เมื่อเห็นว่าได้ผลแล้ว เหยาเจิ้นชูยกมือขึ้นแล้วกดลง ทำให้ทุกคนต่างพากันเงียบขึ้นมา
“ไม่ว่าความทะเยอทะยานของเขาจะเป็นอย่างไร ในตอนนี้พวกเรายังคงต้องพึ่งพาความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซ่งเจิ้นไห่ จึงไม่สามารถไล่เขาออกไปจากตระกูลเหยาโดยไม่ยั้งคิดได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงเอายู่เหลย อินเตอร์เนชั่นเนลกลับมาอยู่ภายใต้บริษัทใหญ่ชั่วคราวก่อน เช่นนี้ เจี้ยนกั๋วแล้วก็สะใภ้เจี้ยนกั๋ว พวกเธอยังมีอะไรจะพูดอีกมั้ย?”
เหยาเจี้ยนกั๋วกับหลิวหยุนเซียงหันมามองตากัน ก็เห็นความหมดหนทางจากแววตาของอีกฝ่าย
ดูจากสถานการณ์แล้วก็คงต้องเป็นไปตามนี้ก่อน เพียงแค่ในใจหลิวหยุนเซียงยังคงไม่ยอมรับอยู่ดี
“ก็ได้ เช่นนั้นก็เอาตามที่คุณอารองวางแผนไว้แล้วกัน” เหยาเจี้ยนกั๋วครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จึงได้ถอนหายใจและเอ่ยปากตอบ
เหยาเสินไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการประชุมที่บ้านเก่าแก่ตระกูลเหยาเลย จึงได้เข้าไปทำงานที่บริษัทตามปกติ
ยู่เหลย อินเตอร์เนชั่นเนลเดิมเป็นบริษัทค้าส่งและค้าปลีกเกี่ยวกับเสื้อผ้า ตั้งแต่เธอรับช่วงต่อ ใช้ความพยายามอย่างมากและได้ทำการเปลี่ยนแปลงบางอย่างตั้งแผนกออกแบบเปิดตัวเสื้อผ้าที่มีลักษณะเฉพาะของแบรนด์ เพื่อให้ยู่เหลย อินเตอร์เนชั่นเนลสามารถเพิ่มตัวขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ขึ้นมา
ปัจจุบัน แผนกใหม่เพิ่งเข้าสู่ขั้นตอนอย่างเป็นทางการ อีกไม่นานก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องแสดงฝีมือแล้ว
เธอไม่เคยคิดมาก่อน ในเวลานี้ ญาติที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอกำลังสมคบคิดกันเพื่อแย่งชิงสิทธิ์ในการจัดการของเธอ
สำหรับเซียวชุ่นเจ้าหนุ่มว่างงานคนนั้น ก็ได้ลงจากรถไปตั้งแต่ครึ่งทางแล้ว
เดิมทีเขาตั้งใจจะไปดูว่าซ่งหลิงเอ๋อร์ดื่มยาที่เขาเตรียมไว้เป็นอย่างไรบ้าง แต่กลับคาดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กคนนี้จะไปเรียนเสียแล้ว
ในความจริง ซ่งหลิงเอ๋อร์ยังคงต้องไปเรียนนั่นแหละ เพียงแต่เป็นพวกสามวันดีสี่วันไข้เท่านั้น
อีกทั้งยังเป็นคนที่ชอบมองโลกในแง่ร้ายมาก ๆ รถของเธอเป็นรถสปอร์ตมูลค่าหลายสิบล้าน ไม่เคยที่จะขับรถเข้าไปในโรงเรียน แต่กลับจอดรถบนถนนที่ค่อนข้างห่างไกลจากโรงเรียนไปหลายร้อยเมตร คนอื่น ๆ ก็ไม่มีทางรู้ว่าเธอมีสถานะเป็นถึงคนของตระกูลซ่ง
เซียวชุ่นเดินไปตามถนนโดยไม่มีอะไรทำ เมื่อผ่านร้านดอกไม้ ทันใดนั้นก็เดินเข้าไปในร้านด้วยความเหม่อลอย และซื้อช่อลิลลี่ออกมา
แต่งงานมาได้สามปีแล้ว อย่าพูดถึงของขวัญเลย แม้แต่ดอกกุหลาบสักดอกยังไม่เคยมอบให้เหยาเสินสักครั้ง
นาน ๆ ทีวันนี้เกิดมีความคิดเช่นนี้ขึ้นมา โรแมนติกบ้างสักครั้ง คนจนก็มีสิทธิ์ที่จะโรแมนติกเหมือนกันนี่
เซียวชุ่นเย้ยหยันตัวเอง
เรียกรถมุ่งหน้าไปที่ตึกหลงซิ่ง
“คุณคือร้านดอกไม้ข้าง ๆ นั้นใช่มั้ย? ดอกไม้นี้น่าจะเป็นของประธานเหยาคนนั้นที่ชั้น16 ยู่เหลย อินเตอร์เนชั่นเนลอีกล่ะสิ? สามารถเห็นคนมาส่งดอกไม้ได้ทุกวัน ถึงว่าตึกหลงซิ่งถึงได้ถูกเรียกว่าช่อดอกไม้”
ตอนที่เซียวชุ่นเดินเข้าไปในตึกหลงซิ่ง เดินผ่านหญิงสาววัยรุ่นสามคนที่แต่งตัวสะสวย หนึ่งในนั้นคนที่มีผมลอนสีม่วงเข้มคิดว่าเขาเป็นพนักงานส่งของร้านดอกไม้
“นั่นสามีของประธานเหยา” สาวสวยอีกคนหนึ่งที่สวมชุดทำงานสีดำเอ่ยเตือน
“จริงหรือ ได้ยินมาว่าสามีของหล่อนเป็นพวกแมงดาเกาะผู้หญิงกิน จริง ๆ ฮันก็คิดว่าเป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น เป็นถึงประธานเหยาผู้สง่างามไฮโซ มักจะหนุ่มหล่อมาส่งดอกไม้ไม่ขาดสายแต่ก็โดนเธอปฏิเสธทุกที ตอนนี้ดูเหมือนจริง เสียดายความสวยของท่านประธานเหยาเสียจริง”
“เธอดูสิเขาสวมใส่ของตลาดนัดทั้งตัว ในมือถือช่อดอกไม้อย่างใหญ่ ทำไมยิ่งดูยิ่งรู้สึกตลกกันนะ” สาวผมลอนสีม่วงพูดพร้อมเสียงหัวเราะ
“... ”
เซียวชุ่นแอบยิ้มเจื่อน ๆ
ที่แท้คนจนไม่มีแม้กระทั่งสิทธิ์ในการมีความโรแมนติก
ยู่เหลย อินเตอร์เนชั่นเนลอยู่ชั้น 16
แผนกต้อนรับและพนักงานบริษัทต่างก็รู้จักเซียวชุ่น ไม่ได้ถูกกีดขวางอะไร สามารถเดินเข้าไปได้อย่างสะดวก
เหยาเสินเห็นเขาเดินเข้าไปในออฟฟิศพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ อึ้งไปเล็กน้อยแล้วพูดด้วยใบหน้าเย็นชา “คุณมาได้ยังไงกัน? เคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้มาที่บริษัทน่ะ?”
เซียวชุ่นยิ้มตาหยีพร้อมกับเดินเข้าไป “วันนี้มันวันครบรอบแต่งงานสามปีของเราสองคนนี่นา ตลอดสามปีมานี้ฉันไม่เคยมอบอะไรให้คุณเลย ระหว่างทางเลยแวะซื้อช่อดอกไม้เพื่อชดเชยให้เล็กน้อย”
เหยาเสินชะงักไปอีกครั้ง
วันครบรอบแต่งงาน ช่างเป็นคำที่ทั้งคุ้นเคยและทั้งแปลกใหม่จริง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...