เกิดใหม่ ไปให้สุด นิยาย บท 121

“ทำไมเธอไม่พักที่นี่สักหน่อยล่ะ? ฉันจะออกไปข้างนอกสักครู่” แซคคารีพึมพำ

แจสเปอร์จิบกาแฟที่คนรับใช้นำมาให้

กาแฟบลูเมาน์เทนแท้ที่ถูกผลิตในจาไมกาเป็นกาแฟที่ดีที่หาได้ยากในหมู่ร้านกาแฟธรรมดาทั่วไป

แต่ถึงอย่างไร แจสเปอร์ก็ยังคิดถึงชาธรรมดาที่มีราคาแค่ห้าสิบดอลลาร์ต่อปอนด์มากกว่า

แจสเปอร์ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับดุลยพินิจแซคคารีที่กล่าวมา

เขาแค่จัดตั้งพันธมิตรกับตระกูลลอว์ แม้ว่าตระกูลลอว์จะยอมรับในสถานะ และความสามารถโดยคำนึงถึงประวัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของเขาด้วยเช่นกัน

นี่เป็นครั้งแรกที่หนึ่งพันล้านจากกองทุนถูกนำมาร่วมด้วย ไม่มีใครสามารถทนรับผิดชอบไหวหากมีการขาดทุนเกิดขึ้น

ขณะที่ผู้นำตระกูลลอว์คนปัจจุบันอย่างแซคคารียังต้องระมัดระวัง

หลังจากที่แซคคารีพักงานตรงหน้าไว้ เขาเดินขึ้นไปชั้นบนทันทีและเคาะประตูห้องของผู้อาวุโสลอว์

“เข้ามาสิ”

เสียงของผู้อาวุโสลอว์มีท่าทีที่เหนื่อยล้าดังขึ้น

เมื่อแซคคารีเดินเข้าไปในห้อง เขาเห็นลูกสาวของเขา แอนนากำลังนวดไหล่ให้กับผู้อาวุโสลอว์และแล้วการพิจารณาก็เริ่มขึ้น

“เขามั่นใจขนาดนั้นเชียวรึ?”

ผู้อาวุโสลอว์ลืมตาขึ้นและถาม

แซคคารียิ้มอย่างขมขื่น “ผมไม่เคยเจอใครที่มีความมั่นใจมากขนาดนี้ ถ้าพูดถึงเรื่องการคาดการณ์ตลาดทุน”

“แล้วแกคิดว่าไงล่ะ?” ผู้อาวุโสลอว์ถามเบา ๆ

“ถ้าเรื่องนี้ล้มเหลว พ่อครับ อย่าไปพูดถึงเรื่องการขาดทุนที่จะต้องเจอดีกว่า ในเมื่อตอนนี้ความเห็นของผู้ก็คนไม่ได้ชื่นชอบตระกูลลอว์มากพออยู่แล้ว ถ้าปัญหาเกิดขึ้น มันอาจกระทบธุรกิจอื่น ๆ ของตระกูลลอว์ไปด้วยนะครับ”

แซคคารีกล่าวด้วยความกังวล

สี่ยักษ์ใหญ่ของเมืองฮาร์เบอร์ต่างเป็นตระกูลมหาเศรษฐีทั้งหมดด้วยมูลค่าทรัพย์สินที่มากกว่าหลายแสนล้านฮาร์เบอร์ดอลลาร์ แม้ว่าหลังการแลกเปลี่ยนเป็นดอลลาร์สหรัฐแล้ว นั่นยังคงสูงกว่าหนึ่งหมื่นล้านของสินทรัพย์ที่มี

ตระกูลลอว์แบกรับภาระการขาดทุนหลายพันล้านฮาร์เบอร์ดอลลาร์ได้อย่างง่ายดาย!

อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือผลที่ตามมาจากข่าวร้ายจะกระทบธุรกิจอื่น ๆ ของตระกูลลอว์ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดโดมิโนเอฟเฟค การขาดทุนมากขึ้นไปอีก

นี่จะสะเทือนถึงฐานรากของตระกูลลอว์

นับตั้งแต่ที่ตระกูลลอว์ประสบกับการขาดทุนกว่าเก้าพันล้านฮาร์เบอร์ดอลลาร์ในปีนั้น การลงทุนของเรียกได้ว่าล้มเหลวมากกว่าได้ประสบความสำเร็จ มีผู้คนจำนวนมากที่มองพวกเขาในแง่ลบ

ตระกูลลอว์หมดศรัทธาในชัยชนะและหันมาปกป้องตนเอง

ตระกูลลอว์สูญเสียมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ไม่ใช่แค่เงินทองแต่รวมไปถึงชื่อเสียงอีกด้วย

ความเงียบทำให้อากาศในห้องหยุดนิ่ง

“คุณปู่คะ คุณพ่อคะ หนูมีบางอย่างจะพูดค่ะ” แอนนากล่าว

ผู้อาวุโสลอว์ยิ้มและพูดว่า “พูดได้เลย ปู่กำลังฟังอยู่”

แอนนาคิดสักครู่และพูดว่า “พวกคุณปู่เคยพูดก่อนหน้านี้ว่าในสนามธุรกิจนั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่พยายามชิงดีชิงเด่นกับคนอื่น แต่คนที่สามารถบริหารธุรกิจให้เติบขึ้นได้ต้องมีความน่าเชื่อถือต่อคนอื่นด้วย”

“นี่คือการร่วมมือกันระหว่างผู้คน ตอนนี้เราเลือกคุณแจสเปอร์เข้ามาเป็นพวกแล้ว นั่นหมายความว่า เราให้ค่าเขา ซึ่งมันเป็นปกติที่เขาจะให้ค่าเรามากขึ้นไปอีก”

“นี่เป็นคำแนะนำแรกที่เขาให้ และเขารู้ดียิ่งกว่าใครว่าคำแนะนำนี้สำคัญมากแค่ไหน ถ้าเรื่องนี้ล้มเหลว มันจะเกิดผลกระทบตรงกันข้ามกับพันธมิตรและความร่วมมือในภายหลัง เพราะงั้นเขาต้องกังวลเรื่องการล้มเหลวมากกว่าเราแน่นอน”

แอนนาพูดด้วยรอยยิ้ม “ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขายังคงให้คำแนะนำได้ เพราะฉะนั้นหนูคิดว่าเราควรรวบรวมความกล้าให้กับตระกูลของเรา”

หลังจากที่เธอกล่าวไปแบบนั้น ผู้อาวุโสลอว์ถึงกับยิ้มออกมากและแตะไปที่หลังมือของแอนนาซึ่งวางอยู่บนบ่าของเขา และพูดว่า “เด็กดีมาก หนูพูดในสิ่งที่ปู่อยากได้ยินเลย”

ด้วยเรื่องนั้น ผู้อาวุโสลอว์ลุกขึ้นและพูดกับแซคคารีว่า “แกอยู่มาตั้งสี่สิบกว่าปีแล้วยังฉลาดไม่เท่าลูกสาวตัวเองเลยนะ ทำไมนะเหรอ แกเคยเข้าใจอะไรง่าย ๆ ทันทีบ้างไหม? แกคิดว่าแกสามารถช่วยเหลือตระกูลลอว์ในสักวันหนึ่งฉันไม่อยู่แล้วได้ไหม?”

แซคคารีรู้สึกอับอายเล็กน้อยแต่กลับรู้สึกภูมิใจในเวลาเดียวกัน

ผู้ชมย่อมเห็นเกมทั้งหมด หลังจากที่ลูกสาวช่วยเตือนความจำ แซคคารีเข้าใจถึงการเดิมพันที่เกี่ยวข้องและเริ่มตัดสินใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด