เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) นิยาย บท 611

ตอนที่ 611 คุณนายชราของตระกูลลึกลับ!

เย่เฉินสนใจในตัวตระกูลสมิตซ์อย่างมาก!

เขาฉวยโอกาสในการช่วยเกอร์ธา ไปพร้อมๆ กับสืบหาความลับของพวกเขา!

แปดตระกูลลึกลับนี้ ในทุกตระกูลล้วนแต่มีความลับที่ให้ตระกูลอื่นๆ รู้ไม่ได้ เหมือนอย่างทักษะทางการแพทย์ของตระกูลเย่ ตระกูลพัคก็สามารถทำให้คนอายุน้อย 10 ปี

ถ้าหากวันนี้ได้รู้ไม้เด็ดของตระกูลสมิตซ์เพื่อที่ต่อไปจะเจอกัน หรือว่าทำธุรกิจด้วยกัน ก็จะมีปากมีเสียงอะไรได้

เย่เฉินกล่าวกับชิงหลง “ชิงหลง นายไปก่อน เสี่ยวหวังเองกำลังรอนายอยู่ที่ประตู”

ชิงหลงไม่อยากจะปล่อยให้เย่เฉินไปเสี่ยงอันตรายคนเดียว จึงรีบร้อนกล่าว “คุณชาย ผม แค่ก…ผมไม่เป็นไร ผมไหวครับ!”

เย่เฉินกล่าว “เรื่องการต่อยตีกป็นอาชีพนาย แต่ไสยาสตร์พวกนี้นายไม่เก่ง ยกให้ฉันจัดการเถอะนะ นายกับเสี่ยวหวัง ซีกวาอยู่ด้านนอกคอยเฝ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด ถ้าหากฉันมีเรื่องก็รีบมาช่วยก็พอ”

ไม่ว่าอย่างไรเย่เฉินก็มีเครื่องบิน โดรน หรือว่าพวกของไฮเทคมากๆ จะช่วยเย่เฉินก็ง่ายนิดเดียว

ถึงขนาดที่ว่าเย่เฉินสามารถข่มขู่พัคซุงวูได้แบบก่อนนี้ ทันทีที่โดนพ่อแม่ของหญิงสาวด่า แล้วเย่เฉินก็ยังสามารถสั่งให้ชิงหลงถล่มปราสาททิ้งได้ด้วย

ยากมากทุกคนก็แค่ตายไปด้วยกัน

เย่เฉินแน่ใจว่าในบรรดาทั้งแปดตระกูลนี้ไม่มีใครอยากจะตายไปพร้อมๆ กับตนเองแน่

เย่เฉินไม่พูดพร่ำทำเพลง ดูตำแหน่งที่เกอร์ธาส่งมาแล้วก็วิ่งตรงไปยังตำแหน่งนั้นทันที

เมื่อไปถึงด้านหน้าของตัวหอคอย เย่เฉินก็กระโดขดขึ้นไปปีนขึ้นไปด้านบน

ใช้มือเปล่าปีนหอคอยเป็นเรื่องที่สามพี่น้องตระกูลเย่ชอบทำ สำหรับคนที่มีงานอดิเรในการออกกำลังกายนอกบ้านแล้ว ไม่ใช่เรื่องยากอะไร สำหรับเย่เฉินแล้วง่ายนิดเดียว

เย่เฉินปีนขึ้นไปด้านบนสุดอย่างรวดเร็ว

ส่วนเกอร์ธาอยู่บนชั้นที่สูงที่สุดของหอคอย

ในตอนนี้เองเย่เฉินเองแค่ต้องทำลายหน้าต่าง แล้วพุ่งเข้าไปด้านใน ไม่ถึง 100 เมตร เย่เฉินก็จะเจอตัวเกอร์ธา

แต่ว่าในเวลานี้เองจู่ๆ ลมก็พัดกรรโชกแรง!

เป็นเหมือนพายุสลาตันอย่างไรอย่างนั้น ลมม้วนตัวแรงพุ่งไปหาเย่เฉิน เหมือนว่ามันต้องการจะทำร้ายเขา อยากจะพัดให้เขาร่วงลงมาจากยอดหอคอย!

เย่เฉินใช้มือสองข้างปีนกำแพง หันลงมองข้างล่าง ความสูงในตอนนี้ถ้าร่วงลงไป ถึงไม่ตายแต่ก็อาจจะขาหักสองข้าง!

พู่ว… พู่ว…

ลมพัดกรรโชกแรงไม่หยุด!

ทว่าเย่เฉินกลับไม่มีท่าทีลนลานแม้แต่น้อย!

“ชิ เมื่อกี้ตอนเราปีนไปถึงชั้นหนึ่ง ชั้นสิง ยังไม่เห็นมีลมแรงเลย จนฉันปีนถึงยอดลมก็พัดแรงมาเชียว เห็นได้ชัดว่าเป็นฝีมือคน จงใจทำร้ายกัน!”

ในที่สุดเย่เฉินก็เข้าใจว่าทำไมอากาศแถวนี้ถึงได้แปลกประหลาดแบบนี้ ทั้งๆ ที่พยากรณ์อากาศบอกว่าไม่มีลม แต่ที่นี่กลับมีลงพัดกรรโชกแรงไม่หยุด

แต่ว่านี่เป็นฝีมือมนุษย์ ไม่อยากให้คนนอกเข้ามาที่นี่ก็เท่านั้น

“ยังจะกล้าเล่นปาหี่แบบนี้ต่อหน้าฉัน! ลมเพียงนิดเดียวก็สามารถพัดเราลงไปได้ อยากจะให้ฉันตกลงตายงั้นเหรอ? เกรงว่าชัดจะดูถูดคนตระกูลเย่มากเกินไปแล้ว!”

แล้วทันใดนั้นเองเย่เฉินก็ตบหลังตนเอง

เคร้ง!

จู่ๆ แผ่นหลังของเย่เฉินก็มีปีกคู่หนึ่งงงอกออกมา หลังจากนั้นมือสองข้างก็เย่เฉินก็ไม่ต้องจับกำแพงอีกต่อไป เขาลอยอยู่กลางอากาศไม่ร่วงลงไป!

ซึ่งแน่นอนว่านี่เป็นอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ของตระกูลเย่ แต่ว่าเจ้านี่อาจจะไม่ได้ไฮเทคนักหนา มันก็แค่ช่วยประคองให้อยู่กลางอากาศได้อย่างสมดุลทำให้ไม่ร่วงลงไป

บริษัทในหลายๆ ประเทศ ล้วนแต่สามารถผลิตได้

เย่เฉินกล่าวท้าทายอีกครั้งทันที “อยากจะให้ลมพัดฉันให้ร่วงไม่ใช่เหรอ? เอาสิ ขอลมแรงๆ!”

แล้วสิ่งที่น่าสนใจก็คือพอเห็นเย่เฉินลอยกลางอากาศได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะตกลงไปตาย ลมนี้เหมือนกับมีชีวิตมันเบาลงไปเรื่อยๆ

“ฮึ”

เย่เฉินเห็นฝ่ายตรงข้ามไม่ก่อเรื่องอีก ก็เตะใส่กระจกแล้วเก็บปีกเอาไปแล้วพลิกตัวเข้าไปด้านใน

ทว่าตอนที่เย่เฉินเพิ่งถึงยอดหอคอย ก็พบหญิงชราในวัย 80 กว่าปี!

ใบหน้าของหญิงชราผู้นี้เต็มไปด้วยริ้วรอย ดูแล้วน่าตกใจอย่างยิ่ง!

“เด็กน้อย เธอไม่ควรมาที่นี่ ที่นี่จะเป็นหลุมศพของเธอ!”

หญิงชรากล่าวด้วยน้ำเสียงคุกคาม

แต่เย่เฉินกลับไม่ได้ตกใจแต่อย่างใด แต่มองประเมินหญิงชราตรงหน้าอย่างละเอียด แล้วกล่าวอย่างเซ็งๆ “คนจีนเหรอเนี่ย?”

คิดไม่ถึงว่าหญิงชราคนนี้จะเป็นเพื่อนร่วมชาติของเขา แถมยังพูดภาษาจีนใส่เขาอีก

ทำไมตระกูลสมิตซ์ที่เป็นคนยุโรป ถึงได้มีเพื่อนร่วมชาติเขาเยอะขนาดนี้ได้เนี่ย?

เย่เฉินหันไปถามฝ่ายตรงข้าม “คุณเป็นใคร? ตระกูลสมิตซ์กับประเทศเรามีอะไรเกี่ยวข้องกัน?”

หญิงชรามองเย่เฉิน แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าชายหนุ่มตรงหน้าขาไม่สั่น พูดจาเรียบๆ ทำตัวสบายๆ ทั้งที่อยู่ในบรรยากาศที่น่าสะพรึง

“พ่อหนุ่มน้อย ฉันไม่เคยเจอคนที่มีความกล้าแบบเธอมาก่อน ที่เจอฉันแล้วไม่ตกใจจนฉี่ราด ในบรรดาคนอายุเท่าเธอเนี่ย เห็นจะมีแต่เธอเป็นคนแรกเลย”

ใบหน้าหญิงชราเผยรอยยิ้มที่ดูน่ากลัว

เย่เฉินกล่าวด้วยท่าทีขึงขัง “ตอบคำถามผมมา!”

หญิงชราระบายยิ้มแล้วกล่าว “นี่ไม่ใช่คำถามที่เธอควรจะถามนะ วันนี้เธอได้รู้ได้เห็นอะไรมากจนเกินไปแล้ว รู้ความลับเยอะเกินไป ฉันจำใจต้องฆ่าเธอปิดปากเพื่อไม่ให้ความลับพวกนี้แพร่งพรายออกไป!”

หญิงชราที่มีริ้วรอยเต็มใบหน้า ตัวเตี้ยเล็ก คิดไม่ถึงว่าจะบอกว่าต้องการจะฆ่าเย่เฉินที่ตัวใหญ่กว่าตนเองถึงสองเท่า!

เย่เฉินยังคงไม่มีท่าทีหวาดกลัวแล้วกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “อ้อ จะฆ่าผมปิดปากเหรอ? งั้นผมขอเตือนไว้เลยนะ คนที่รู้ความลับของพวกคุณเนี่ยไม่ได้มีแค่ผมนะ แต่มีคนตระกูลลพัคด้วย”

หญิงชราหน้าถอดสี “อะไรนะ? ตระกูลพัคจากเกาหลีน่ะเหรอ? ตระกูลพัคในตระกูลลึกลับเหรอ?”

เย่เฉินจึงตอบ “ถูกต้อง ตระกูลพัคนั่นแหละ เมื่อครู่พัคซุงวูทายาทรุ่นที่สองของตระกูลพัค ก็มาที่ปราสาทตอนค่ำๆ เหมือนกัน ความลับของพวกนาย เขารู้ทุกเรื่องแล้ว คาดว่าคงกลับไปบอกพ่อเขาแล้ว หลังจากนั้นคนทั้งแปดตระกูลได้รู้กันหมดแน่ คุณจะฆ่าปิดปากเขาเหรอ? เดี๋ยวผมเอารูให้นะครับ ตอนคุณหาตัวเขาจะได้สะดวก”

ในระหว่างที่พูดเย่เฉินก็ใช้ไอโฟน 18 ของเขา แล้วปริ้นท์รูปภาพของพัคซุงวูส่งให้หญิงชรา

“แต่ที่อยู่ของเขา ผมเขียนให้คุณไม่ได้ เพราะผมไม่รู้ ถ้าพวกคุณหาไม่เจอ ไปลองหาตัวพัคอินอาก่อนเพราะหล่อนเป็นพี่สาวเขา แต่ว่านะอย่าทำร้ายหล่อนล่ะเพราะพัคอินอาเป็นผู้หญิงที่ผมชอบ”

ท่าทีนี้ของเย่เฉินทำให้หญิงชราที่ตั้งท่าจะเขย่าประสาทอีกฝ่ายมีสีหน้างุนงง

นี่อยากจะยืมมือหล่อนกำจัดพัคซุงวูใช่ไหม?

หญิงชราหันมองเย่เฉินแล้วดูไอโฟน 18 “มือถือในโลกอนาคต… คิดไม่ถึงว่าเธอเองก็รู้เรื่องของแปดตระกูลลึกลับด้วย เธอก็เป็นคนของแปดตระกูลเหรอ?!”

เย่เฉินประสานมือ “ต้องขออภัยี่ล่วงเกิน ผมคือเย่เฉินจากเมืองจีน เมื่อครู่เห็นคนเอเชียขึ้นรถหหงฉีออกไป คิดเหมือนกันว่าจะต้องเป็นคนจีนแน่ ในเมื่อเราก็เป็นเพื่อนร่วมชาติกัน เช่นนั้นผมขอถามชื่อของทั้งสองท่านหน่อย ไม่แน่นะครับว่าอาจจะรู้จักกับคุณปู่ของผมก็ได้!”

หญิงชราแค่นเสียงใส่ “เย่ฉงไห่ใช่ไหม?”

เย่เฉินตอบกลับอย่างภาคภูมิใจ “ใช่แล้ว!”

หญิงชราระบายยิ้มประหลาด “เหอะๆ ตาแก่นั้นใกล้จะตายแล้วล่ะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)