เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 225

ตอนที่ 225 ท่านบรรพจารย์เย่จะมาร่วมงานหรือไม่ ?

“นี่มัน… นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ เหตุใดจู่ ๆ ปราณวิญญาณฟ้าดินถึงหายไปได้ ! ”

“ศิษย์พี่ ข้าก็รู้สึกเช่นกันว่าปราณวิญญาณฟ้าดินที่ปกคลุมเราไว้นั้นเบาบางลงอย่างมาก”

“มิน่าเป็นไปได้ พื้นที่ที่เราบำเพ็ญเพียรอยู่นี้ได้มีการวางค่ายกลรวมวิญญาณเอาไว้ อีกทั้งค่ายกลป้องกันภูผาก็ยังมีความสามารถในการรวมปราณวิญญาณเอาไว้อีกด้วย เหตุใดจู่ ๆ ปราณวิญญาณฟ้าดินถึงค่อย ๆ หายไปเช่นนี้ได้ ? ”

“แต่ว่าปราณวิญญาณบริเวณนี้เบาบางลงเรื่อย ๆ จริง ๆ นะ ! ”

“……”

ณ เขาไท่เสวียน

เมื่อสัมผัสได้ถึงปราณวิญญาณฟ้าดินที่เริ่มเบาบางลง

ทันใดนั้นเหล่าศิษย์ที่กำลังจดจ่อกับการบำเพ็ญเพียรอยู่นั้น ก็ทยอยลืมตาขึ้นด้วยความตื่นตระหนก

ขณะเดียวกัน

ตำหนักไท่เสวียน

ลำแสงหลายสายก็พุ่งลงมาจากฟ้า ก่อนจะแปลงกายเป็นร่างคนปรากฏอยู่นอกตำหนัก

แต่หลังจากเหล่าผู้อาวุโสเข้าไปในตำหนักไท่เสวียนแล้ว กลับพบว่านักพรตฉางเสวียนได้ออกไปนอกเขาไท่เสวียนก่อนแล้ว

ผ่านไปชั่วเวลาจิบชาหนึ่งถ้วย

ก็ได้มีลำแสงสายหนึ่งพุ่งมา ก่อนจะเหาะลงมาด้านนอกตำหนักไท่เสวียน

แน่นอนว่าเขาก็คือนักพรตฉางเสวียน

“ท่านเจ้าสำนัก ! ”

ทันใดนั้นเมื่อเหล่าผู้อาวุโสดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน ภายในตำหนักไท่เสวียนทยอยลุกขึ้นยืน

นักพรตฉางเสวียนกวาดตามองทุกคนเล็กน้อย ก่อนจะโบกมือเป็นสัญญาณให้

“ศิษย์พี่ฉางเสวียน ปราณวิญญาณฟ้าดินจู่ ๆ ก็เริ่มเบาบางไปอย่างมาก เกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ ? ”

นักพรตฉางชิงลุกขึ้นถามนักพรตฉางเสวียน ที่เดินเอามือไพล่หลังเข้ามาภายในตำหนักไท่เสวียน

หลังสิ้นเสียง คนที่เหลือต่างก็หันไปมองทางนักพรตฉางเสวียนเป็นตาเดียว

นักพรตฉางเสวียนนั้นมิได้แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมามากนัก เอ่ยเพียงว่า “เมื่อครู่ข้าออกไปตรวจสอบมาแล้ว ปราณวิญญาณภายในเขตดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนของเราล้วนพุ่งไปทางเมืองเสี่ยวฉือ”

“เมืองเสี่ยวฉือ ? ”

เหล่าผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน ได้ยินเช่นนั้นก็รีบหันมามองหน้ากันทันที

ท่านบรรพจารย์เย่ท่านนั้นพำนักอยู่ที่เมืองเสี่ยวฉือ

การที่ปราณวิญญาณฟ้าดินพุ่งไปทางเมืองเสี่ยวฉือ ก็สามารถอธิบายได้เพียงอย่างเดียว

นั่นก็คือท่านบรรพจารย์เย่กำลังวางค่ายกล หรือกำลังบำเพ็ญเพียรอยู่นั่นเอง

เมื่อคิดถึงตรงนี้เหล่าผู้อาวุโสก็มีท่าทีอ่อนลง พลางถอนหายในออกมา

“ที่แท้ก็พุ่งไปทางเมืองเสี่ยวฉือ เช่นนั้นก็แสดงว่าต้องเกี่ยวข้องกับท่านบรรพจารย์เย่”

“ใช่แล้ว พวกเจ้าลองทายสิว่าท่านบรรพจารย์เย่ของเรากำลังทำอะไรอยู่ ถึงทำให้ฟ้าดินเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้”

“ใช่แล้ว ท่านบรรพจารย์เย่กำลังทำอะไรอยู่กันแน่ ถึงทำให้ปราณวิญญาณฟ้าดินในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนของเราไปรวมอยู่ที่นั่นได้”

“ข้าคิดว่าท่านบรรพจารย์เย่อาจจะกำลังกลั่นสุดยอดสมบัติโบราณบางอย่าง อีกทั้งสมบัติโบราณชิ้นนั้นจะต้องสมบูรณ์เป็นอย่างมาก จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้น”

“ความคิดนี้ก็มีความเป็นไปได้”

“มิใช่ ข้าคิดว่าท่านบรรพจารย์เย่คงจะกำลังบำเพ็ญเพียรอยู่ ตบะบารมีของท่านบรรพจารย์เย่ลึกล้ำดั่งมหาสมุทร ระหว่างดูดกลืนย่อมต้องใช้ปราณวิญญาณฟ้าดินจำนวนมาก”

“สิ่งนี้ก็เป็นไปได้”

ระหว่างที่เหล่าผู้อาวุโสกำลังคาดเดาไปต่าง ๆ นานาอยู่นั้น

นักพรตฉางเสวียนที่อยู่ด้านบนก็ได้เอ่ยขึ้นว่า

“ทุกท่านได้โปรดเงียบก่อน ในเมื่อวันนี้พวกเจ้ามารวมตัวกันที่นี่แล้ว ข้ามีเรื่องสำคัญที่จะปรึกษากับพวกเจ้าอยู่พอดี”

นักพรตฉางเสวียนเอ่ยขึ้นหลังกวาดสายตามองไปยังทุกคน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน