ขบวนเสด็จขององค์ชายสิบห้าออกจากจวนสกุลเผย ชิงหลานควบม้าอยู่เยื้องด้านหลังองค์ชายเล็กน้อย เสี่ยวลิ่งนั่งม้าตัวเดียวกันกับจงเหยียนอย่างหวานชื่นเช่นเดียวกับตอนที่ไปส่งชิงหลานที่บ้านหมอจวง เมื่อถึงตำหนักที่พักชิงหลานก็รีบสอบถามถึงเรื่องยาที่นางให้เสี่ยวลิ่งหลอกล่อไคฉีให้ซื้อไป
“ข้าทำอย่างที่คุณหนูต้องการแล้วเจ้าค่ะ!” เสี่ยวลิ่งเล่าเรื่องที่ไคฉียอมควักเงินสองตำลึงซื้อยาห่อนั้นทั้งยังต้มดื่มในทันทีที่ห้องต้มยา
สีหน้าของชิงหลานฉายแววพอใจ “ไคฉีผู้นี้อำมหิตยิ่งนัก นางคือผู้ที่วางยาคุณหนูใหญ่เผยกับสาวใช้เยว่ก่อนจะทำให้รถม้าตกเขาจนหญิงทั้งสองต้องตายอย่างน่าอนาถ”
จังเสี่ยวลิ่งผงะ “คุณหนูทราบได้อย่างไรเจ้าคะ?”
“ข้ารู้อย่างชัดเจนจึงได้กล้าลงมือ ข้าทำให้นางตายไม่ได้เพราะผิดกฎหมายบ้านเมือง แต่ข้ามีวิธีทำให้อยู่ไม่สู้ตาย ทำเช่นนี้จึงจะสาสมกับความโหดร้ายของนาง” ชิงหลานที่มีจิตภายในเป็นเผยมู่ซียิ้มมุมปาก แม้แต่ท่านย่าที่สอนให้เมตตาต่อพวกนาง พวกนางก็ยังมิได้ละเว้น...แล้วเผยมู่ซีจะละเว้นพวกนางไปทำไมกัน?
เสี่ยวลิ่งมองคุณหนูของตนที่เปลี่ยนไปอย่างมาก จากคนอ่อนแอที่นอนป่วยอยู่บนเตียง กลายมาเป็นจิตรกรที่เก่งกาจ จากนั้นก็ฝึกวรยุทธ์และยามนี้ยังวางแผนจัดการคนชั่วได้อย่างตาต่อตาฟันต่อฟัน เสี่ยวลิ่งได้รู้เห็นเหตุการณ์ในวันนี้รู้สึกได้ว่าไคฉีกับถังฮูหยินดูเหมือนจะเคยทำเรื่องเลวร้ายมาแล้วหลายครั้ง แต่ยามนี้กลับพลาดท่าเสียทีให้กับการวางแผนตลบหลังขององค์ชายสิบห้ากับคุณหนู
“จะว่าไป ข้าไม่เห็นคนทั้งสองดูสลดกับความผิดที่ถูกคนจับได้เลยนะเจ้าคะ”
“พวกเขาคงมิใช่ทำมาเพียงครั้งสองครั้งน่ะสิ!”
“เจ้าค่ะ พวกนางทั้งลงมือเหี้ยมโหดและเด็ดขาดนัก”
“ไคฉีที่ดื่มยาไปจนหมดถ้วยคงไม่เกินเที่ยงคืนนางจะได้รู้ว่าฤทธิ์ของดอกกักวิญญาณที่แท้จริงเป็นเช่นไร?” ชิงหลานแสยะยิ้ม นางก้มลงนอนเอาผ้าห่มปิดถึงหน้าอกก่อนจะหงายร่างลงบนเตียงด้วยความสาสมใจ...
‘ไคฉี...ครั้งนี้เจ้าจะได้ประจักษ์แจ้งด้วยตนเองว่าการถูกวางยาพิษเป็นเช่นไร?’
ในความฝันอันเลือนรางของเผยมู่ซี ก่อนวันอภิเษกสมรสของนางกับองค์ชายสิบห้าจะเริ่มขึ้นสามวัน ถังฮูหยินให้พ่อบ้านเหวินพานางออกไปพบกับเจียงมามาหลี่ที่วังพักผ่อนนอกเมืองหลวงโดยอ้างว่านางต้องได้รับการอบรมสั่งสอนกริยามารยาทก่อนเข้าไปพบพระฮองไทเฮา นางขึ้นรถม้าไปกับเยว่หยวนจุนสาวใช้คนสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน หนึ่งวันหนึ่งคืนที่นางต้องถูกเจียงมามาหลี่ผู้นั้นเคี่ยวกรำจนปวดเนื้อเมื่อยตัวไปหมด พอเช้าตรู่วันที่สองก็ถูกจับให้ลองชุดเจ้าสาวโดยที่ไม่ต้องคลุมหน้า
ครั้นถึงเที่ยงวันไคฉีก็พาสาวใช้สองคนมาตรวจตราความเรียบร้อย ถ้วยยาที่ไคฉีมอบให้นางกำนัลนำมาให้นางดื่มอ้างว่าเป็นยาช่วยคลายอาการอ่อนล้า นางมิได้คิดให้ถี่ถ้วนจึงดื่มแต่โดยดี บ่ายนั้นมีคำสั่งให้นางเดินทางเข้าวังหลวง แม้ฝนจะตกปรอยๆ ถนนเริ่มเฉอะแฉะแต่นางกับเยว่หยวนจุนก็ถูกดันขึ้นรถม้า เจียงมามาหลี่ไม่มีเวลาเปลี่ยนชุดเจ้าสาวออกก่อนจึงบอกให้นางไปเปลี่ยนก่อนเข้าเฝ้าในวัง เผยมู่ซีจึงขึ้นรถม้าด้วยชุดแต่งงานสีแดงเฉิดฉาย ส่วนเยว่หยวนจุนเองก็สวมชุดสีแดงเช่นกัน
เสียงดังกึกๆ ภายนอกทำให้รู้ว่ารถม้าเกิดความผิดปกติ
“หยวนจุนเกิดอะไรขึ้น?” เผยมู่ซีที่มีวรยุทธ์กลับร่างกายชาไปแทบทุกส่วน แขนขาของนางไม่อาจขยับได้ดังใจต้องร้องถามสาวใช้
เยว่หยวนจุนแหวกม่านมองเห็นสายฝนและลมแรงด้านนอกหันกลับมาด้วยสายตาตื่นตะลึง “คุณหนู! ม้าหลุดออกไปแล้วเจ้าค่ะ”
พวกนางทั้งสองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกาสงคนขับรถม้านั้นหายไปที่ใด? ตั้งแต่เมื่อไหร่? และเหตุใดม้าที่ถูกผูกไว้กับรถม้าจึงวิ่งเตลิดหนีหายเหลือเพียงรถม้าของพวกนางกำลังวิ่งไปต่อ
“พวกเราถึงไหนกันแล้ว?”
“แถวป่าสนเจ้าค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)