เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 441

ตอนที่ 441 จิตใจแตกสลาย นักพรตเสวียนจีคลุ้มคลั่ง

ต้องบอกว่าการได้มาพบผู้ที่เก่งกาจเช่นเย่ฉางชิงอีกครั้งที่นิกายกระบี่สวรรค์นั้น ทำให้หนานกงเสวียนจีรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนี้ราวกับความฝันก็มิปาน

“ท่านเย่ เป็นท่านจริงหรือ ?”

มิกี่อึดใจต่อมา

หนานกงเสวียนจีก็ได้ส่งกระแสจิตไปถามเย่ฉางชิง

เย่ฉางชิงเผยสีหน้าสับสนออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับ

“ใช่แล้ว !”

มิเพียงแต่หนานกงเสวียนจี แต่ต่อให้เป็นคนอื่นที่เคยรู้จักเขา เวลานี้ก็คงมีท่าทีมิต่างกันมากนัก

เยี่ยงไรซะตอนที่อยู่โลกเบื้องล่าง แม้เขาจะเก็บตัวอยู่แต่ภายในเมืองเสี่ยวฉือมาหลายปี ทว่าสุดท้ายเพราะความฝันในครั้งนั้น จึงทำให้เขากลายเป็นผู้ไร้พ่าย และมีพลังที่สามารถควบคุมทุกสิ่งได้

อีกทั้งตอนที่เขาจากโลกเบื้องล่างมา ภาพจำที่เขาทิ้งเอาไว้ให้กับทุกคน ตัวเขาคือผู้ไร้เทียมทานที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบ

หลังจากทอดถอนใจออกมาแล้ว

“เจ้ามิได้จำคนผิดหรอก เป็นข้าจริง ๆ ”

เย่ฉางชิงเพ่งกระแสจิตตอบกลับไป “ชนะหมากกระดานนี้ให้ได้ก่อน เรื่องอื่นพวกเราค่อยมาคุยกันทีหลัง”

เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ หนานกงเสวียนจีเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะเบนสายตากลับไปยังกระดานหมากอีกครั้ง

ขณะเดียวกันนักพรตเสวียนจีที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหนานกงเสวียนจี ก็ได้ปรายตามองเย่ฉางชิงเล็กน้อย แต่มิได้เอ่ยสิ่งใดออกมา

ทว่าวินาทีต่อมาสิ่งที่เขาคาดมิถึงก็คือ วิธีการเดินหมากของหนานกงเสวียนจี จู่ ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไป โดยมีการวางหมากขาวลงไปบนตำแหน่งดวงดาว ที่เขามองแล้วก็ยังมิสามารถเข้าใจได้แม้แต่นิดเดียว

‘เจ้าหนุ่มนี่มันอันใดกัน !’

‘เหตุใดจู่ ๆ วิธีการเดินหมากของเจ้า ถึงเปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้ !’

“เจ้าหนุ่ม เจ้าแน่ใจงั้นหรือว่าจะวางหมากตรงตำแหน่งนี้ ? ”

แววตาคมปราบของนักพรตเสวียนจี จ้องมองหนานกงเสวียนจีอย่างเย็นชา พร้อมกับเอ่ยถามขึ้น

“ใช่แล้ว ตรงนี้นี่แหละ ! ”

หนานกงเสวียนจีเผยรอยยิ้มกว้างออกมา ท่าทางดูสบายอารมณ์และมั่นอกมั่นใจเป็นอย่างมาก

‘ท่านเย่เป็นผู้ใดกัน !’

‘ขอเพียงเป็นคำกล่าวของเขา ข้า หนานกงเสวียนจี ย่อมไร้ซึ่งข้อกังขาโดยสิ้นเชิง’

‘และในเมื่อท่านเย่ยื่นมือเข้ามาช่วยเช่นนี้ วันนี้ผู้ที่จะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็คือเจ้า ! ’

เมื่อเห็นดังนั้นมุมปากของนักพรตเสวียนจีก็ถึงกับกระตุก ก่อนจะเพ่งสมาธิไปบนกระดานหมาก ต่อมาก็ปรากฏหมากดำขึ้นมาหนึ่งตัว

ทว่าสิ่งที่เขาคาดมิถึงก็คือ ทันทีที่เขาวางหมากลงไป

สองนิ้วของหนานกงเสวียนจีก็คีบหมากขาวขึ้นมาหนึ่งตัว จากนั้นก็ได้วางหมากต่อโดยมิหยุดคิดใด ๆ เลยแม้แต่น้อย

‘นี่มัน ! ! ! ’

‘เหตุใดนิสัยของเจ้าหนุ่มคงนี้ จึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเช่นนี้ได้ ?’

‘หรือว่ามียอดฝีมือแห่งวิถีหมากคอยชี้แนะอยู่เบื้องหลัง ?’

‘เป็นไปมิได้ ! ’

‘ด้วยความแตกฉานในวิถีหมากของข้า อย่าว่าแต่หลิงโจวเลย เกรงว่าแม้แต่ทั่วสวรรค์บูรพาก็ยากที่จะมีผู้ใดเทียบเคียงได้’

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นักพรตเสวียนจีก็ได้เริ่มวางหมากอีกครั้ง

แต่ที่เขามิคาดคิดก็คือ หนานกงเสวียนจีกลับวางหมากต่ออย่างรวดเร็ว

แม้ภายในใจของนักพรตเสวียนจีเวลานี้จะเต็มไปด้วยความสงสัย และส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขามิน้อย แต่เขาก็มิได้เอ่ยสิ่งใดออกมาอีก

จนเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม

บนกระดานที่มีหมากวางอยู่จนเต็มไปหมด

ตอนนั้นเองหนานกงเสวียนจีก็ได้กวาดตามองหมากบนกระดาน ก่อนจะเหลือบมองหมากขาวตัวนั้นที่ถูกวางเอาไว้ก่อนหน้านี้

“ ท่านแพ้แล้ว ”

หนานกงเสวียนจีเอ่ยกับนักพรตเสวียนจีอย่างมั่นใจ ด้วยใบหน้าที่แฝงรอยยิ้มเรียบนิ่ง

ทันทีที่สิ้นเสียง คนของสำนักเซียนใหญ่ทั้งสี่ที่เฝ้าดูอยู่เบื้องล่าง ต่างรู้สึกราวกับมีสายฟ้าฟาด สมองขาวโพลนภายในพริบตา

แพ้แล้ว !

นักพรตเสวียนจีแพ้แล้ว !

นักพรตเสวียนจีที่บำเพ็ญเพียรวิถีแห่งหมากมาโดยตลอด อีกทั้งบัดนี้เหลือเพียงครึ่งก้าวก็สามารถก้าวเข้าสู่ระดับเทพพิภพ กลับพ่ายแพ้ให้แก่บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งได้ !

นี่มัน ! ! !

นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วกระมัง !

หากข่าวนี้แพร่ออกไป จะต้องสั่นสะเทือนไปทั่วหลิงโจวเป็นแน่

โชคดีที่นักพรตเสวียนจียังมิได้จากไป มิเช่นนั้นคงได้เกิดความปั่นป่วนโกลาหลไปทั่วสวรรค์บูรพาเป็นแน่

จริงสิ !

หนานกงเสวียนจี บุรุษหนุ่มผู้นี้ แท้จริงแล้วเป็นผู้ใดกันแน่ !

เพิ่งจะขึ้นมาบนสวรรค์บูรพาได้มินาน ก็สามารถเอาชนะนักพรตเสวียนจีด้วยวิถีหมากได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน