ้มจางๆกล่าวขึ้น

รอยยิ้มของจงต้าจุนแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เกือบจะหัวเราะออกเสียงขึ้นมา "คุณคงจะไม่ได้บ้าไปหรอกนะ? ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้งพ้องเพื่อนพี่น้อง ก็แค่พูดคุยกับพนักงานสาวสวยของบริษัทคุณไม่กี่ประโยคหน่ะ"

คนไม่กี่คนที่อยู่ข้างๆของเขาก็มองไปที่เซียวชุ่นด้วยหน้าตาล้อเลียน ราวกับว่ากำลังมองดูคนงี่เง่าคนหนึ่งอยู่อย่างนั้น

เซียวชุ่นหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลขของถังหลี่ ไม่ช้าเสียงของถังหลี่ก็ดังมาจากในโทรศัพท์มือถือ

“ประธานเซียวคุณจากไปนี่ก็ไม่รู้จักมารักษาอีกครั้งสักหน่อยเลยนะ โทรศัพท์ก็ไม่โทรเลยสักสาย ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น เพิ่งนึกขึ้นได้เหรอ?” ถังหลี่พูดเล่นขำขัน

“คุณไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ตอนนี้ผมมีเรื่อง ผมอยากจะถามว่าผมมีสิทธิ์ไล่ผู้จัดการของบริษัทสาขาคนหนึ่งออกไหม?”

“แน่นอน” ถังหลี่ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ทำไม? ใครทำให้คุณโกรธเหรอ?”

“งั้นดีเลย ผู้จัดการใหญ่ของสาขาย่อยหนิงโจวชื่อว่าจงต้าจุนอะไร ตอนนี้ผมจะไล่เขาออก คุณให้สำนักงานใหญ่ประกาศแจ้งในทันทีเลยนะ”

“ไม่มีปัญหา ตอนนี้ชือชืออยู่ที่หนิงโจวพอดีไม่ใช่หรือ ก็ให้เธอเข้ามาแทนชั่วคราวเถอะ” ถังหลี่กล่าวด้วยรอยยิ้มอันชื่นมื่น

หลังจากวางสายแล้ว เซียวชุ่นไม่ต้องดูก็รู้ว่าตอนนี้ท่าทีของจงต้าจุนเป็นอย่างไร

“นายนี่มันเป็นคนประหลาดจริงๆนะ งานประชุมอภิปรายนี้ล้วนเชิญสัตว์แปลกประหลาดอะไรมานะ? คนประเภทนี้ก็สามารถถูกเชิญมาด้วย? หนิงโจวไม่มีคนปกติแล้วหรือ?” จงต้าจุนส่ายหัวพร้อมพูดจาเย้ยหยัน

“ประธานจง จะไปถือสาอะไรกับคนโรคจิตคนหนึ่ง ช่างเถอะช่างเถอะ”

“พวกเราจะเปลี่ยนที่นั่งไหม หากว่าไอ่คนนี้อาการป่วยกำเริบขึ้นมาในภายหลังจะทำยังไง?”

คนอื่นๆหลายคนก็พูดจาเยาะเย้ยตาม

ติงเยว่ข้างๆมองเซียวชุ่นด้วยความประหลาดใจ ในใจเธอมีความรู้สึกลึกลับอย่างหนึ่ง เขาน่าจะไม่ทำท่าทีเสแสร้งอยู่ตรงนั้น คนที่คังหย่งเหนียนให้ความสำคัญมากขนาดนี้ แล้วจะเป็นคนชนชั้นรากในปากของพวกเขาได้อย่างไร

จริงตามนั้น ใช้เวลาครู่เดียว

จงต้าจุนก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง หลังจากที่เขารับสายแล้ว สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้น แล้วมองไปที่เซียวชุ่นข้างๆด้วยท่าทางที่เหลือเชื่อ

“ถ้าหากว่าผมเดาไม่ผิดหล่ะก็สายนี้มาเพื่อบอกคุณว่า คุณถูกไล่ออกแล้วสินะ? ประธานจง”

เซียวชุ่นพูดด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ ไม่แม้แต่จะมองเขาเลยและพูดอย่างเรียบเฉย

“ประธานเซียว ผมผิดไปแล้ว มีตาแต่ไม่มีแวว ในครอบครัวผมมีทั้งคนแก่และเด็ก และเพิ่งเปลี่ยนบ้านไป โปรดมีเมตตาด้วยครับ บอกบริษัทสักคำว่าอย่าไล่ผมออกได้ไหมครับ?” จงต้าจุนอ้อนวอนด้วยหน้าตาโศกเศร้า

ในตอนนี้เขารู้สึกเสียใจภายหลังถึงที่สุดจริงๆ วันนี้ออกจากบ้านควรจะดูปฏิทินให้ดีๆ ว่าไม่เหมาะที่จะออกเดินทางหรือเปล่า

ถ้าไม่ใช่เกิดเจ้าชู้ ก็คงจะไม่มานั่งตรงนี้ หากว่าไม่มานั่งตรงนี้ ก็คงจะไม่ทำเรื่องที่ไร้สาระพวกนี้ ย้อนกลับไปคิดดู ก็ทำได้เพียงแค่โทษตัวเองที่ปากพล่อย

ไม่กี่คนรอบตัวจงต้าจุนได้ยินเขาพูดขึ้นแบบนี้ เริ่มแรกหน้าตาสับสนงุนงง หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็ตระหนักในทันใดว่าเกิดอะไรขึ้นกับสายนั้นที่รับสายไปเมื่อครู่นี้

ทันใดนั้นรู้สึกราวกับนั่งอยู่บนหมุดและเข็ม ในใจวุ่นวายสับสน โดยที่กลัวว่าโทรศัพท์ในกระเป๋าของตัวเองก็จะดังตามขึ้นมาด้วย

ใครจะไปคิดว่าแค่นั่งเลยแบบนี้ เพื่อนบ้านจะเป็นคนโหดร้าย แค่ไม่กี่นาทีก็สามารถไล่ผู้จัดการใหญ่ออกซะแล้ว......

คนที่น่าสงสารก็ต้องมีสิ่งทำผิดมาก่อนได้ใช้มาจนถึงบนตัวของจงต้าจุนนั้นเหมาะกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

เซียวชุ่นก็ไม่ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจเลยสักนิด ที่สำคัญคือเป็นแบบนี้นับพันรอบ และคำพูดที่โอ้อวดที่ออกมาจากปากของจงต้าจุนไม่มีความโน้มน้าวใจเลยแม้สักนิด

เขานั่งอยู่ที่นั่นอย่างไร้อารมณ์ และไม่ได้สนใจจงต้าจุน

หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งนาที ในที่สุดจงต้าจุนก็แตะจมูกและออกจากงานประชุมด้วยความเศร้าสร้อย ทำได้เพียงถอนหายใจอย่างลับๆประโยคหนึ่งว่าไม่สามารถมีชีวิตอยู่ด้วยบาปของตัวเองได้

หลังจากที่จงต้าจุนจากไป คนอื่นๆไม่กี่คนที่อยู่ต่อในตอนนี้ก็เดินหน้าและถอยหลังลำบากอยู่บ้าง

ในท้ายที่สุดก็มีไอ่ที่ใจกล้าหน้าด้านคนหนึ่ง ฝืนทนนั่งลงบนที่นั่งเมื่อครู่นี้ของจงต้าจุน

เขากล่าวกับเซียวชุ่นอย่างจริงใจว่า "เรื่องนั้น……ประธานเซียว ขออภัยด้วยนะครับ เมื่อครู่พวกเราหยาบคายแล้ว คุณอย่าได้คิดมากนะครับ พวกเราไม่ได้มีเจตนาร้าย ก็แค่ปากไม่ดี คุณว่า?"

โชคดีที่เมื่อครู่เขาได้ยินติงเยว่แนะนำเซียวชุ่น ไม่อย่างนั้นตอนนี้แม้แต่ฝ่ายตรงข้ามเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ นั่นก็ยิ่งน่าอายไปอีก

ถึงแม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น หลังจากที่เขาพูดจบก็รู้สึกว่าเกิดเหงื่อเย็นขึ้นที่หลัง

"ไม่เกี่ยวกับพวกคุณ"

เซียวชุ่นกล่าวอย่างสบายๆประโยคหนึ่ง ทำให้คนไม่ดี่คนพวกนั้นถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที

“ขอบคุณครับประธานเซียว ขอบคุณครับประธานเซียว”

ไม่นานนัก งานประชุมอภิปรายก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เซียวชุ่นฟังอยู่ๆก็รู้สึกง่วงอยู่บ้าง กลับเป็นติงเยว่ที่ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจอยู่ด้านหนึ่ง และจดเอาไว้อย่างละเอียด

“จดอะไรอยู่?” เซียวชุ่นถามเบาๆ

“สำเนียงทางการยาวเกินไป ฉันจดประเด็นสำคัญเอาไว้ เผื่อว่าบังเอิญอีกสักพักคุณจำเป็นต้องใช้ ก็สามารถนำมาใช้ได้ทุกเมื่อ” ติงเยว่ยิ้มครั้งหนึ่งแล้วกล่าว

ช่างเป็นแม่หนูดีที่น่าเชื่อถือคนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็บอกกับคังหย่งเหนียนสักหน่อย เหลือแม่หนูคนนี้เอาไว้ข้างกายให้เป็นผู้ช่วยของฉันก็แล้วกัน

แต่พอคิดอีกที เรื่องนี้ก็ช่างมันเถอะนะ

เรื่องประเภทผู้ช่วยสาวนี้ เหยาเสินไม่อนุญาตเป็นแน่ ยิ่งกว่านั้นปกติตัวเองที่แท้ก็ไม่ได้มีงานอะไร เอาผู้ช่วยสาวไปด้วยก็สิ้นเปลือง

งานประชุมอภิปรายที่ยาวนานและน่าเบื่อได้จบลงด้วยเสียงปรบมืออันกระตือรือร้น นอกจากจงต้าจุนคนนั้นที่เกิดเรื่องเล็กๆแทรกขึ้นแล้ว ก็ไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นอีก

ทั้งสามคนหลัวจากที่ทานอาหารที่ด้านนอกก็กลับไปที่โรงแรม

เวลายี่สิบเอ็ดนาฬิกากว่าๆเซียวชุ่นได้รับโทรศัพท์ที่ถางชือชือโทรมา

“ประธานเซียวคุณหาเรื่องให้ฉันได้จริงๆเลยนะ? ตอนนี้พ่อของฉันให้ฉันทำหน้าที่เป็นผู้จัดการใหญ่ของสาขาย่อยหนิงโจวชั่วคราว ฉันจะไปรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง นี่ไม่ใช้ให้ทำเรื่องที่ยากหรอกเหรอ”

ถางชือชือที่กำลังอยู่ในสปากับเพื่อนสนิท โดยมาร์คหน้าและนอนอยู่บนเตียงนวดเอ่ยขึ้น

“พ่อของคุณยังให้คุณคุยเรื่องการเป็นตัวแทนกับสตาร์ไลท์บีโอของพวกเราด้วยหน่ะ ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เข้าใจอะไรเลย ไม่งั้นผมจะให้พ่อของคุณสับเปลี่ยนคนมาละกัน?”

"ไม่ต้องไม่ต้อง ฉันทำได้ ที่จริงฉันทำได้ทุกอย่าง ก็แค่ไม่อยากไปทำงานเท่านั้นเอง"

“ยังมีธุระอีกไหม? ไม่มีธุระวางแล้วนะ”

“โอ้ วันนี้คุณไม่เห็นฉันเลยทั้งวัน อยากรู้ไหมว่าฉันไปทำอะไร?” ถางชือชือกล่าว

"ไม่อยาก"

“ผู้ชายที่น่าเบื่อ ช่วงเช้าฉันไปเข้าร่วมกิจกรรมที่พวกเราร่วมกันจัดขึ้นมา บังเอิญเจอเพื่อนสนิทคนหนึ่งเข้า กลางคืนก็ไม่กลับโรงแรมแล้ว……”

ถางชือชือพูดไม่ทันจบ

เซียวชุ่นก็วางสายลงไปเลย เกี่ยวอะไรกับผมด้วย?

ถางชือชือทางโน้นโมโหจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

"ชู่ว์ ถึงกับมีคนวางสายนางฟ้าหลินของเรา ฉันอยากจะเห็นว่าเขาเป็นพ่อพระมาจากที่ใดกันแน่" เพื่อนสนิทของถางชือชือหลิวเหยียนยิ้มพร้อมเอ่ยขึ้น

ใบหน้าของถางชือชือร้อนรุ่ม

ใช่สิ ผู้ชายที่น่าเบื่อแบบนี้มีอะไรดี จะโกรธเขาไปทำไมกัน? ฉันเป็นถึงคุณหนูพันชั่งของตระกูลถัง ยังอายุน้อยและงดงามดังบุปผา มีศิษย์ตระกูลมั่งมีตั้งเท่าไหร่ในเมืองหลวงที่คิดถึงฉันหน่ะ

เธอเบะปากแล้วพูดว่า “ก็แค่ไอ้สารเลวที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊