เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 295

ตอนที่​ 295 สี่ตระกูล​ผู้พิทักษ์​โบราณ​รวมตัว​

เวลา​ผ่าน​ไป​มิกี่​อึดใจ​

ด้วย​การนำ​ของ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​และ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ คน​กลุ่ม​หนึ่ง​ก็​ทยอย​ลงมา​ยืน​บน​เนินเขา​เตี้ย​ ๆ แห่ง​นี้​

“พี่​หนาน​กง​ พี่​มู่หรง​ มิเจอกัน​เสีย​นาน​ ! ”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เห็น​ผู้เฒ่า​รูปร่าง​กำยำ​และ​ผู้เฒ่า​ที่​มีรูปร่าง​ผอมบาง​ ก็​รีบ​เดิน​ยิ้มกริ่ม​เข้า​ไปหา​ พร้อมกับ​ประสานมือ​คารวะ​

เห็น​เช่นนั้น​ผู้เฒ่า​รูปร่าง​กำยำ​นาม​ว่า​หนาน​กง​ชิงหมิง​ก็​มีทีท่า​อ่อน​ลง​ทันที​ พร้อมกับ​ฉีก​ยิ้ม​และ​ประสานมือ​ให้​เช่นเดียวกัน​ “พี่​ซีเห​มิน​มิพบกัน​เสีย​นาน​”

ผู้เฒ่า​รูปร่าง​ผอมบาง​นาม​ว่า​มู่หรง​หลิน​ก็​ประสานมือ​ พร้อม​ยก​ยิ้ม​ให้​เช่นกัน​ “พี่​ซีเห​มิน​ มิเจอกัน​นับ​สิบ​ปี​ ท่าน​ยังคง​ดู​มิเปลี่ยนไป​เลย​”

ตอนนั้น​เอง​ผู้เฒ่า​หลัง​ค่อม​ผู้​หนึ่ง​ที่​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​ ก็​เอ่ย​ถามเสียง​เรียบ​ขึ้น​มาว่า​ “หรือว่า​คน​บน​โลก​นี้​ลืม​ข้า​ไป​หมด​แล้ว​เยี่ยง​นั้น​หรือ​”

สิ้น​เสียง​ พวก​หนาน​กง​ชิงหมิง​ก็​เบน​สายตา​ไป​มอง​ทาง​ผู้เฒ่า​หลัง​ค่อม​

วินาที​ต่อมา​ หนาน​กง​ชิงหมิง​และ​มู่หรง​หลิน​ก็​สบตา​กัน​ด้วย​สีหน้า​ฉงน​ในทันที​

“หรือว่า​ท่าน​คือ​หนึ่งในสี่​ตระกูล​ผู้พิทักษ์​โบราณ​ ผู้อาวุโส​ฮูเอี๋ยน​จาก​ตระกูล​ฮูเอี๋ยน​ ? ”

มู่หรง​หลิน​ขมวดคิ้ว​เบา​ ๆ พลาง​ถามอย่าง​ครุ่นคิด​

“พวก​เจ้าคง​มิคิด​ว่า​ข้า​จะละ​สังขาร​ไป​ตั้งแต่​พัน​ปีก่อน​หรอก​กระมัง​ ? ”

ผู้เฒ่า​หลัง​ค่อม​นาม​ว่า​ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​มุมปาก​โค้ง​ขึ้น​จน​เกิด​รอยยิ้ม​ “หาก​เป็น​เช่นนั้น​ข้า​คง​ทำให้​พวก​เจ้าผิดหวัง​แล้ว​ ตอนที่​ข้า​อัญเชิญ​ทัณฑ์​สวรรค์​ครา​ที่สอง​แม้จะล้มเหลว​ แต่​เพราะ​มีอาวุธ​เทพ​จำแลง​และ​กาย​เนื้อ​ของ​ข้า​ ข้า​จึงรอด​มาได้​”

“ผู้อาวุโส​ฮูเอี๋ยน​ ท่าน​เข้าใจผิด​แล้ว​”

หนาน​กง​ชิงหมิง​รีบ​อธิบาย​ “เมื่อ​ครู่​ผู้น้อย​มิได้​สัมผัส​ถึงความผันผวน​ของ​พลัง​ปราณ​ใด​ ๆ บน​กาย​ของ​ท่าน​ จึงมิทัน​สังเกตเห็น​ ขอ​ท่าน​โปรด​อย่า​ได้​ถือโทษ​ผู้น้อย​เลย​นะ​ขอรับ​”

ต้อง​ยอมรับ​ว่า​ต่อหน้า​ของ​ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​

ต่อให้​เป็น​ผู้​มีฝีมือ​เช่น​หนาน​กง​ชิงหมิง​หรือ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​ยัง​นับว่า​เป็น​เพียง​ผู้น้อย​เท่านั้น​

เพราะ​ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​นั้น​มีอายุ​มากกว่า​พวกเขา​นับ​พันปี​ หรือ​อาจจะ​มากกว่า​นั้น​

อีก​ทั้ง​สี่ตระกูล​ผู้พิทักษ์​โบราณ​ยังมี​คำสั่ง​ของ​บรรพบุรุษ​เช่นนี้​อยู่​

มิว่า​จะเป็น​ยุค​ไหน​ ภายใน​ตระกูล​ผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​มหายาน​จะต้อง​ละ​สังขาร​ทั้งสิ้น​

กล่าวคือ​ ภายใน​ตระกูล​จะต้อง​มิมีผู้​แข็งแกร่ง​เลื่อนขั้น​เป็น​ระดับ​อรหันต์​ ต่อให้​ปัจจุบัน​ผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​มหายาน​ที่​ละ​สังขาร​จะบรรลุ​เป็น​เซียน​ได้​ แต่​ก็​จะมิได้รับอนุญาต​โดย​เด็ดขาด​

ทว่า​ตระกูล​ฮูเอี๋ยน​ที่​เป็น​หนึ่งในสี่​ตระกูล​โบราณ​นั้น​

ย้อน​ไป​เมื่อ​หนึ่ง​หมื่น​ปีก่อน​ กลับ​มีผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​อรหันต์​ถึงสอง​ท่าน​

บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​กาย​เนื้อที่​บำเพ็ญ​เพียร​นั้น​แข็งแกร่ง​ ตอนที่​ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​กำลัง​รับ​การ​ทดสอบ​จาก​สวรรค์​ ทัณฑ์​สวรรค์​พิฆาต​ที่​ฟาด​ลงมา​นั้น​กลับ​น่าสะพรึงกลัว​อย่าง​มาก​ ทำให้​เขา​ทดสอบ​ล้มเหลว​ถึงสอง​ครั้ง​ติดกัน​

ทว่า​เนื่องด้วย​กาย​เนื้อที่​บำเพ็ญ​เพียร​นั้น​แข็งแกร่ง​ ทำให้​เมื่อ​เขา​ประสบ​ทัณฑ์​สวรรค์​ถึงสอง​ครั้ง​ ทว่า​กลับ​ยังคง​มิได้​ดับสูญ​

“ทาง​ที่​ดี​จงอย่า​ได้​ลืม​จะดีกว่า​”

ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​แค่น​ออกมา​เสียง​เย็นชา​ พร้อม​เอ่ย​ว่า​ “มิเช่นนั้น​หาก​วันหนึ่ง​ข้า​ขึ้น​สวรรค์​ได้​สำเร็จ​ ข้า​จะเอาเรื่อง​นี้​ไป​รายงาน​กับ​เหล่า​บรรพบุรุษ​ของ​พวก​เจ้า”

ได้ยิน​เช่นนั้น​ หนาน​กง​ชิงหมิง​และ​มู่หรง​หลิน​ก็​สบตา​กัน​ ก่อน​จะฉีก​ยิ้ม​ฝืด​เฝื่อน​ออกมา​

ตอนนั้น​เอง​ ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​ก็​หันไป​มอง​ทาง​มู่หรง​ลี่​จูที่​สวม​กระโปรง​ยาว​สีแดง​ พลาง​พยักหน้า​ด้วย​ความพึงพอใจ​

“เด็กน้อย​ตระกูล​มู่หลง​ของ​พวก​เจ้าผู้​นี้​นับว่า​เป็นยอด​สตรี​จริง ๆ​ แต่​เยี่ยง​ไร​เสีย​ก็​เป็น​เพียง​สตรี​เท่านั้น​”

ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​ลูบ​หนวด​ตนเอง​ “แต่​ภายใน​ตระกูล​ของ​ข้า​มีเด็กผู้ชาย​อยู่​คน​หนึ่ง​ แม้หน้าตา​จะมิได้​โดดเด่น​ แต่​ดู​จาก​พรสวรรค์​แล้ว​ มิเป็น​สอง​รอง​ใคร​อย่าง​แน่นอน​”

“ข้า​ว่า​ตระกูล​มู่หรง​ของ​พวก​เจ้า ลอง​คิดทบทวน​ดู​อีกที​จะดีกว่า​”

ได้ยิน​เช่นนั้น​มู่หรง​ลี่​จูที่​กำลังจะ​เอ่ย​ปฏิเสธ​ ทว่า​มู่หรง​ชวน​ก็​รีบ​หัวเราะ​ออกมา​เสีย​ก่อน​ “ผู้อาวุโส​ฮูเอี๋ยน​ เรื่อง​เหล่านี้​ให้​พวกเขา​คนหนุ่มสาว​ตัดสินใจ​กันเอง​ดีกว่า​ขอรับ​”

ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​พยักหน้า​ให้​ จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​ทาง​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​แล้ว​เอ่ย​ถามว่า​ “ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ ผู้อาวุโส​เย่​ที่​เจ้าพูดถึง​ก่อนหน้านี้​เร้น​กาย​อยู่​ที่นี่​งั้น​หรือ​ ? ”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​รีบ​ชี้ไป​ทาง​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​ทันที​ พร้อมกับ​เอ่ย​อย่าง​ยิ้มแย้ม​ว่า​ “ผู้อาวุโส​ฮูเอี๋ยน​ ผู้อาวุโส​เย่​เร้น​กาย​อยู่​ที่​เมือง​อัน​ห่างไกล​เมือง​นั้น​ขอรับ​”

ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​เอ่ย​พลาง​ขมวดคิ้ว​แน่น​ “ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ เจ้าพา​ข้า​ไป​พบ​ผู้อาวุโส​เย่​ผู้​นี้​สักหน่อย​สิ”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ลอบ​สบตา​กับ​หนาน​กง​เสวียน​จี ก่อน​จะพยักหน้า​รับ​น้อย​ ๆ

ตอนนั้น​เอง​ หนาน​กง​ชิงหมิง​และ​มู่หรง​หลิน​ต่าง​ก็​หันไป​สบตา​กัน​เล็กน้อย​ จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​หนาน​กง​เสวียน​จีด้วย​สายตา​เป็น​คำถาม​

หนาน​กง​เสวียน​จีจึงมีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ทันที​ ก่อน​จะฝืน​ฉีก​ยิ้มแห้ง​ ๆ ออกมา​

จากนั้น​คน​ทั้ง​กลุ่ม​ก็​ทยอย​เหาะ​ขึ้น​ฟ้า มุ่งหน้า​ไป​ทาง​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​ในทันที​

ระหว่างทาง​ หนาน​กง​เสวียน​จีก็​เพ่ง​กระแสจิต​ออก​ไป​

“พี่​ซือ​ถู ผู้อาวุโส​เย่​เวลานี้​อาจจะ​กำลัง​เข้าฌาน​อยู่​ก็​เป็นได้​ ท่าน​ตอบ​ตกลง​ผู้อาวุโส​ฮูเอี๋ยน​ง่าย ๆ​ เช่นนี้​ ข้า​ว่า​มิถูกต้อง​นะ​”

“พี่​หนาน​กง​ ทางเหนือ​ส่งข่าว​มาว่า​เมื่อวาน​นี้​จักรพรรดิ​มาร​ตน​นั้น​ได้​ทำลาย​ค่าย​กล​สังหาร​และ​ค่าย​กล​โบราณ​ทั้งหมด​ของ​แดน​เหนือ​ลง​อย่าง​ง่ายดาย​ แค่นี้​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​พลัง​ของ​จักรพรรดิ​มาร​ตน​นั้น​น่ากลัว​กว่า​ที่​พวกเรา​คาดคิด​เอาไว้​อีก​นะ​”

“เช่นนั้น​เพื่อ​ลัทธิ​เต๋า​ เพื่อ​ทุก​ชีวิต​ใน​จงหยวน​ ข้า​จึงทำได้​เพียง​ลอง​เสี่ยง​ดู​เท่านั้น​”

“เฮ้อ​ ทาง​ที่​ดี​อย่า​ได้​ล่วงเกิน​ผู้อาวุโส​เย่​เข้า​จะดีกว่า​ มิเช่นนั้น​ด้วย​ฝีมือ​ระดับ​ผู้อาวุโส​เย่​ ต่อให้​พวกเรา​ทุกคน​ร่วมมือ​กัน​ คาด​ว่า​ก็​คง​ยาก​ที่จะ​ออกจาก​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​ได้​”

“……”

“……”

จน​เวลา​ผ่าน​ไป​มิถึงหนึ่ง​ก้านธูป​

ขณะ​ที่อยู่​ห่าง​จาก​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​อีก​มิไกล​นัก​ จู่ ๆ ทุกคน​ก็ได้​หยุด​ลง​

ตอนนั้น​เอง​ ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​จู่ ๆ ก็ได้​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “ผู้อาวุโส​ทุกท่าน​ จากนี้​พวกเรา​เดินเท้า​เข้าไป​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​เถอะ​ขอรับ​”

ขณะเดียวกัน​หนาน​กง​เสวียน​จีก็​ยิ้ม​ออกมา​ “ใช่แล้ว​ เยี่ยง​ไร​เสีย​ที่นี่​ก็​เป็นที่​ ๆ ผู้อาวุโส​เย่​พักผ่อน​อยู่​ อีก​ทั้งเมือง​เสี่ยว​ฉือ​ยังมี​ผู้คน​อาศัย​อยู่​ด้วย​”

สิ้น​เสียง​ใบหน้า​ของ​ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​ พลัน​ปรากฏ​สีหน้า​เอือมระอา​ออกมา​ มุมปาก​กระตุก​เล็กน้อย​ “เจ้าบอ​กว่า​แดน​เหนือ​มีเรื่องด่วน​มิใช่หรือ​ ? ”

“ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ ขอ​เพียง​ข้า​ได้​พบ​ผู้อาวุโส​เย่​ผู้​นี้​แล้ว​ ก็​จะไป​ที่​แดน​เหนือ​เพื่อ​ต่อกร​กับ​จักรพรรดิ​มาร​ตน​นั้น​ทันที​”

“เอ่อ​…”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​และ​หนาน​กง​เสวียน​จีมีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ทันที​

ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​ที่​มีนิสัย​มุทะลุ​เห็น​ท่าทาง​ลังเล​ของ​ของ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​แล้ว​ ก็​แค่น​เสียง​เย็น​ออกมา​ ก่อน​จะเหาะ​ไป​ทาง​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​ต่อ​โดย​มิสนใจ​ผู้ใด​อีก​

ส่วน​คนอื่น​ ๆ ต่าง​ก็​มีสีหน้า​เป็นกังวล​ออกมา​ ทว่า​กลับ​มิใคร​เหาะ​ตาม​ไป​แต่อย่างใด​

ตอนนั้น​เอง​ ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​เหลือบมอง​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​และ​หนาน​กง​เสวียน​จีที่​ทำ​หน้านิ่วคิ้วขมวด​ จึงเอ่ย​ขึ้น​เรียบ ๆ​ ว่า​

“พวก​เจ้าสอง​คน​มิต้อง​คิดมาก​หรอก​ ผู้อาวุโส​ฮูเอี๋ยน​มีนิสัย​โผงผาง​ อีก​ทั้ง​ครา​นี้​ให้​เขา​ได้รับ​บทเรียน​เสียหน่อย​ก็​คง​มิได้​เลวร้าย​อะไร​มาก​หรอก​”

ได้ยิน​เช่นนั้น​หนาน​กง​ชิงหมิง​ก็​ถามด้วย​ความสงสัย​ “พี่​ซีเห​มิน​ ท่าน​ว่า​ผู้อาวุโส​เย่​ท่าน​นั้น​จะลงมือ​กับ​เขา​จริง ๆ​ งั้น​หรือ​ ? ”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ส่ายหน้า​ไปมา​ พร้อมกับ​รอยยิ้ม​มีเลศนัย​ “ผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​ผู้อาวุโส​เย่​ คง​มิลงมือ​ง่าย ๆ​ ใน​โลก​นี้​หรอก​ แต่​หาก​เป็น​คนรับใช้​ข้าง​กาย​ของ​เขา​ก็​มิแน่​”

“ห๊ะ​ ! ”

หนาน​กง​ชิงหมิง​และ​มู่หรง​หลิน​ต่าง​ก็​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ทันที​ ขณะเดียวกัน​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ประหลาดใจ​ใน​ตัว​ผู้อาวุโส​เย่​ ที่​เต็มไปด้วย​ความลึกลับ​ผู้​นี้​

ทว่า​เวลา​ผ่าน​ไป​มิกี่​อึดใจ​

ขณะที่​ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​อยู่​ห่าง​จาก​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​เพียง​ร้อย​จั้งนั้น​

จู่ ๆ ร่าง​ของ​เขา​ก็​กระเด็น​จน​ลอย​ไป​ด้านหลัง​ราวกับ​ว่าว​ที่​สาย​ป่าน​ขาด​ โดย​มิอาจ​ควบคุม​ได้​

มิเพียง​เท่านั้น​ ระหว่าง​ที่​ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​กระเด็น​ไป​นับ​ร้อย​จั้ง

พลัง​และ​จิต​สังหาร​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ก็​แผ่​ปกคลุม​บริเวณ​นั้น​ทันที​

จากนั้น​ก็ได้​มีร่าง​ ๆ หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​กลางอากาศ​

ทว่า​ทันใดนั้น​ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​ก็​ถูก​พลัง​ที่​รุนแรง​บางอย่าง​ซัด​ใส่ร่าง​ในทันที​ จน​ร่วง​ลงมา​ลอยคว้าง​กลางอากาศ​

เท่านั้น​ยัง​มิพอ​ร่าง​ของ​เขา​ยังคง​ถูก​พลัง​ลึกลับ​นั้น​ซัด​ใส่อีกครั้ง​ จน​ร่วง​ลง​สู่พื้นดิน​และ​จมลง​ไป​

“ตูม​ ! ”

ทันใดนั้น​เสียง​อัน​ดัง​กึกก้อง​เสียง​หนึ่ง​ก็​ดัง​ขึ้น​

พื้นดิน​ภายใน​รัศมี​ร้อย​จั้งทรุดตัว​ลง​ แตก​ออก​เป็น​รอยแยก​อัน​น่าสะพรึงกลัว​มากมาย​

ส่วน​ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​นั้น​บัดนี้​กลับ​จมลง​ไป​ใน​ฝุ่นผง​ที่​ลอย​ขึ้น​มาไป​นาน​แล้ว​

ทันทีที่​เห็นภาพ​ตรงหน้า​ ทุกคน​ต่าง​ก็​อ้าปากค้าง​ ท่าทาง​ของ​พวกเขา​เต็มไปด้วย​ตื่นตระหนก​อย่าง​มิอาจ​บรรยาย​ได้​

‘ผู้ใด​กัน​ ! ’

‘ถึงสามารถ​ลงมือ​กับ​ผู้​แข็งแกร่ง​อย่าง​ฮูเอี๋ยนเจิน​ชวน​ได้​ง่ายดาย​เช่นนี้​’

‘หรือว่า​จะเป็น​ผู้อาวุโส​เย่​ท่าน​นั้น​ ? ’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน