เมื่อมิทช์เห็นว่าแอนนากำลังเข้าข้างแจสเปอร์ เขารู้สึกได้ถึงเปลวไฟของความโกรธและความอิจฉากำลังเผาไหม้จิตใจของเขา แววตาเต็มไปด้วยความเดือดดาล!
“แอนนา ฉันรู้ว่าเธอบริสุทธิ์ใจ แต่อย่าโดนมันหลอกล่ะ! เธอคิดว่ามันใกล้ชิดตระกูลลอว์โดยไม่มีแรงจูงใจซ่อนเร้นงั้นเหรอ?”
แอนนากัดฟัดด้วยความโกรธ เธออยากบอกพวกเขาว่าแจสเปอร์ทำเงินได้เป็นจำนวนมากแค่จากช๊อตเซลล์
เนื่องด้วยแนวโน้มทั่วไป ตลาดหุ้นฮาร์เบอร์จึงดิ่งลง เขาไม่สามารถสู้กับแนวโน้มทั่วไปได้ และหุ้นก็ร่วงลงอยู่ดีไม่ว่าเขาจะสู้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม นี่คือความลับระหว่างตระกูลลอว์กับแจสเปอร์ ดังนั้น แอนนาคงบอกพวกเขาทุกอย่างไม่ได้
เขามองที่มิทช์และเซนก่อนจะพูดอย่างเยือกเย็นว่า “มิทช์ นายรู้ไหมว่าแจสเปอร์พูดกับฉันว่ายังไง? เรากำลังพูดถึงว่าจะช่วยวิกฤตการณ์ของหุ้นฮาร์เบอร์ได้ยังไง และไม่ใช่การสูบเลือดเนื้อของประชาชนของเมืองฮาร์เบอร์ต่อไปจนหมดตัว! เหมือนบางคนจากตระกูลเศรษฐีตระกูลหนึ่ง นายคงไม่เคยคิดถึงเรื่องเศรษฐกิจของเมืองฮาร์เบอร์หรอกมั้ง?”
“กู้ตลาดหุ้นคืนมางั้นเหรอ?”
มิทช์แทบจะระเบิดหัวเราะออกมา “แจสเปอร์เนี่ยนะ?”
มิทช์ชี้ไปที่จมูกของแจสเปอร์และทุรายทุรายเพราะหายใจไม่ออกจากการหัวเราะ “นี่มันภาวะฟองสบู่ดอทคอมแตก แกรู้ไหมว่าภาวะฟองสบู่แตกหมายความว่าไง?”
“แกแค่ทำเงินได้บ้างในตลาดหุ้นเพราะแกมันโคตรโชคดี แกคิดจริง ๆ เหรอว่า แกจะสามารถคาดการณ์และเข้าใจทุกอย่างได้?”
“ให้ตายเถอะ นี่แม่งเป็นวิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลกนะเว้ย และแกอยากจะเข้าช่วยเหลือตลาดหุ้นงั้นเหรอ? แกเนี่ยนะ? ไอ้บ้านนอกอย่างแกเนี่ยนะ? ฉันอยากหัวเราะให้ตายเลยว่ะ”
“หุ้นฮาร์เบอร์มีมูลค่าไม่กี่ล้านล้านดอลลาร์ หุ้นพวกนั้นร่วงกว่า 10,000 จุดในวันนี้และแม้แต่ตระกูลแลงดอนยังช่วยเรื่องนี้ไม่ได้เลย แกยังกลับไปอวดดีในบ้านเกิดแกพร้อมเงินของแกได้ แกไม่กลัวว่าฉันจะหัวเราะเยาะกับความอวดดีจนออกนอกหน้าของแกในเมืองฮาร์เบอร์บ้างเหรอ?”
แจสเปอร์มองไปที่มิทช์อย่างเห็นอกเห็นใจและพูดอย่างราบเรียบว่า “งั้นก็หัวเราะต่อไป หัวเราะเข้าไปอีก ฉันหวังว่านายจะหัวเราะได้อีกแค่ไม่กี่วัน”
มิทช์จงใจหัวเราะออกมาดังกว่าเดิม “ฉันจะหัวเราะต่อไปและจะหัวเราะใส่แกในทุก ๆ วัน ไอ้บ้านนอกอย่างแกจะทำอะไรฉันได้?”
“กอบกู้ตลาดหุ้นงั้นเหรอ? ช่างแม่งเรื่องกอบกู้อะไรนั้น แล็วช่างแม่งแกด้วย! แกมันคนอวดดีมากที่เอาแต่เพ้อเจ้อ แกมีดีอะไรงั้นเหรอ? แกมันก็แค่ไอ้บ้านนอกจากเมืองห่างไกลความเจริญแบบนั้น แล้วแกอยากที่จะช่วยตลาดหุ้นฮาร์เบอร์งั้นเหรอ? แกอาจไม่กลัวที่จะเสียภาพลักษณ์ของตัวเองไป แต่แกไม่กลัวที่จะทำให้ตระกูลลอว์ขายหน้าบ้างเหรอ?”
“แอนนา เธอเต็มใจปล่อยให้ตระกูลลอว์เสียภาพลักษณ์ไปเพราะไอ้บ้านนอกคนนี้งั้นเหรอ? ฉันคิดว่าเธอควรบอกให้มันไปให้ไวเท่าที่มันจะทำได้ดีกว่า!”
“นายนี่มันไร้สาระเป็นบ้า!” หลังจากที่แอนนากล่าวอย่างเยือกเย็นนั้น เธอจับมือแจสเปอร์และพูดว่า “แจสเปอร์คะ ไปกันเถอะ เราไม่มีอะไรต้องคุยกับไอ้บ้านี่อีก”
แจสเปอร์แตะไปที่มือของแอนนาและพูดกับมิทช์ว่า “ฉันจะจำใบหน้าหัวเราะของนายไว้ ฉันหวังว่านายจะยังหัวเราะเหมือนคนโง่ได้แบบตอนนี้จนถึงตอนที่เราเจอกันอีกครั้งนะ”
“คนที่หัวเราะได้เป็นคนสุดท้ายคือ ผู้ชนะ ถูกไหม?”
หลังจากพูดแบบนั้น แจสเปอร์ออกไปอย่างช้า ๆ พร้อมแอนนา
มิทช์มองดูขณะที่แจสเปอร์และแอนนาเดินห่างออกไปและไกลออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาค่อย ๆ หายไป และสิ่งที่เหลือไว้คือ ท่าทางบิดเบี้ยวที่เต็มไปด้วยความมุ่งร้าย
“นายน้อยแลงดอน ผมอยากจะฆ่าไอ้บ้านนอกนั่นเหลือเกิน!” เซนกล่าวพลางกัดฟัน
“ฉันอยากมากกว่านายอีก!”
มิทช์เปล่งเสียงทางจมูกและพูดอย่างทนงตนว่า “รอก่อนเถอะ มันต้องตายแน่เมื่อเวลานั้นมาถึง ตอนนี้ ปล่อยให้มันลำพองใจตัวเองไปก่อนเถอะ”
เซนครุ่นคิดสักครู่และถามว่า “มันบอกว่ามันทำเงินได้ไม่กี่พันล้านในตลาดหุ้นและอยากจะกอบกู้ตลาดหุ้นคืนมา คุณคิดว่ามันจริงจังไหม?”
มิทช์กัดฟันและหัวเราะอย่างเยือกเย็น เขาพูดว่า “ฉันคิดว่ามันพอทำเงินได้บ้าง แต่ฉันมั่นใจว่ามันไม่ได้มากเท่าถึงระดับพันล้านหรอก แค่ฟังมันพูดเกินจริงไปเท่านั้น! และมันอยากจะช่วยให้ตลาดดีงั้นเหรอ? มันต้องฝันไปแน่ ๆ!”
มิทช์จำข่าวที่พ่อของเขาพูดถึงทางโทรศัพท์ขณะที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้องวิจัยได้ เขารู้สึกได้ถึงหัวใจที่ร้อนรน
เขารู้ว่าพ่อของเขากำลังทำบางอย่างที่สำคัญและมันเกี่ยวของกับวิกฤตการณ์ทางการเงินในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม มิทช์คงไม่บอกเรื่องความลับนี้กับใคร
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เขาเย้ยหยัน ‘แจสเปอร์ แม้ว่าแกเหนือกว่าทุกอย่าง แต่แกจะทำได้ดีกว่าตระกูลแลงดอนงั้นเหรอ?’
“ในวันพรุ่งนี้ ถอนเงินเก็บทั้งหมดมาช๊อตเซลล์กันเถอะ เราจะใช้โอกาสครั้งเดียวในชีวิตนี้ร่ำรวยในชั่วข้ามคืน!”
เซนรู้สึกตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาพูดว่า “เงินเก็บทั้งหมดเลยเหรอ? มันจะไม่เสี่ยงไปหน่อยหรอครับ?”
“แกจะกลัวอะไร”
มิทช์จ้องไปที่เซน “แค่ทำอย่างที่ฉันบอก ฉันมีแหล่งข่าวและมีข้อมูลบางอย่างที่ว่าวิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งนี้จะไม่ง่ายอย่างที่คิด มันยังเร็วไปที่ไอ้บ้านนอกนั่นอยากจะต่อกรกับฉัน หลังจากที่ฉันทำเงินได้มากพอ ฉันจะฆ่ามัน!”
เซนคิดถึงเรื่องนั้นและพูดพลางกัดฟันว่า “ก็ได้ครับ ผมจะทำอย่างที่คุณบอก ผมจะนำเงินมาในวันพรุ่งนี้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด
รออัพอยู่นะคะ เดือนเศษแล้ว จะมีต่อไหมคะ...