เกิดใหม่ ไปให้สุด นิยาย บท 243

ที่เมืองฮาร์เบอร์ในบริษัทอู่ต่อเรืออีกแห่ง แจสเปอร์กำลังโทรหาชิป คิง สเปนเซอร์ บอยออล์

เขาไม่ต้องการสร้างปัญหาให้สเปนเซอร์กับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ เพราะว่าเขาไม่รู้จักสมาชิกของตระกูลบอยออล์คนไหนเลยที่อายุน้อยกว่านี้

สเปนเซอร์ที่อยู่ไกลออกไปจากเมืองฮาร์เบอร์ รู้สึกงงเมื่อได้รับสายจากแจสเปอร์ หลังจากที่หัวเราะขณะที่พูดคุยอยู่ครู่หนึ่ง แจสเปอร์จึงเผยความตั้งใจที่ซ่อนอยู่ในการโทรครั้งนี้

สเปนเซอร์รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและเข้าใจสถานการณ์หลังจากที่ฟังแค่ครึ่งหนึ่งของคำกล่าวของแจสเปอร์

“ฉันไม่คุ้นเลยนะกับอู่เรือของตระกูลไซออนในเมืองบรัคที่เธอกำลังพูดถึง นอกจากนั้นแล้ว มีบริษัทต่อเรือพันธมิตรตั้งมากมายที่จัดหาผู้ผลิตอุปกรณ์เจ้าเก่าให้กับเรา ส่วนใหญ่แล้วถูกจัดการโดยพวกลูกน้อง”

“ยังไงก็ตาม เกี่ยวกับประเด็นนี้ ฉันจะสั่งให้คนของฉันจัดการให้เอง เพราะงั้น วางใจเถอะ”

คำตอบของชิป คิงแสดงให้เห็นว่าเขานับถือแจสเปอร์เป็นอย่างมาก

นอกจากนั้นแล้ว ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ทรงอิทธิพลในเมืองฮาร์เบอร์ ที่สามารถพูดได้เช่นนี้แสดงให้เห็นทัศนคติอย่างหนึ่งแล้ว

“ขอบคุณครับ ครั้งหน้าเมื่อผมไปที่เมืองฮาร์เบอร์ ผมจะไปเยี่ยมคุณอย่างแน่นอน” แจสเปอร์กล่าวด้วยรอยยิ้มขณะเดียวกันเขารู้ว่าควรจะตอบแทนด้วยความนับถือเช่นกัน

สเปนเซอร์ระเบิดหัวเราะออกมาและพูดว่า “ได้เลย เมื่อเธอมาที่นี่ เธอต้องเป็นแขกของฉันด้วย”

หลังจากพูดไม่นาน แจสเปอร์วางสาย

“เมื่อกี้คือ...” เวนดี้มองไปที่แจสเปอร์อย่างประหลาดใจ

แม้ว่าเธอรู้ว่าแจสเปอร์มีความสัมพันธ์อันดีกับสี่ตระกูลทรงอิทธิพลในเมืองฮาร์เบอร์ เห็นได้ว่าแจสเปอร์สามารถโทรหาสเปนเซอร์โดยตรงและแม้แต่มีบทสนทนาที่ดีกับเขาทำให้เธอรู้สึกว่ามันค่อนข้างไร้สาระ

“คนเดียวกันกับที่คุณคิดแหละครับ ทริปหน้าไปที่เมืองฮาร์เบอร์ ผมจะพาคุณไปด้วยและแนะนำคุณให้เขารู้จัก” แจสเปอร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

เวนดี้ยิ้มออกมาจาง ๆ

“ก่อนหน้านี้ ฉันคิดว่าคุณพูดทั้งหมดสิบประโยคนะคะ จากทั้งหมดแล้ว แปดประโยคคือการทักทายกับอีกสองประโยค เรื่องทั้งหมดจึงถูกคลี่คลาย”

“ท้ายที่สุดแล้ว คุณก็เห็นความสามารถของผู้ชายของคุณ ใช่ไหม? มา ไปหามื้อเที่ยงทานกันเถอะ” แจสเปอร์ยิ้มและจับมือเวนดี้ก่อนจะเดินออกจากออฟฟิศไป

...

ณ เมืองฮาร์เบอร์ สเปนเซอร์ให้ความสำคัญกับแจสเปอร์เป็นอย่างมาก ทันทีที่เขาวางสายจากแจสเปอร์ เขาต่อสายหาเบอร์อื่นในทันที

เขาโทรหาลูกชายของเขาเอง ยูสตัส บอยออล์ ในปัจจุบันนี้ ธุรกิจส่วนใหญ่ของตระกูลบอยออล์ยู่ภายใต้การควบคุมของของชายของเขา

ยูสตัสที่อยู่ระหว่างการประชุมยกมือขึ้นในทันทีเพื่อหยุดการประชุมไว้เมื่อเขาเห็นสายเรียกเข้า เขาสั่งให้พนักงานกลุ่มหนึ่งจากผู้บริหารระดับสูงดูแลสถานการณ์ขณะที่เขารับสาย

“ว่าไงครับ พ่อ?”

หลังจากที่ได้ยินการตอบกลับของยูสตัสทำให้เหล่าผู้บริหารระดับสูงยืนตรงขึ้นโดยจิตใต้สำนึกราวกับว่าตาแก่นั่นเห็นพวกเขาผ่านทางโทรศัพท์ได้

หลังจากได้ฟังคำพูดของพ่อ ยูสตัสตอบกลับและพูดอีกสองประโยคก่อนที่จะวางสาย

ความเงียบเกิดขึ้นในห้องประชุม ยูสตัสเลื่อนเน็คไทให้หลวมและพูดว่า “ใครรู้บ้างว่าเรากำลังร่วมมือกับบริษัทอู่ต่อเรือภายใต้ตระกูลไซออนของเมืองบรัคในแผ่นดินใหญ่?”

บรรดาหัวหน้าแลกเปลี่ยนท่าทีที่หวาดกลัว ‘ใครกันวะนั่น? เราไม่เคยได้ยินชื่อพวกมันมาก่อนนะ’

‘เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังทำให้สเปนเซอร์ที่กึ่งเกษียณ โทรมาถามด้วยตัวเองเลยงั้นเหรอ?’

หลังจากนั้นไม่นาน ชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ที่มุมของห้องประชุมยืนขึ้นอย่างปวกเปียก “มิสเตอร์บอยออล์ ผมรู้สึกคุ้นกับชื่อนี่นะครับ มันน่าจะใช่แหละ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด