เฉ่าหยวนเต๋อโมโหเสียจนร่างกายสั่นไปทั้งตัว ฉีกห่อยาไปพลางเอ่ยพูดมาด้วย : “ไอ้หนู นายอย่าอวดดีนักเลย เดี๋ยวนายจะได้ร้องไห้ ที่กล้าใส่ร้ายสืออันถังของพวกเรา”
จากนั้นเขาก็หยิบหวงฉินออกมาหนึ่งต้น หวงฉินปลอมโดยทั่วไปแล้วผู้ที่สร้างของปลอมขึ้นมาจะใช้รากต้นไม้เล็กๆที่อยู่ตามทุ่งกว้างมาทำ หลังจากที่ตัดและย้อมสีแล้วก็จะเอามาเป็นหวงฉิน เพียงแค่ใช้น้ำลูบพักหนึ่ง หวงฉินของแท้สีจะไม่ลอก ส่วนของปลอมนั้นหลังจากที่เอาน้ำลูบก็จะกลายเป็นสีเหลือง สุดท้ายแล้วก็จะกลายเป็นสีขาวเป็นรากต้นไม้
แน่นอนว่าร้านยาไม่ได้ตั้งใจที่จะขายยาปลอม แต่เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะตรวจสอบยาสมุนไพรทุกๆรากได้ อีกทั้งเป็นไปได้ที่จะมีของปลอมคละปนกันอยู่บ้างเท่านั้น
เฉ่าหยวนเต๋อหยิบน้ำออกมา หยิบเอาหวงฉินขึ้นมาหนึ่งต้นแล้วจุ่มลงไปในน้ำ ใช้น้ำถูอย่างรวดเร็วพักหนึ่ง แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที
แขกที่ล้อมรอบกันอยู่นั้นถึงแม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนถึงการวินิจฉัยนี้ว่าเป็นอย่างไร แต่ก็เห็นสีหน้าของเขาแล้วก็พอจะเดาได้เช่นกัน
“เป็นของปลอมจริงๆอย่างนั้นเหรอ?”
“นี่สืออันถังจะต้องขายหน้าไปกันใหญ่แล้ว”
“ดูแล้วเด็กนี่จะมีความสามารถอยู่บ้างเล็กน้อยจริงๆ แค่ดมก็สามารถแยกแยะของจริงของปลอมได้แล้ว”
“พวกเราอาจจะเข้าใจเขาผิดไปแล้วจริงๆ”
เซียวชุ่นส่งเสียงออกมาเบาๆ : “เป็นยังไงครับ? คุณยังอยากมีอะไรจะพูดอีกไหม”
เฉ่าหยวนเต๋อกลืนน้ำลาย เกิดความรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาเซียวชุ่นขึ้นมาทันที ต้องรู้ว่าหวงฉินนี่ผ่านการจัดการมาแล้ว เพียงแค่อาศัยการดมกลิ่นนั้นตัวเขาเองก็แยกแยะไม่ออกเช่นกันว่าเป็นของจริงหรือของปลอม แต่เพื่อเป็นการรักษาชื่อเสียงของสืออันถังเอาไว้นั้นจึงไม่สามารถปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้
“นี่เป็นความผิดพลาดของการทำงานของพวกเราจริงๆ แต่แค่นี้ก็พิสูจน์ไม่ได้นี่ว่าทักษะทางการแพทย์ของนายเก่งขนาดไหน ถ้าไม่อย่างนั้นเรามาลองแข่งกันไหม?”เขากัดฟันแน่น
“คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะมาแข่งกับผม”เซียวชุ่นเอ่ยพูดขึ้นด้วยใบหน้านิ่งๆ ความจริงในใจรู้สึกทนไม่ไหวกับคนนี้ๆอยู่บ้างแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นแล้วฉันล่ะ?”
และเวลานี้มีคนสูงวัยคนหนึ่งอายุประมาณหกสิบเดินออกมาจากด้านใน สีหน้าแดงระเรื่อ สีหน้าท่าทางกระฉับกระเฉง ค้ำไม้เท้าที่เป็นหัวมังกรเอาไว้
ในกลุ่มคนนั้นส่งเสียงร้องขึ้นมาด้วยความตกใจทันที
“ท่านหวางเย๋”
“ได้ยินชื่อและฉายาของท่านหวางมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ท่านหวางเปิดเผยตัวน้อยมาก วันนี้ได้มาเจอตัวจริงแล้ว โชคดีมากจริงๆ”
“คุณเองก็ไม่มีคุณสมบัติพอเหมือนกัน”เซียวชุ่นยังคงเอ่ยพูดขึ้นมาอย่างนิ่งๆเช่นเดิม
“คุณเองก็ไม่มีคุณสมบัติพอเหมือนกัน”
คำพูดประโยคเดียวเบาๆของเซียวชุ่นเหมือนกับการโยนก้อนหินลงบนพื้นผิวของทะเลสาบที่นิ่งสงบอยู่ เกิดเป็นระลอกคลื่นขึ้นมาในทันที
คนที่ล้อมรอบอยู่นั้นแตกตื่นขึ้นขึ้นมา
“เจ้าเด็กนี่อวดดีเกินไปแล้วจริงๆ!”
“ท่านหวางเย๋เป็นบุคคลที่มีอำนาจและอิทธิพลในเมืองหลวงจะมาหาเขาให้รักษาโรคให้ยังต้องนัดก่อนล่วงหน้าเลยเชียวนะ เด็กกะโปโลอย่างนายไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำบ้างเลย”
“ท่านหวางแข่งกับนายนั่นเป็นการให้เกียรตินายนะ รู้หรือเปล่า?”
หวางเย๋ลูบเครายาวสีขาว แล้วยกมือขึ้นมากดลงไปทางด้านล่าง เสียงผู้คนก็เงียบลงในทันที
เขาค่อยๆเดินมาตรงเคาน์เตอร์อย่างช้าๆ เด็ดหวงฉินมาดมหนึ่งต้น ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย พลางเอ่ยพูดขึ้นกับเฉ่าหยวนเต๋อด้วยอาการที่จริงจัง : “ไปตรวจสอบให้ชัดเจน ดูว่าปัญหาเกิดจากตรงช่วงไหนกันแน่”
เฉ่าหยวนเต๋อพยักหน้ารับ จากนั้นก็รีบเดินเข้าไป
“ทุกท่าน ยาสมุนไพรของพวกเราสืออันถังเกิดปัญหาขึ้น เป็นความผิดพลาดในการทำงานของพวกเรา ผมขอเป็นตัวแทนของสืออันถังขอโทษทุกๆท่านด้วย พวกเราจะต้องทำการตรวจสอบให้ดีอย่างแน่นอน และต้องอธิบายให้กับทุกๆคน และกับสังคมด้วยเช่นกัน เรื่องราวในครั้งนี้เป็นการเตือนพวกเราว่าจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพให้เข้มงวดขึ้น ต่อไปพวกเราจะต้องรอบคอบขึ้นอย่างแน่นอน”
คนรุ่นหลังถ้าหากรู้ว่าอายุของตัวเองจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงเพียง65ปีเท่านั้น พวกเขาเกินกว่าครึ่งก็คงจะรู้สึกหดหู่สิ้นหวังเพราะเรื่องนี้ และไม่อยากจะยอมรับความจริง
ในเมื่อเด็กหนุ่มคนนี้สามารถมองออกได้อย่างง่ายดาย ถ้าอย่างนั้นบางทีเขาอาจจะมีวิธีกำจัดพันธนาการที่ไม่สามารถทำลายได้ของตระกูลหวางก็ได้
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้ว หวางเย๋ก็เดินถือไม้เท้าแล้วเดินไปทางเซียวชุ่นทั้งสองคนนั้นอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูตื่นเต้น และกลุ่มคนที่ล้อมรอบอยู่นั้นก็เปิดทางให้โดยอัตโนมัติ
เขาเดินไปตรงหน้าเซียวชุ่น โค้งตัวให้พลางเอ่ยขึ้น : “ขอเชิญคุณไปคุยกันด้านในได้ไหม?”
ความลับนี้ของตระกูลตัวเองไม่สามารถให้คนนอกรู้ได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเชิญให้เซียวชุ่นเข้าไปที่ออฟฟิศในร้านยาถึงจะสามารถเอ่ยถามอย่างละเอียดได้
“โรคของคุณตอนนี้ผมรักษาไม่ได้”เซียวชุ่นเอ่ยพูดตามความจริง
โรคของหวางเย๋เขาเคยเห็นในหนังสือแพทย์โบราณเล่มหนึ่งที่ซ่อนเอาไว้ของอาจารย์ ต้องการกำจัดโดยสิ้นเชิงเลยนั้น จะต้องรอให้ตัวเองทำลายรากฐานของสรรพสิ่งที่เป็นมาตั้งแต่เกิดก่อน แล้วเข้าสู่แดนแหงนฟ้าถึงจะได้
เหยียนหวงสิบสามเข็ม ทุกครั้งที่เข้าสู่ระดับที่บรรลุถึงขั้นใหม่ก็จะสามารถเข้าถึงประสิทธิผลใหม่ได้
และต้องการจะรักษาโรคทางพันธุกรรมของตระกูลหวางมีเพียงแค่รอให้ตัวเองเข้าสู่แดนแหงนฟ้าถึงจะสามารถ “แก้ไขชีวิต”ได้
การจะทำลายขั้นแดนพรสวรรค์แล้วเข้าสู่แดนแหงนฟ้าได้นั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้เพียงชั่วข้ามคืน
ในโลกนี้เกรงว่าจะมีเพียงแค่อาจารย์เท่านั้นที่สามารถช่วยชีวิตของหวางเย๋ได้ เพียงแต่ว่าอาจารย์ท่องเที่ยวมาหลายปีแล้ว ไม่มีข่าวคราวเลย และเขาเองก็ไม่สามารถด้วยเช่นกัน
หวางเย๋ได้ยินเขาพูดแบบนี้แล้ว ไม่เพียงแค่ไม่ผิดหวัง ดวงตาคู่นั้นเป็นประกายขึ้นมา คนหนุ่มคนนี้เขามองเห็นอาการของโรคที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของตัวเองจริงๆ
อาการป่วยที่ยาวนานกลายเป็นหมอที่ดี สาเหตุที่คนของตระกูลหวางอยู่ในทางการแพทย์มาเป็นหลายชั่วอายุคน เป็นเพราะเพื่อที่จะกำจัดพันธนาการที่อยู่กับตระกูลของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามหลายร้อยปีผ่านไป ตระกูลหวางแห่งชิงฮู๋ได้กลายเป็นตระกูลแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงแล้ว แต่กลับยังไม่มีวิธีการแก้ไขกับโรคทางพันธุกรรมนี้ได้
แต่เด็กหนุ่มคนนี้เพียงแค่เห็นตัวเองอยู่ไกลๆแวบเดียวก็มองออกแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...