เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 68

ตอนที่ 68 ในที่สุดก็เริ่มสังหาร

“ขวับ!”

หลังจากเสียงคำรามของนักพรตฉางเสวียนดังขึ้น ทุกคนต่างก็นิ่งอึ้งไปก่อนจะหันไปมองทางสวีฉิงเทียน

‘นี่มัน ? ’

‘นี่มันเรื่องอะไรกัน ? ’

‘หรือว่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวข้องกับเจ้าสำนักจื่อชิงเยี่ยงนั้นหรือ ? ’

ศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนต่างก็มองหน้ากันด้วยความงุนงง หลังจากนั้นก็หันไปมองเจ้าสำนักจื่อชิงที่ยืนตระหง่านอยู่บนเวทีประลองเวทีหนึ่ง

เจ้าสำนักจื่อชิงสวีฉิงเทียนขมวดคิ้วมุ่น มองนักพรตฉางเสวียนด้วยสายตาว่างเปล่าและเหม่อลอย

มิกี่อึดใจต่อมา มุมปากของสวีฉิงเทียนก็กระตุกเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เอ่ยว่า “พี่เหอ ข้าขอยอมรับว่าเรื่องนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้า ที่คิดมิรอบคอบเอง”

เมื่อได้ยินคำตอบของสวีฉิงเทียน ศิษย์ทั้งสองสำนักก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

‘เรื่องทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับเจ้าสำนักจื่อชิงจริง ๆ งั้นหรือ ? ’

‘นับแต่อดีตมา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนและดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อชิงต่างก็เป็นมิตรที่ดีต่อกัน เหตุใดจึงเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ ? ’

‘เจ้าสำนักจื่อชิงทำเช่นนี้ไปเพื่อจุดประสงค์อันใดกันแน่ ? ’

ขณะเดียวกัน

เมื่อเหล่าผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนได้ยินคำตอบของเจ้าสำนักจื่อชิง สีหน้าจึงดูเย็นชาขึ้นมาในพริบตา พลางจ้องมองด้วยแววตาโกรธแค้น

โดยเฉพาะเหล่าผู้อาวุโสที่มีนิสัยมุทะลุอยู่แต่เดิม ต่างก็มีท่าทางพร้อมที่จะลงมือขึ้นมาทันที

คืนนี้ทั่วทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน จะต้องพบกับหายนะอันใหญ่หลวงเพราะเจ้าสำนักจื่อชิงผู้นี้

ทันใดนั้นนักพรตหยวนเจี้ยนก็ตะโกนอย่างโมโหออกมาว่า “เจ้าสำนักจื่อชิง ในเมื่อเจ้ายอมรับแล้ว เช่นนั้นเจ้าควรจะอธิบายเรื่องนี้ให้พวกข้าฟังหน่อยใช่หรือไม่ ? ”

สวีฉิงเทียนกวาดตามองทุกคนด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะหันไปมองนักพรตฉางเสวียนที่สงบสติลงได้แล้ว

“พี่เหอ เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ข้าก็จะขอบอกตามตรง”

สวีฉิงเทียนหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตามตรงว่า “สมบัติโบราณที่ข้าให้ท่านนั้นมีต้นกำเนิดมาจากดินแดนอันตราย เพื่อสมบัติโบราณสองชิ้นนี้ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จื่อชิงของเราต้องล้มตายไปเป็นจำนวนมาก จากการศึกษามาหลายปีข้าก็ได้พบร่องรอยผนึกด้านบน และได้คาดเดาเอาเองว่าน่าจะเป็นสมบัติโบราณ”

เอ่ยถึงตรงนี้ สวีฉิงเทียนก็ถอดถอนใจออกมา และเอ่ยต่อว่า “ข้าเองก็คาดมิถึงเช่นกันว่าจะมีหนึ่งในนั้นเป็นถึงอาวุธเทพจำแลง มิเช่นนั้นข้ามิมีทางนำอาวุธเทพจำแลงชิ้นนี้มาเดิมพันกับท่านอย่างแน่นอน”

นักพรตฉางเสวียนที่อารมณ์ค่อย ๆ สงบลง ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา “ความจริงแล้วเรื่องนี้เป็นข้าที่รนหาที่ตายเอง เพราะข้าอยากจะนำสมบัติโบราณชิ้นนี้ไปเสริมพลังให้แก่ค่ายกลป้องกันภูผาก่อนการประลองสองสำนักจะจบลง เพื่อจะได้โอ้อวดเจ้า แต่ใครจะไปคิดว่ากลับเป็นอาวุธเทพจำแลงในตำนานเสียได้”

“ความจริงแล้วที่ข้ามิได้บอกเจ้าเรื่องผนึกก็เพราะมีบางอย่างที่มาสะกิดใจข้า”

สวีฉิงเทียนชะงักเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มขมขื่น “ผู้อาวุโสลึกลับที่เจ้าเอ่ยถึงนั้นอัศจรรย์ยิ่งนัก ข้าขอบอกตามตรงความจริงแล้วคนที่เดินหมากกับเจ้าก่อนหน้านี้ก็คือเทพแห่งหมากหนานกงเซวียนจี แต่สุดท้ายผู้อาวุโสหนานกงก็ยังพ่ายแพ้”

“นอกจากนี้ ตั้งแต่แรกข้าก็เห็นแล้วว่าเขาไท่เสวียนนั้นถูกปกคลุมไว้ด้วยพลังแห่งโชคนับคณา ประกอบกับผู้สืบทอดของเจ้าเปลี่ยนไปบำเพ็ญวิถีกระบี่ ทั้งยังแตกฉานในวิถีกระบี่ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทำให้ข้ายากที่จะรับความจริงเรื่องนี้ได้ จึงยิ่งอยากจะรู้ว่าผู้อาวุโสลึกลับท่านนี้ แท้จริงแล้วเป็นเช่นไรกันแน่”

สวีฉิงเทียนเอ่ยจบ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังของนักพรตฉางเสวียนก็เปล่งประกายขึ้นอีกครั้ง

ขณะที่ทุกคนกำลังจ้องมองเขาอยู่นั้น จู่ ๆ นักพรตฉางเสวียนก็ตบหน้าผากตนเองขึ้นมา ก่อนจะหัวเราะมิหยุด “การที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนพบกับวิกฤติเช่นนี้ ข้ามิอาจปัดความรับผิดชอบได้จริง ๆ แต่หากอาวุธเทพจำแลงชิ้นเดียวต้องการที่จะทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนที่ดำรงอยู่มาหลายแสนปีล่ะก็ ช่างน่าขันสิ้นดี ! ”

“พี่เหอ นี่ท่านหมายความว่าเยี่ยงไร ? ”

สวีฉิงเทียนได้ยินเช่นนั้นก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะจับมือข้างหนึ่งของนักพรตฉางเสวียนและเอ่ยถามขึ้นอย่างตื่นเต้น

มุมปากของนักพรตฉางเสวียนยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะปรายตามองระฆังสำริดที่ลอยอยู่เหนือตำหนักไท่เสวียน “ท่านบรรพจารย์เย่ของพวกเราดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนนั้นลงมาจากสวรรค์ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนพบกับเหตุการณ์เช่นนี้ เขาจะนิ่งดูดายได้เยี่ยงไร ? ”

‘ท่านบรรพจารย์เย่ ! ’

‘ลงมาจากสวรรค์ ! ’

เมื่อได้ยินคำพูดของนักพรตฉางเสวียน สวีฉิงเทียนก็กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะถามหยั่งเชิงว่า “พี่เหอ ท่านบรรพจารย์เย่ของท่านผู้นั้นเร้นกายอยู่ที่เมืองเสี่ยวฉือ ทั้งยังเปิดร้านขายของชำร้านหนึ่งด้วยใช่หรือไม่”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นนักพรตฉางเสวียนก็ถึงกับตกตะลึงจนนิ่งงันไป ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบเลือดฉายชัดว่าคาดมิถึงในสิ่งที่สวีฉิงเทียนได้กล่าวออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน