เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 372

ตอนที่ 372 ซานหยาง อาจารย์รู้สึกว่าเจ้าฉลาดขึ้นมากจริง ๆ

‘อาจารย์เป็นอะไรไปกันแน่ ? ’

‘ผมเผ้าปลิวสยาย ราวกับจะสู้ตายเยี่ยงนั้น’

‘ทว่าตอนนี้กลับมาถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับสำนักชิงหยาง ! ’

‘หรือว่าตอนที่อาจารย์กำลังบำเพ็ญเพียรจะเกิดปัญหาขึ้น ทำให้ธาตุไฟเข้าแทรกเยี่ยงนั้นหรือ ? ’

‘อืม ! ’

‘มีความเป็นไปได้ ! ’

‘มิใช่สิ ! ’

‘ดูจากท่าทางในตอนนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าธาตุไฟคงเข้าแทรกไปแล้วแน่ ๆ ! ’

‘มิใช่หรอกกระมัง ! ’

‘อาจารย์คงมิโชคร้ายขนาดนั้นกระมัง ! ’

‘ในที่สุดสำนักชิงหยางก็มีศิษย์ที่เก่งกาจอย่างศิษย์น้องเย่เพิ่มขึ้นมา โอกาสที่จะกลับมารุ่งเรืองอยู่อีกมิไกล’

‘แต่ช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้’

‘อาจารย์กลับเป็นเสียสติไปซะแล้ว’

คิดถึงตรงนี้

“เรื่องดีมิมาคู่ เรื่องร้ายมิมาเดี่ยวจริง ๆ สินะ !”

ลู่ซานหยางอดมิได้ที่จะมองนักพรตชิงอวิ๋นอีกครั้ง พลางทอดถอนใจออกมาอย่างอดมิได้ “แต่โชคดีที่สำนักชิงหยาง ยังมีผู้ที่เก่งกาจอย่างศิษย์น้องเย่อยู่”

“มิเพียงแต่ศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์น้องห้าจะได้รับวาสนาอันยิ่งใหญ่ แม้แต่ข้าลู่ซานหยางเองก็พลอยได้รับวาสนาอันยิ่งใหญ่ไปด้วยเช่นกัน”

เอ่ยถึงตรงนี้ ลู่ซานหยางจึงเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยกับนักพรตชิงอวิ๋นอย่างจริงใจว่า “อาจารย์ท่านวางใจได้ สำนักชิงหยางยังมีข้าและศิษย์พี่ใหญ่อยู่ เชื่อว่าภายภาคหน้าจะต้องกลับมารุ่งเรืองดังเช่นเมื่อก่อนได้อย่างแน่นอน…”

“เพี๊ยะ ! ”

ลู่ซานหยางเอ่ยยังมิทันจบประโยค

นักพรตชิงอวิ๋นก็ตบลงที่ศีรษะของลู่ซานหยางในทันที

“ศิษย์ชั่ว เจ้าพูดเหลวไหลอะไรของเจ้า ! ”

นักพรตชิงอวิ๋นอดมิได้ที่จะตะคอกออกมาเสียงดัง

สิ้นเสียงลู่ซานหยางก็มิได้พูดอะไรอีก เพียงแค่ถอนหายใจออกมาน้อย ๆ ก่อนจะลูบที่หัวของตัวเอง

“อาจารย์ข้ารู้ดี ว่าตอนนี้จิตใจของท่านมิปกติ เช่นนั้นข้าจะมิโทษท่าน…”

เอ่ยได้เพียงเท่านั้น

“เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!”

นักพรตชิงอวิ๋นที่กำลังกระวนกระวายใจ จึงทนฟังลู่ซานหยางพูดจาเหลวไหลมิไหวอีกแล้ว จึงได้ตบตีไปที่ใบหน้าและศีรษะของเขาอย่างมิยั้ง

“หลี่ชิงอวิ๋น ! ”

ลู่ซานหยางคำรามก้อง ก่อนจะถอยหลังไปไกลครึ่งจั้งภายในพริบตา

“เจ้าจะหยุดได้หรือยัง ! ”

ลู่ซานหยางที่บัดนี้น้ำตาคลอเบ้า ใบหน้าครึ่งซีกบวมแดง ร้องเอะอะโวยวายขึ้นมาทันใด “จิตใจเจ้ามิปกติ ข้าจึงมิอยากจะถือสา แต่เจ้าจะมาตบตีข้าเช่นนี้มิได้เหมือนกัน ! ”

“เวลานี้ข้าเป็นอัจฉริยะของวิถีค่ายกล หากเจ้าตีข้าจนสมองเกิดมีปัญหาขึ้นมา ก็เท่ากับเป็นความสูญเสียของสำนักชิงหยางด้วยเช่นกัน ! ”

เอ่ยเพียงเท่านั้น ลู่ซานหยางเองก็มิเกรงใจอีกต่อไป

เขาหยิบภาพค่ายกลแผ่นหนึ่งออกมาจากแหวนเก็บสมบัติ ชำเลืองมองคร่าว ๆ ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างทำท่ามุทรา เพื่อสร้างรอยประทับขึ้นในทันที

ขณะเดียวกัน เมื่อเขาสร้างตราโบราณนี้ขึ้นมา ค่ายกลด้านหลังของเขาก็เกิดการขานรับกับตราโบราณนี้

ทันใดนั้น ห้วงอากาศก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเป็นบริเวณกว้าง ราวกับหินก้อนเดียวสามารถก่อให้เกิดคลื่นนับพัน เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

ขณะเดียวกัน ไอสังหารจำนวนมหาศาลกลุ่มหนึ่งก็ปะทะเข้าใส่นักพรตชิงอวิ๋นในทันที

ใช่แล้ว !

ลู่ซานหยางต้องการใช้ค่ายกลสังหาร สะกดนักพรตชิงอวิ๋นเอาไว้ !

“ซานหยาง เจ้าทำเช่นนี้ได้เยี่ยงไรกัน ? ”

เมื่อนักพรตชิงอวิ๋นเห็นภาพตรงหน้า สีหน้าโมโหพลันเปลี่ยนแปลงเป็นยินดีขึ้นภายในพริบตา

เวลานี้การกระทำของลู่ซานหยางทำให้เขาตกตะลึงมากจริง ๆ

ยังมิต้องเอ่ยถึงว่าค่ายกลสังหารตรงหน้านั้นมีความน่ากลัวมากเพียงใด

แต่สิ่งที่ทำให้เขาคาดมิถึงก็คือ

คนไร้ค่าอย่างลู่ซานหยางผู้นี้ กลับสามารถใช้พลังของค่ายกลสร้างความกดดันให้เขาได้จริง ๆ

แค่คิดก็รู้แล้วว่า เรื่องทั้งหมดนี้หมายความเช่นไรกัน !

หลังจากที่ได้สติ เมื่อเห็นว่าลู่ซานหยางมิมีทีท่าว่าจะยั้งมือ

เพียงชั่วประกายไฟแลบ

นักพรตชิงอวิ๋นจึงเหาะถอยหลังออกไปไกลหลายจั้งในทันที

“เปรี้ยง ! ”

พลังแห่งค่ายกลสังหารจำนวนมหาศาลพุ่งออกไป ก่อนจะระเบิดขึ้นตรงบริเวณที่นักพรตชิงอวิ๋นยืนอยู่ก่อนหน้านี้

“ตาเฒ่า คิดมิถึงว่าขนาดจิตมิปกติไปแล้ว จะยังสามารถหลบหลีกการโจมตีของค่ายกลสังหารของข้าได้อีก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน