ตอนที่ 231 ด้านหน้าคือหอเก็บตำรา
ท่านบรรพจารย์เย่ ?
เย่ฉางชิงได้ยินเช่นนั้นก็เต็มไปด้วยความสับสน
‘หมายความเช่นไรกัน ? ’
‘ท่านบรรพจารย์เย่นี่หมายถึงอะไรอีกเล่า ? ’
‘คงมิได้หมายถึงข้าหรอกกระมัง ? ’
‘ฐานะของข้าในตอนนี้คือท่านเทพฉางชิงท่านนั้นต่างหาก ! ’
เย่ฉางชิงคิดถึงตรงนี้แล้วก็ฝืนกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะหันไปมองนักพรตฉางเสวียน
นักพรตฉางเสวียนตะลึงงัน ก่อนจะยิ้มอย่างขลาดกลัวออกมา “ท่านเย่ ด้านหน้า… ก็คือเขาไท่เสวียนขอรับ”
สิ้นเสียงหลี่ฉางหมิงและลู่อู๋ซวงก็เดินนำเหล่าเจ้ายอดเขาทั้งเจ็ด ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ
“พวกเราขอคารวะท่านบรรพจารย์เย่ ! ”
ทันทีที่มาถึงตรงหน้าของเย่ฉางชิง พวกหลี่ฉางหมิงต่างก็คุกเข่าลงคำนับ
ทันทีที่เห็นภาพตรงหน้าแม้เย่ฉางชิงจะมิได้แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา แต่ว่าภายในโสตประสาทกลับมีเสียงวิ๊งดังขึ้นมา
หลี่ฉางหมิงและลู่อู๋ซวงนั้นเขาเคยรู้จักแล้ว เพราะก่อนหน้านี้เขายังได้มอบภาพอักษรพู่กันให้พวกนางด้วย
แต่ว่าที่ทำให้เย่ฉางชิงคาดมิถึงก็คือ
พวกเขาทั้งสองล้วนเป็นศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน อีกทั้งดูจากอาภรณ์ของพวกเขา รวมถึงเหล่าผู้เฒ่าที่คุกเขาอยู่ด้านหลังคนทั้งคู่
ก็พอจะอธิบายฐานะของพวกเขาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนได้แล้ว
เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้ต้องเป็นพวกผู้สืบทอด หรือเทพธิดาอะไรพวกนั้นเป็นแน่
‘เช่นนั้นก่อนหน้านี้ที่พวกเขาแสดงความเคารพต่อเรา ตั้งแต่ตอนนั้นพวกเขาก็เข้าใจผิดคิดว่าเราเป็นท่านบรรพจารย์เย่แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ’
‘น่าจะเป็นเช่นนั้น ! ’
‘มิใช่ ! ’
‘ต้องเป็นเช่นนี้แน่ ! ’
‘แต่ว่ามิน่าจะใช่นะ ! ’
‘ท่านเทพฉางชิงที่ลงมายังโลกมนุษย์ ! ’
‘ท่านบรรพจารย์เย่แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน ! ’
‘แท้จริงแล้วยอดฝีมือที่สูงส่งเหล่านี้มีหน้าตาโหล ๆ หรือว่าข้าเย่ฉางชิงมีหน้าโหลกันแน่’
‘หน้าเหมือนกันง่ายเพียงนี้เชียวหรือ ? ’
หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เย่ฉางชิงก็ต้องเม้มปากแน่น
‘มีคำกล่าวหนึ่งกล่าวเอาไว้ดีมากว่า มาแล้วก็จงอยู่อย่างมีความสุข’
‘ก่อนหน้านี้ตอนอยู่เมืองหลวงก็ถูกคนเข้าใจผิดว่าเป็นท่านเทพฉางชิงที่ลงมาท่องยังโลกมนุษย์แล้ว บัดนี้ก็ถูกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนเข้าใจผิดว่าเป็นบรรพจารย์ของพวกเขาอีก’
‘ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเพื่อการบำเพ็ญเพียรในภายภาคหน้า ข้าเย่ฉางชิงก็จะฝืนยอมรับเอาไว้ก็แล้วกัน ! ’
เย่ฉางชิงคิดแล้วก็ต้องถอนใจออกมาเบา ๆ พยายามเอ่ยเรียบ ๆ ว่า “ทุกท่านลุกขึ้นเถอะ”
“ข้าน้อยขอบคุณท่านบรรพจารย์เย่”
พวกหลี่ฉางหมิงสบตากัน จากนั้นก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น
ตอนนั้นเองเย่ฉางชิงก็เงียบเสียงลง ก่อนหันไปมองนักพรตฉางเสวียน แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านเหอ ท่านรู้ตัวตนของข้าตั้งแต่เมื่อใดงั้นหรือ ? ”
“ห๊ะ ! ”
นักพรตฉางเสวียนชะงักงันไปทันที ก่อนจะเอ่ยอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “เรียนท่านบรรพจารย์เย่ คราแรกที่ศิษย์ไปคารวะท่านที่เมืองเสี่ยวฉือ จึงได้รู้ฐานะที่แท้จริงของท่านขอรับ”
“คราแรก ? ”
เย่ฉางชิงยิ้มอย่างมิอาจคาดเดาความหมายได้ออกมา
นักพรตฉางเสวียนจึงเอ่ยอีกว่า “ท่านบรรพจารย์เย่ เดิมศิษย์มิอยากรบกวนความสงบของท่าน เพียงแต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอู๋ซวง ศิษย์จึงอยากเชิญท่านมาเข้าร่วมพิธีแต่งตั้งครานี้ด้วยขอรับ”
เย่ฉางชิงพยักหน้าเข้าใจ จากนั้นก็กวาดตามองทุกคนยิ้ม ๆ “แม้จะเป็นเช่นนั้นพวกเจ้าก็มิต้องเรียกข้าว่าท่านบรรพจารย์เย่หรอก เรียกข้าว่าท่านเย่ก็พอ”
ความจริงแล้ว มิว่าจะเป็นคำเรียกว่าท่านเทพฉางชิง หรือว่าท่านบรรพจารย์เย่
เมื่อเย่ฉางชิงได้ยินก็อดที่จะชาวาบไปทั้งตัวมิได้
“ผู้น้อยน้อมรับคำสั่งท่านบรรพจารย์เย่ขอรับ/เจ้าค่ะ ! ”
ทุกคนโค้งคำนับลง
วินาทีต่อมาหลังจากที่ทุกคนได้สติแล้ว ก็ต้องสูดหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะโค้งคำนับอีกครั้งและกล่าวว่า “ผู้น้อยน้อมรับคำสั่งท่านเย่ขอรับ/เจ้าค่ะ”
เย่ฉางชิงนิ่งอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้เห็นภาพอันน่าขันนี้ ก่อนจะทำหน้าแปลก ๆ มิรู้ว่าควรจะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดี
“พวกเราขึ้นเขากันเถอะ”
หลังจากปรับอารมณ์ได้แล้ว เย่ฉางชิงก็เอ่ยกับทุกคนอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน