เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 304

สรุปบท ตอนที่ 304 เสี่ยวหลิว เรื่องนี้คงมิเหนือบ่ากว่าแรงเกินไปใช่หรือไม่ ?: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

สรุปตอน ตอนที่ 304 เสี่ยวหลิว เรื่องนี้คงมิเหนือบ่ากว่าแรงเกินไปใช่หรือไม่ ? – จากเรื่อง เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน โดย Internet

ตอน ตอนที่ 304 เสี่ยวหลิว เรื่องนี้คงมิเหนือบ่ากว่าแรงเกินไปใช่หรือไม่ ? ของนิยายนิยายแปลเรื่องดัง เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่​ 304 เสี่ยว​หลิว​ เรื่อง​นี้​คง​มิเหนือ​บ่า​กว่า​แรง​เกินไป​ใช่หรือไม่​ ?

เวลานี้​หลัว​ชุน​เฟิงเริ่ม​รู้สึก​หมด​ความอดทน​เต็มที​

หาก​มิใช่เพราะ​ที่นี่​เป็น​ที่พำนัก​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​ เขา​อยาก​จะตบ​หัว​ตาแก่​เรื่องมาก​ผู้​นี้​เสีย​จริง ๆ​

แดน​ใต้​แตก​พ่าย​ กองทัพ​ปีศาจ​นับ​แสน​บุก​เข้า​จงหยวน​ ศิษย์​ลัทธิ​เต๋า​นับ​แสน​คน​ต้อง​ล้มตาย​

คิดดู​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​จิตใจ​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ย่ำแย่​เพียงใด​ !

หาก​มิใช่เพราะ​เขา​เคย​พบ​หน้า​ผู้อาวุโส​เย่​ที่​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​เพียง​ครั้ง​เดียว​แล้ว​ละ​ก็​ เขา​คง​มิต้อง​มาถามเรื่อง​ที่พำนัก​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​เช่นนี้​หรอก​

‘ข้า​เพียง​ต้อง​การทราบ​ที่พำนัก​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​ ทำไม​เจ้าถึงคิด​ว่า​ข้า​ต้องการ​หมอ​เพื่อ​รักษา​กัน​ ? ’

‘เจ้าต่างหาก​ที่​ประสาท​ ! ’

‘บ้าน​เจ้าสิประสาท​กัน​ทั้ง​บ้าน​! ’

“ท่าน​ผู้เฒ่า​ ท่าน​เป็น​อะไร​มางั้น​หรือ​ ? ”

เถ้าแก่​เว่ย​เอ่ย​ถามอีกครั้ง​ “หรือว่า​ใกล้​ ๆ เมือง​เสี่ยว​ฉือ​มีโจร​ภูเขา​ ? ”

“มิใช่สิ โจร​ภูเขา​อะไร​ถึงได้​เลือก​ออกมา​ปล้น​ฆ่าใกล้​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​เช่นนี้​”

“นอกจาก​ที่นี่​จะมิมีขบวน​พ่อค้า​ผ่าน​มาแล้ว​ ที่นี่​ยังอยู่​ใน​เขต​ความดูแล​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​อีกด้วย​ เจ้าโจร​ภูเขา​พวก​นี้​ช่างมิรู้เรื่อง​รู้​ราว​อะไร​บ้าง​เลย​!”

“พวก​มัน​ยัง​มีมโนธรรม​อยู่​หรือไม่​ ถึงได้​ลงมือ​กับ​คนแก่​เช่น​ท่าน​ได้​ เฮ้อ​ โลก​เรา​ตกต่ำ​ลง​จริง ๆ​ สินะ​ ! ”

หลัว​ชุน​เฟิงปรายตา​มอง​เถ้าแก่​เว่ย​ที่​พูด​มิหยุด​ด้วย​ความโมโห​ ก่อน​จะหมุนตัว​จากไป​ทันที​

จากนั้น​หลัว​ชุน​เฟิงก็​สืบถาม​ไป​ทั่ว​ จน​ในที่สุด​ด้วย​การนำทาง​ของ​ช่างตีเหล็ก​ซ่ง จึงได้​มาถึงหน้า​ประตู​เรือน​ของ​เย่​ฉางชิงในที่สุด​

ขณะเดียวกัน​ แม้จู่ ๆ จะมีภรรยา​ที่​งดงาม​ราวกับ​เทพธิดา​เพิ่มขึ้น​มาถึงสอง​คน​ ทว่า​ช่วง​ที่ผ่านมา​อารมณ์​ของ​เย่​ฉางชิงกลับ​มิค่อย​ดี​เท่าไร​นัก​

กลับกัน​ผู้​ที่​รู้​ความจริง​ทุก​อย่างเช่น​เขา​ ใน​ทุก ๆ​ วัน​กลับ​ต้อง​ใช้ชีวิต​อยู่​ภายใต้​ความกดดัน​บางอย่าง​ ช่างน่าอึดอัด​ใจยิ่งนัก​

มิเพียง​เท่านั้น​ เขา​ก็​ยัง​ต้อง​มากังวล​เรื่อง​หิน​หุน​หยวน​ที่​ใช้ใน​การ​บำเพ็ญ​เพียร​อีก​

ขณะที่​เย่​ฉางชิงกำลัง​นอน​อยู่​บน​เก้าอี้​ตัว​ยาว​นั้น​

นอก​เรือน​ก็​มีเสียง​ชรา​ที่​ฟังดู​คุ้นหู​เสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​

“ท่าน​เย่​ ผู้น้อย​หลัว​ชุน​เฟิงมาขอ​พบ​ขอรับ​”

เย่​ฉางชิงได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​ลืมตา​ขึ้น​ จากนั้น​ก็​เผย​สีหน้า​ฉงน​ออกมา​

‘หลัว​ชุน​เฟิง ? ’

‘ชื่อ​นี้​เหมือนเคย​ได้ยิน​ที่ไหน​มาก่อน​นะ​’

‘ใช่แล้ว​ ! ’

‘หลัว​ชุน​เฟิงผู้​นี้​เหมือน​จะเป็น​เจ้าสำนัก​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ต้า​หลัว​นี่​นา​ ! ’

คิดถึง​ตรงนี้​เย่​ฉางชิงก็​รีบ​ลุกขึ้น​ยืน​ และ​เดิน​ไป​เปิด​ประตู​ทันที​

ทว่า​ใน​วินาที​ที่​เขา​เปิด​ประตูออก​

ร่าง​ทั้ง​ร่าง​พลัน​นิ่ง​ค้าง​อย่าง​ห้าม​มิได้​

‘ชาย​ชรา​ที่​คราบเลือด​เปรอะเปื้อน​ไป​ทั้งตัว​ ผมเผ้า​ยุ่งเหยิง​ผู้​นี้​ เป็น​เจ้าสำนัก​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​อันดับ​หนึ่ง​จริง ๆ​ เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ’

‘แต่​ต่อให้​เป็น​เจ้าสำนัก​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ต้า​หลัว​จริง ๆ​ แล้ว​เขา​จะมาที่นี่​ด้วย​สภาพ​นี้​ทำไม​กัน​ ! ’

‘ขอ​ภาพ​อักษร​พู่กัน​และ​ภาพวาด​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ’

‘แต่​ดูท่าทาง​ก็​มิจะใช่นี่​นา​ ! ’

“ผู้น้อย​หลัว​ชุน​เฟิงคารวะ​ท่าน​เย่​ขอรับ​”

หลัว​ชุน​เฟิงโค้ง​คำนับ​ให้​แก่​เย่​ฉางชิง ด้วย​ท่าทาง​นอบน้อม​

เย่​ฉางชิงผงะ​ไป​เล็กน้อย​ ก่อน​จะฉีก​ยิ้ม​ออกมา​

“เจ้าสำนัก​หลัว​ เชิญเข้ามา​คุย​กัน​ด้านใน​เถอะ​”

เย่​ฉางชิงชั่งใจเล็กน้อย​ ก่อน​จะเอ่ย​เชื้อเชิญ​

แม้เจ้าสำนัก​ต้า​หลัว​ตรงหน้า​ท่าน​นี้​จะมีสภาพ​สะบักสะบอม​ แต่​ดู​จาก​หน้าตา​แล้ว​ยังคง​เป็น​เจ้าสำนัก​ต้า​หลัว​ ที่​เขา​เคย​พบ​ที่​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​จริง ๆ​

ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ ย่อม​มิอาจ​ปล่อย​ให้​เจ้าสำนัก​ต้า​หลัว​ท่าน​นี้​ ตากลม​อยู่​ข้างนอก​เป็นเวลา​นาน​ได้​

ทว่า​ขณะที่​เย่​ฉางชิงเดิน​นำ​เข้าไป​

วินาที​ที่​หลัว​ชุน​เฟิงเข้ามา​ใน​เรือน​ แล้ว​หมุนตัว​ไป​ปิดประตู​เสร็จ​แล้ว​นั้น​

“ตุบ​ ! ”

หลัว​ชุน​เฟิงพลัน​น้ำตาไหล​อาบ​แก้ม​ พร้อมกับ​ทรุด​ลง​ไป​คุกเข่า​กับ​พื้น​ในทันที​

“ผู้อาวุโส​เย่​ ลัทธิ​เต๋า​กำลัง​ตกอยู่ในอันตราย​ขอรับ​ ! ”

หลัว​ชุน​เฟิงโขก​หัว​ลง​กับ​พื้น​ พร้อมกับ​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​ความ​เจ็บแค้น​

‘ลัทธิ​เต๋า​กำลัง​ตกอยู่ในอันตราย​ ? ’

เย่​ฉางชิงนิ่งอึ้ง​ไป​ทันที​ เมื่อ​หมุนตัว​ไป​แล้ว​พบ​ว่า​หลัว​ชุน​เฟิงกำลัง​หมอบ​อยู่​ที่​พื้น​ ก็​ตะลึงงัน​อีกครั้ง​

‘เจ้าสำนัก​ต้า​หลัว​ ท่าน​หมายความว่า​เยี่ยง​ไร​ ? ’

‘ลัทธิ​เต๋า​ตกอยู่ในอันตราย​ แล้ว​เกี่ยว​อะไร​กับ​ข้า​กัน​ ? ’

‘อีก​อย่าง​เจ้าเอง​ก็​เป็น​ถึงเจ้าสำนัก​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ใหญ่​’

‘ควรจะ​มีศักดิ์ศรี​หน่อย​ได้​หรือไม่​ ? ’

คิดได้​เช่นนั้น​ มุมปาก​เย่​ฉางชิงก็​กระตุก​ขึ้น​ทันที​

เขียน​อักษร​พู่กัน​ ?

ดีด​พิณ​ ?

วางหมาก​ ?

…………………………….

ขณะที่​เย่​ฉางชิงกำลัง​ครุ่นคิด​อยู่​ภายในใจ​นั้น​

ถูสือ​ซาน​ที่นั่ง​บำเพ็ญ​เพียร​อยู่​มิไกล​นัก​ก็​ค่อย ๆ​ ลืมตา​ขึ้น​ จากนั้น​ก็​กลอกตา​ไปมา​ ก่อน​จะลุก​เดิน​เข้ามา​

นาง​ชำเลือง​มอง​หลัว​ชุน​เฟิงที่​ยังคง​หมอบ​อยู่​ที่​พื้น​ จากนั้น​ก็ได้​เอ่ย​ถามเย่​ฉางชิงด้วย​น้ำเสียง​อัน​นุ่มนวล​ว่า​

“ท่าน​เย่​ ปีศาจ​เผ่า​ต่าง ๆ​ จาก​เทือกเขา​แดน​ใต้​ บุก​โจมตี​จงหยวน​หรือ​เจ้าคะ​ ? ”

เย่​ฉางชิงได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​ได้สติ​ขึ้น​มา ก่อน​จะพยักหน้า​รับ​

ทว่า​ใน​ตอนนั้น​เอง​ดวงตา​ของ​เย่​ฉางชิงก็​เกิด​ประกาย​บาง​ ๆ แวบ​ผ่าน​

‘เกือบ​ลืม​ไป​แล้ว​ ! ’

‘ถูสือ​ซาน​มาจาก​เผ่า​จิ้งจอก​วิญญาณ​แห่ง​เทือกเขา​แดน​ใต้​นี่​นา​ อีก​ทั้ง​นาง​ยังมี​ตบะ​บารมี​ระดับ​จ้าว​ปีศาจ​อีกด้วย​’

‘เช่นนี้​แล้วก็​สามารถ​ให้​ถูสือ​ซาน​ออกหน้า​ ไป​ช่วย​เกลี้ยกล่อม​ปีศาจ​เผ่า​ต่าง ๆ​ ได้​น่ะ​สิ ? ’

‘ใช่แล้ว​ ! ’

‘ยังมี​เสี่ยว​หลิว​อีก​นี่​นา​ ! ’

‘บัดนี้​นาง​ยัง​เป็น​ถึงผู้​ที่​สามารถ​ขึ้น​สวรรค์​ได้​ตลอดเวลา​’

‘ที่​สำคัญ​นาง​ก็​เป็น​ปีศาจ​เช่นกัน​ ! ’

คิดได้​เช่นนั้น​ เย่​ฉางชิงก็​เอา​มือ​ไพล่หลัง​ พร้อมกับ​เอ่ย​ขึ้น​มาเสียง​เรียบ​ว่า​ “เสี่ยว​หลิว​”

สิ้น​เสียง​ร่าง​อรชรอ้อนแอ้น​ร่าง​หนึ่ง​ ก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​ตรงหน้า​ของ​เย่​ฉางชิงราวกับ​ภูตผี​

“ท่าน​เย่”​

เทพ​หลิว​ย่อ​กาย​ลง​คำนับ​ให้​แก่​เย่​ฉางชิง

“เสี่ยว​หลิว​ สือ​ซาน​ ข้า​อยาก​ให้​พวก​เจ้าไปหา​ปีศาจ​เผ่า​ต่าง ๆ​ ”

ใบหน้า​ของ​เย่​ฉางชิงเวลานี้​มิได้​บ่งบอก​อารมณ์​ใด​ ๆ เขา​เพียง​เอา​มือ​ไพล่หลัง​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​มาเรียบ ๆ​ ว่า​ “พวก​เจ้าสอง​คน​จงไป​บอก​ปีศาจ​เผ่า​ต่าง ๆ​ ว่า​ นับแต่​สมัย​บรรพกาล​พวกเขา​ก็​ใช้ชีวิต​อยู่​ที่​เทือกเขา​แดน​ใต้​มาเนิ่นนาน​แล้ว​ เช่นนั้น​ก็​จงอยู่​ใน​เทือกเขา​แดน​ใต้​ต่อไป​”

เอ่ยถึง​ตรงนี้​ เย่​ฉางชิงก็​ถามเทพ​หลิว​ขึ้น​ว่า​ “เสี่ยว​หลิว​ มิเหนือ​บ่า​กว่า​แรง​เจ้าเกินไป​หรือไม่​ ? ”

เทพ​หลิว​มิได้​เผย​สีหน้า​ใด​ ๆ ออกมา​ นาง​เพียงแค่​ส่ายหน้า​น้อย​ ๆ

เย่​ฉางชิงจึงพยักหน้า​รับ​ จากนั้น​ก็​บังเอิญ​เหลือบ​ไป​เห็น​ราชัน​ทมิฬ​ที่อยู่​มิไกล​นัก​

“เช่นนั้น​พวก​เจ้าก็​พา​ราชัน​ทมิฬ​ไป​ด้วย​ก็แล้วกัน​”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน