เกิดใหม่ ไปให้สุด นิยาย บท 51

ในขณะที่แจสเปอร์ได้เอาเงินทั้งหมดของเซย์เดนไป โดยที่แจสเปอร์ไม่ได้ดูแลตลาด หุ้นของอสังหาริมทรัพย์มังกรสวรรค์ก็พังทลาย

มันเป็นการดิ่งลง

ลืมเรื่องนักลงทุนรายย่อยไปได้เลย แต่แม้แต่เหล่าองค์กรทั้งหลายเองก็ยังตกตะลึง

ไม่มีใครรู้ว่าอสังหาริมทรัพย์มังกรสวรรค์ไปล่วงเกินเหล่านักลงทุนแบบไหน จนทำให้พวกเขาพังตลาดแบบนี้

“คุณได้เงินมาเท่าไหร่?” เวนดี้เอนตัวลง เส้นผมบางส่วนลูบไล้ไปที่ปลายจมูกของแจสเปอร์ และนำกลิ่นหอมอันละเอียดอ่อนของหญิงสาวมาด้วย

เวนดี้ไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น เพราะเธอสนใจแค่เบื้องหลังการทำงานของแจสเปอร์เท่านั้น

“เมื่อหักค่าใช้จ่ายทางธุรการแล้ว ก็รวมเป็นเงิน 4,578,888,542.85 ดอลลาร์”

“ผมเริ่มต้นด้วยเงินทุนสามพันล้านและจบลงด้วยเงินประมาณ 4,570,000,000 ในบัญชีของผม พูดได้อย่างสบายใจเลยว่า เซย์เดนแห้งกรอบแน่นอน”

แจสเปอร์ส่งเงิน 600 ล้านไปที่บัญชีของดอว์สัน ก่อนที่จะโอนเงินที่เหลือกลับเข้าบัญชีของเขาเอง

เมื่อนับรายรับของเขาในรอบนี้ เขามีรายได้เกือบ 900 ล้านหลังจากไม่รวม 600 ล้านที่เป็นของดอว์สัน

“คุณพระช่วย!”

ถึงแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอดูแจสเปอร์ทำเงิน แต่เวนดี้ก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาสามารถหาเงินได้ 900 ล้านอย่างง่ายดายภายในสองวัน

“แม้ว่าการสร้างรายได้ด้วยความเร็วขนาดนี้อาจดูน่าดึงดูด แต่ก็มีโอกาสไม่มากนักที่จะทำอะไรแบบนี้ มีหลายปัจจัยที่ต้องใช้ เวลา คน และโอกาส” แจสเปอร์ยิ้ม

“แต่มันดูเท่มาก!”

เวนดี้กะพริบตาแล้วหันไปอวดดอว์สัน “ดูสิคะ พ่อ! แจสได้เอาเงินทั้งหมดที่พวกเขาหลอกลวงไปจากพ่อกลับมาแล้ว!”

ดอว์สันไม่รู้ว่าเขาควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ใช่ ฉันเข้าใจ แฟนของลูกดีสุด ๆ ไปเลย”

ด้วยความตะลึง แก้มของเวนดี้แดงก่ำ เธอปฏิเสธ “พ่อพูดถึงเรื่องอะไรเนี่ย เราเป็นแค่เพื่อนกัน”

ดอว์สันหัวเราะออกมาดัง ๆ และตัดสินใจที่จะหยุดล้อเลียนลูกสาวที่เขินอายของเขา เขาหันไปหาแจสเปอร์แทน “นาบมีอนาคตที่ดีรออยู่ข้างหน้า ด้วยวิธีการทำเงินแบบนี้ นายจึงไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นธุรกิจเลยด้วยซ้ำ นายจะสร้างรายได้มหาศาลจากหุ้นได้”

แจสเปอร์ส่ายหัว “ไม่ว่าตลาดหุ้นจะรุ่งเรืองแค่ไหน แต่ก็ยังคงต้องอาศัยการทำงานของระบบเศรษฐกิจจริง แน่นอนว่าคุณอาจกลายเป็นเศรษฐีใหม่ได้ในชั่วข้ามคืน แต่หลายคนอาจจะล้มละลาย ความเสี่ยงและผลประโยชน์ไม่มีอยู่จริงหากปราศจากสิ่งอื่น และไม่มีใครสามารถบอกว่าจะชนะได้เสมอ”

“นายพูดถูกแล้ว”

ดอว์สันพอใจแจสเปอร์มากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเขาเห็นว่าชายหนุ่มยังคงถ่อมตนและพากเพียร แม้เขาจะประสบความสำเร็จแล้ว มันไม่ใช่นิสัยหรือความคิดที่คนธรรมดาทั่วไปจะมีได้

“ในเมื่อนายจัดการเรื่องนี้ไปแล้ว ก็ปล่อยให้ฉันจัดการส่วนที่เหลือให้หมดเอง ครอบครัวแฮงค์สูญเสียเงินจำนวนมากในวันนี้ ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากชัยชนะนี้และชำระแค้นของฉัน”

ดอว์สันพูดอย่างมีเกียรติ ในฐานะที่เป็นคนรวยที่สุดในจังหวัด ดอว์สันไม่เคยเป็นคนประเภทที่จะลืมและเดินหน้าต่อไปได้เมื่อถูกเอาเปรียบ

ตอนนี้ปัญหาที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับกองทุนของกลุ่มได้รับการแก้ไขแล้ว ถึงเวลาที่เขาจะแก้แค้น

ในขณะนั้น เซย์เดนนั่งอยู่คนเดียวในห้องด้วยใบหน้าซีดเซียว เขาไล่พ่อค้าหุ้นทั้งสามออกไป

เซย์เดนห่อเหี่ยวและอ่อนแอ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์นี้ว่ามันเป็นกับดักจริง ๆ คู่ต่อสู้ของเขาเตรียมการสำหรับเขาไว้สองวันและนั่นยืนยันได้ว่าเขาติดกับดัก

เขาเป็นคนโง่ เขาวิ่งเข้าหามันเอง

ด้วยความอัปยศอดสู เซย์เดนคว้าคีย์บอร์ดด้วยมือของเขาแล้วขว้างไปที่คอมพิวเตอร์ก่อนที่เขาจะส่งเสียงอาละวาดรุนแรง

ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น

เมื่อเห็นว่ามันเป็นสายของซิลวาพ่อของเขา มือของเซย์เดนสั่น เมื่อเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

“พ่อครับ ผมแพ้...”

เสียงของเซย์เดนสั่นคลอน ปลายสายอีกฝั่งเงียบลง ก่อนที่ชายคนนั้นจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตระกูลของเราโกรธจัดและต้องมีคนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ ฉันพยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว เพื่อรักษาตำแหน่งของแกในฐานะสมาชิกครอบครัวเพื่อที่แกจะไม่ถูกไล่ออกไป”

“ผมเข้าใจครับ” เซย์เดนตอบ เขาก้มหน้าลง

“แกรู้ไหมว่าคนนั้นมันเป็นใคร” ซิลวาถาม

เซย์เดนยิ้มอย่างขมขื่น “ไม่รู้ครับ”

“ไอ้คนนั้นมันเอาเงินกว่าพันล้านดอลลาร์และสิทธิ์ในฐานะทายาทของแกไป แล้วแกกำลังจะบอกว่าแกไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นใครเนี่ยนะ?” ซิลวาตะคอก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด