“ไอ้ขยะเอ๊ย! ถ้าเราไม่ถอนมันออก งั้นเรากำลังจะดูมันพุ่งขึ้นรึไง? เราทุกคนจะถูกกำจัดถ้าดัชนีฮันเซลมันเพิ่มขึ้น ใช่หรือไม่?”
บ๊อบตะโกนอย่างเดือดดาล และหน้าของผ็จัดการแทบจะเปีกชุ่มไปด้วยน้ำลายของเขา
“เราปล่อยให้ตลาดหุ้นขยับตัวขึ้นไม่ได้!”
ดวงตาของบ๊อบกำลังเปล่งแสงด้วยแววตาอันชั่วร้าย
“เมื่อตลาดอยู่ตัว หรือแม้แต่การรวมตัวแค่ครู่เดียว นักลงทุนพวกนั้นจะคิดว่าถึงเวลาของการเข้าทำกำไรตรงจุดนี้ เมื่อพวกเขาโต้กลับมาได้ เราจะเจอปัญหาอย่างใหญ่หลวงแน่!”
เมื่อบ๊อบคิดถึงเรื่องนี้ เขาตะโกนอย่างดุเดือด “ทุบราคาต่อไป! ฉันไม่อยากเชื่อว่ามันมีเงินมากพอที่จะเล่นกับฉัน!”
...
เหล่าผู้นำของสี่ตระกูลเศรษฐีกำลังนั่งรวมตัวและหารือกันในบ้านของคลาร์ก
“เราทนดูตลาดหุ้นฮาร์เบอร์พังไม่ได้ ฉันแนะนำว่าให้เราทุกคนถอนทุนมาสักเล็กน้อย เราต้องทำให้ตลาดมีเสถียรภาพ”
ราชันแห่งน่านน้ำ ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าของตระกูลบอยออลส์ กล่าวด้วยท่าทีที่จริงจัง
“คุณพูดถูก แต่เราไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นใครและพวกมันมีเงินทุนมากเท่าไหร่ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราเข้าไปติดกับดัก โดยที่เราทำเรื่องนี้แบบสุ่มสี่สุ่มห้า?” เคนเนดี้กล่าวอย่างเฉยเมย
“งั้น เราควรทำยังไง? เราแค่นั่งดูมันเกิดขึ้นและไม่ทำอะไรเลยงั้นเหรอ? คนที่อยู่ข้างนอกนั่นกำลังรอให้เราพูดอะไรอยู่นะ” สเปนเซอร์ บอยออลส์พูดตามตรง
“โปรดอย่าใจร้อน”
คลาร์กหัวเราะและหันหน้าไปมองแซคคารี เขาพูดว่า “ผู้เฒ่าลอว์ คุณคิดว่าไง?”
แซคคารีมีท่าทีที่สงบทางสีหน้า และกล่าวอย่างสงบว่า “ฉันเห็นด้วยกับความเห็นของบอยออลส์นะ ในฐานะของสี่ตระกูลเศรษฐี เราต้องเป็นแบบอย่าง อีกด้านหนึ่ง เราต้องติดต่อกับทางรัฐบาลด้วยเช่นกัน พวกเขาจะปล่อยให้เศรษฐกิจของเมืองฮาร์เบอร์ตกต่ำไม่ได้!”
ในตอนนี้ เลขาของคลาร์กเคาะประตูก่อนจะเข้ามา เธอพูดบางอย่างกับคลาร์กในทันที
คลาร์กส่งเสียงด้วยความประหลาดใจซึ่งดึงดูดความสนใจของอีกสามคน
หลังจากที่โบกมือให้เลขาออกไป คลาร์กพูดอย่างลึกซึ้งว่า “ฉันคิดว่าใครบางคนนำหน้าเราไปก้าวหนึ่ง”
ขณะที่กล่าวแบบนั้น คลาร์กเปิดโทรทัศน์และสั่งให้บางคนเชื่อมต่อมันกับตลาดหุ้นฮาร์เบอร์
ทันใดนั้นเอง สถานการณ์ของตลาดก็ปรากฏขึ้นบนโทรทัศน์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด
ต่อหน่อยคร๊าฟ...
รออัพอยู่นะคะ เดือนเศษแล้ว จะมีต่อไหมคะ...