เกิดใหม่ ไปให้สุด นิยาย บท 209

แจสเปอร์ส่ายหัวและพูดว่า “เราทั้งคู่ได้รับผลประโยชน์ร่วมกันครับ หากไม่มีตระกูลลอว์ ผมก็คงไม่มีรายได้มากขนาดนี้เช่นกัน ในท้ายที่สุด หากปราศจากความช่วยเหลือจากตระกูลลอว์ ผมเกรงว่าจะไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถของตัวเองด้วย!”

แซคคารีพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เมื่ออยู่ต่อหน้าความอ่อนน้อมถ่อมตนของแจสเปอร์ เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นายทำความดีความชอบต่อตระกูลลอว์อย่างมากในเรื่องนี้ ตระกูลลอว์จะจำสิ่งนี้ไว้เสมอ”

แจสเปอร์โบกมือและพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังมากขึ้นในทันใด “คุณลุงลอว์ ขอให้ผมได้พูดความในใจ พอได้ฟังแล้วแค่เก็บมันไว้ในใจก็พอครับ”

เมื่อเห็นว่าแจสเปอร์พูดในลักษณะนี้ แซคคารีก็กลายเป็นคนจริงจังเช่นกัน เขาพูดว่า “พูดออกมาเถอะ ฉันจะตั้งใจฟัง ”

“ในวินาทีสุดท้าย ผมกำลังวางแผนที่จะวางกับดักสำหรับคู่ต่อสู้ เมื่อเข้ามาติดกับ เขาจะอยู่ในการควบคุมของผม ด้วยเหตุนี้ เราจึงสามารถใช้เงินทุนหลักเพื่อขายชอร์ตเซลล์ได้ อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง!”

“ฉันรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายพูดถึงมันก่อนหน้านี้แล้วนิ” แซคคารีกล่าว

“แต่เวลานั้น เราพลาดขั้นตอนนั้นไปเพียงก้าวเดียว ฝ่ายตรงข้ามมีความเด็ดขาดมากและถอยกลับแทน ผมสงสัยว่ามีหนอนบ่อนไส้ในหมู่พวกเราครับ”

เมื่อได้ยินดังนั้นท่าทีของแซคคารีก็เคร่งเครียดอย่างมาก

“เรามั่นใจได้อย่างแน่นอนว่ากำลังหลักที่ทำการขายชอร์ตเซลล์นั้นมีเงินทุนจากประเทศแถบตะวันตก การสอบสวนว่าใครเป็นผู้นำยังคงดำเนินต่อไป นายกำลังจะบอกว่าในหมู่พวกเรามีหนอนบ่อนไว้ที่ช่วยประเทศแถบตะวันตกงั้นเหรอ?”

น้ำเสียงของแซคคารีจริงจังมาก

ก่อนหน้านี้มีคนจำนวนมากในห้องโถง พวกเขาสามารถแยกแซคและทีมเทรดเดอร์ออกได้ เมื่อสองวันก่อนพวกเขาอยู่ด้วยกันภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

แม้ว่าจะตั้งใจที่จะเปิดเผยข้อมูล แต่พวกเขาก็ไม่มีโอกาสทำเช่นนั้น

ถัดมาคือผู้นำของตระกูลเศรษฐีทั้งสี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สองคนกับรัฐบาลของเมืองฮาร์เบอร์และ… เจค คัลเลน!

“นายคิดว่าใครน่าสงสัยที่สุด” แซคคารีถาม

“ผมคิดไม่ออกเลยครับ” แจสเปอร์ส่ายหัว “อันที่จริง ข้อสรุปว่ามีหนอนบ่อนไส้ในหมู่พวกเราก็เป็นการเดาของผมเอง ไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรม ส่วนใครที่น่าสงสัยที่สุด ตอนนี้ผมมีข้อมูลให้คิดน้อยมาก ผมไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปาก”

“เอาล่ะ ฉันจะทำการสอบสวนเรื่องนี้เอง” แซคคารีกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

เมื่อถึงจุดนี้ การเป็นหนอนบ่อนไส้หาทุนให้กับประเทศตะวันตก ก็ไม่ต่างอะไรกับการขายประเทศของตนเองให้กับผู้อื่น

แซคคารีดูถูกคนที่ทรยศต่อประเทศของตน เพื่อหาความมั่งคั่งของตนเอง

“มีบางอย่างที่นายอาจต้องคิดเยอะหน่อย”

แซคคารีกล่าวกับแจสเปอร์ว่า "นิตยสารการเงินรายสัปดาห์ที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในเมืองฮาร์เบอร์ เทอร่า ไฟแนนซ์เชียล พวกเขาหวังว่าจะได้สัมภาษณ์พิเศษกับนาย"

แจสเปอร์โบกมือและพูดว่า "ผมมีงานต้องทำเยอะไปหมด ผมคงไม่ว่างหรอกครับ”

เป็นโอกาสในการรวมแกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนท์มูฟวี่ เมื่อหุ้นฮาร์เบอร์ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว เขาต้องเข้าสู่หุ้นที่มีศักยภาพที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างรวดเร็ว มีหลายสิ่งหลายอย่างรอให้แจสเปอร์ทำสำเร็จ

“ถ้าจะไปให้สัมภาษณ์สักหน่อย นายก็ไม่ได้เสียหายอะไรนิ พวกเขาสามารถทำตามตารางเวลาของนายได้ นอกจากนี้ นายยังสามารถได้รับประโยชน์จากนิตยสารรายสัปดาห์ฉบับนี้อีกด้วยนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามเมืองฮาร์เบอร์เป็นสถานที่ที่เน้นเรื่องชื่อเสียง มีหลายครั้งที่ชื่อเสียงอาจมีประโยชน์มากกว่าผลประโยชน์”

คำพูดที่น่าเก็บไปคิดของแซคคารีทำให้แจสเปอร์เปลี่ยนใจ “อย่างนั้นก็ได้ครับ ให้พวกเขาติดต่อผมมาก็ได้”

…

ในห้องอ่านหนังสือที่เงียบสงบในวิลล่า

พั้ว!

มือฟาดเข้าที่หน้ามิทช์

เนื่องจากการตบนั้น มิทช์จึงสะดุดและถอยหลังไปสองก้าว เขาเกือบจะล้มลงจนก้นจะกระแทกพื้น

ความเจ็บปวดบนใบหน้าของมิทช์ทำให้เขากำหมัดแน่น แต่เขาไม่กล้าตอบโต้หรือระบายความหงุดหงิด เขารู้ว่าเคนเนดี้ พ่อของเขามีอารมณ์ที่แรงกว่าเขามาก ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะพูดแม้แต่คำเดียว

“แกมันขี้ขลาด!”

เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวของเคนเนดี้ดังก้องอยู่ในหูของมิทช์

“เรื่องแรกก็คือ ถ้าแกแพ้ในส่วนของแก เงินมันจะหายไปแค่บางส่วน แต่นี่แกกล้าดียังไงถึงได้ลากเซนไปละลายทรัพย์สินของครอบครัวแล้วโยนมันทิ้งทั้งหมดแบบนั้น?”

“พวกแกสองคนมันโง่ มีใครรู้ไหมว่าพวกแกเป็นลูกของตระกูลเศรษฐี? หากมีข่าวแพร่ออกไปเกี่ยวกับพวกแกที่ทำการขายชอร์ตเซลล์และพยายามหารายได้อย่างหนักจากเมืองฮาร์เบอร์ในช่วงวิกฤตทางการเงิน พวกแกคิดว่าจะมีปัญญาลืมตาอ้าปากอีกครั้งในเมืองฮาร์เบอร์นี้ได้ไหม?

“แม้แต่ธุรกิจของครอบครัว ก็จะได้รับผลกระทบเหมือนกัน!”