“บก.ครับ ดูเหมือนว่าบรรยากาศทางนั้นผิดปกติสักหน่อยนะครับ” ช่างภาพของ《บุกเบิก》จับสัมผัสได้อย่างชัดเจน เหลิงหยุนฉีที่อยู่ทางนั้นแสดงท่าทีแปลกพิกล
ตอนที่คู่สามีภรรยาตระกูลโจวกล่าวสุนทรพจน์เสร็จด้วยท่วงท่าสง่างามยิ่งใหญ่ ตอนนี้มีคนหนึ่งก็เวิ้งว้างอยู่ปากเหว อีกคนก็ประคองหน้าผากถอนหายใจ คนที่ยืนอยู่ทางด้านข้างก็คือลูกสาวคนเดียวของพวกเขาและเหลิงหยุนฉี อ้อ ยังมีชายแปลกหน้าอยู่อีกคน
แต่ว่า...
ช่างภาพกระพริบตาถี่ๆ ไม่รู้ว่าตนเองตาพร่ามัวไปหรือเปล่า ชายวัยรุ่นคนนั้นแสดงท่าทางมองมาทางเหลิงหยุนฉี ราวกับ—เยินยอจนเกินเหตุ!
หลังจากที่บก.จางเข้ามาในห้องโถงใหญ่แล้ว ก็คอยสังเกตความเคลื่อนไหวของเหลิงหยุนฉีมาโดยตลอด เมื่อได้ยินช่างภาพกล่าวออกมาเช่นนี้ ยิ่งใช้ตามองไปยังทิศทางนั้นนานๆ อย่างอดใจไว้ไม่อยู่
ส่วนใหญ่เขาใช้ชีวิตอยู่ที่งเซี่ยงไฮ้เป็นหลัก ขนาดเซียวหราน บังเอิญเจอก็ตอนออกไปดูงานเท่านั้น สำหรับโลกทางฝั่งเมืองหลวงแทบไม่รู้อะไรมากนัก
แต่ประสาทสัมผัสของเขาว่องไวกว่าช่างภาพเยอะ
แค่มองสายตาของแขกเหรื่อบริเวณโดยรอบที่มองไปทางชายหนุ่มคนนั้น จึงรู้ว่าที่มาที่ไปของคนนี้ไม่ธรรมดาเลย ประเด็นสำคัญคือ พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่ไกลมาก ไม่รู้เลยว่าผู้ชายที่อยู่ทางนั้นกำลังพูดอะไรกันอยู่ ตอนแรกแขกเหรื่อโดยรอบล้วนแสดงออกความหวั่นวิตกตอนชะเง้อมองเหลิงหยุนฉี จากนั้นก็แสดงความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ ในเวลานี้ก็กลายเป็นความลับโดยสิ้นเชิง...
บก.จางรู้สึกว่าขมับของตนเองใกล้จะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้น???
ทั้งๆ ที่อยู่สถานที่แห่งเดียวกัน ทำไมรู้สึกว่าเขาพลาดข้อมูลเด็ดๆ ไปได้ล่ะ???
“ไปเถอะ! เราเข้าไปดูกัน!”
ทั้งสองคนฉวยจังหวะหยิบแก้วเหล้าขึ้นมา และเดินเบียดไปยังทิศทางของเหลิงหยุนฉี
ห้องโถงมีแขกเหรื่อเยอะมากเกิน แต่ก็ไม่มีคนสนใจความเคลื่อนไหวของพวกเขา
ณ จุดนี้ โจวอี้หมิงที่เดิมทีต้องการให้ลูกสาวกับหวังเชียนรู้จักกัน ถ้าวันนี้คำพูดส่อเสียดของลูกสาวถูกแพร่ออกไป ที่จะเสียหน้าจนเสียมาถึงครอบครัว แล้วเขาจะมีกะจิตกะใจที่ไหนไปให้เด็กทั้งสองคนนัดบอดกันล่ะ?
จึงทำได้เพียงเปลี่ยนคำพูดใหม่ “ในเมื่อพวกคุณรู้จักหยุนฉีกันแล้ว งั้นหนุ่มสาวก็รำลึกความหลังกันเถอะ อากับอาหญิงจะไปทักทายแขกเหรื่อคนอื่นต่อ”
ระหว่างที่เอื้อนเอ่ยออกมา แสดงท่าทางผู้อาวุโสที่แสนอบอุ่นคนหนึ่ง สายตาจ้องมองเหลิงหยุนฉีอย่างเป็นมิตร กำชับอย่างจริงจัง เป็นห่วงเป็นใยเสมอมา
ตั้งแต่ต้นจนจบ...
ทำราวกับลูกสาวตนเองเป็นสิ่งที่โปร่งใสไร้ตัวตนไปโดยฉับพลัน
โจวหยุน: …อืม...เหมือนว่าเธอไปยั่วให้พ่อของเธอโกรธแล้ว ทำยังไงดีล่ะ?
หรือคืนนี้หนีออกจากบ้านไปเลย? ไปหลบหน้าที่บ้านเพื่อนสาวของเธอดี?
จะเป็นการหลีกเลี่ยง “งานเลี้ยงการนัดบอด” ของโจวหยุนได้อย่างสมบูรณ์แบบ และหัวเราะร่าโดยไร้ความผิดสักนิด
คุณหญิงโจวมองเห็นลูกสาวของเธอแสดงท่าทางหัวเราะอย่างบ้าบอ จึงรู้สึกปวดหัวสมอง...
จึงรีบเร่งฝีเท้าเดินตามสามีออกไปพร้อมกัน
เวลานั้น ตำแหน่งนี้ จึงเหลือแค่คนสามคน เหลิงหยุนฉี หวังเชียน และโจวหยุน
ไม่มีผู้อาวุโสอีกแล้ว...
หวังเชียนจึง...ขี้ขลาดมากกว่าเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก