หลังจากกลับมาถึงห้อง เฉิงเทียนหยวนเติมน้ำร้อนเรียบร้อย แล้วหยิบชุดนอนเธอสำหรับเปลี่ยนออกมาด้วย
"หลิงหลิง รีบอาบนะ ข้างนอกมันหนาว อาบน้ำร้อนสักหน่อย"
เซวียหลิงหัวเราะเสียงทุ้มอย่างลำบากใจ "พ่อฉันกับแม่ฉัน......จะมาหา"
เฉิงเทียนหยวนตกใจสะดุ้ง แล้วถามขึ้น "เกิดเรื่องอะไรใช่ไหม?"
"เปล่า" เซวียหลิงตอบ "พวกท่านเป็นห่วงแขนพ่อ อยากมาเห็นเขาใส่แขนเทียมกับตาตัวเอง พี่ก็รู้ แขนพ่อเราเป็นสิ่งที่พ่อฉันกังวลมากที่สุด ได้ยินว่าเขาใส่แขนเทียมได้ พ่อฉันก็ดีใจมากๆ ยืนกรานว่าต้องมาดูถึงจะวางใจ"
เฉิงเทียนหยวนโล่งอก ยิ้มพร้อมพูดขึ้น "ท่าทางเธอเมื่อกี้ ฉันนึกว่าเกิดอะไรขึ้นซะอีก พ่อตากับแม่ยายก็เป็นห่วงพ่อฉันเหมือนกัน พวกท่านอยากมาก็ให้พวกท่านมาเถอะ ถึงตอนนั้นค่อยจองห้องข้างๆ เราอยู่ด้วยกันหมด ทางซ้ายเป็นพ่อแม่ฉัน ทางขวาเป็นพ่อแม่เธอ----ดีจริง!"
เซวียหลิงหัวเราะเสียงทุ้ม แล้วอธิบายว่า "ฉันไม่ได้คัดค้านที่พวกท่านจะมาหรอก แต่กองหิมะข้างนอกเยอะมาก ถนนปิดอยู่ด้วย กลัวว่าไม่ปลอดภัยที่พวกเขาจะมา"
"จริงด้วย!" เฉิงเทียนหยวนพูดอย่างรีบร้อน "เธอโทรไปหาพ่อตาอีกที บอกพวกเขาอย่ามาเลย รออากาศอุ่นขึ้น เราจะไปหาพวกท่านที่เมืองหลวง"
เซวียหลิงโบกมือปัดพร้อมยิ้มขมขื่น "ไม่ต้องโน้มน้าวแล้ว ฉันโน้มน้าวไม่ได้ พวกท่านจัดกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้ว พ่อบอกว่าเมืองหลวงไม่ถือว่าไกลจากอำเภอเมือง อีกไม่นานก็ถึง"
เฉิงเทียนหยวนขมวดคิ้วพูดขึ้น "ไม่ถือว่าไกลได้ยังไง? นั่งรถไฟตั้งสามวันนะ! อากาศก็หนาวขนาดนี้ ไม่รู้รถไฟจะติดขัดหรือเปล่า?"
"ไม่หรอก" เซวียหลิงพูด "รถไฟวิ่งไปตามราง"
เซวียหลิงเอ่ยพึมพำ "ช่างเถอะ! พวกท่านอยากมาก็มา! พ่อฉันบอกว่ายังไงเขาก็ต้องมา แถมชมว่าฉันทำถูกต้อง เขาไม่รู้ว่ามีวิธีที่ดีแบบนี้ด้วย ไม่งั้นเขาให้พ่อเราไปใส่แขนเทียมนานแล้ว"
เฉิงเทียนหยวนนึกย้อน แล้วพูดเสียงอ่อนโยน "ลุงเซวียเขาเป็นคนที่จริงใจมาก ถ้าเขารู้ เขาทำแบบนี้แน่"
เซวียหลิงพยักหน้าคล้อยตาม แล้วอธิบายว่า "ฉันบอกที่อยู่โรงพยาบาลแล้ว พวกท่านมาไม่ยาก เดี๋ยวเราต้องกลับไปกลับมาที่โรงพยาบาล ต้องรักษาสภาพจิตใจให้ดี"
เฉิงเทียนหยวนพูดเร่ง "เธอไปอาบน้ำร้อนก่อน แล้วรีบมานอน"
"ค่ะ!" เซวียหลิงตอบรับ
หลังจากนั้นสักพัก เธอก็ห่อผ้าห่มทำงานแปล
เฉิงเทียนหยวนซักเสื้อผ้าทั้งคู่เสร็จแล้ว ใช้น้ำอุ่นแช่มือ ก่อนจะรีบมาช่วยคัดลอก
คะแนนช่วงมัธยมต้นและมัธยมปลายของเขาดีมาก ความรู้ด้านอักษรศาสตร์ก็ไม่แย่ ช่วยเซวียหลิงคัดมานาน ก็ค่อยๆ ช่วยขัดเกลาคำสองคำ ปรับเปลี่ยนตามบริบทเล็กน้อยเป็นครั้งคราว
เขาขัดเกลาคำได้ไม่เลว บริบทยิ่งลื่นไหล เธอก็วางใจมาก เอาต้นฉบับทั้งหมดให้เขาช่วย
เซวียหลิวฉวยโอกาสตอนพักผ่อนยิ้มแล้วพูดขึ้น "ต่อไปฉันได้ค่าแปลมา ควรแบ่งให้พี่สักครึ่งหนึ่ง"
เฉิงเทียนหยวนเหลือบมองเธอ พูดเสียงต่ำ "ฉันยังติดหนี้เธอก้อนโตอยู่เลย!"
เซวียหลิงมองเขาอย่างกำกวม แล้วพูดขึ้น "พี่ก็ชดใช้ด้วยเนื้อทำให้ร่างกายฉันอบอุ่นทุกวันไม่ใช่เหรอ?"
เฉิงเทียนหยวนหูแดงเล็กน้อย แล้วพูดเสียงต่ำ "รีบแปล ฉันอยากทำให้ตัวเธออุ่นไม่ไหวแล้ว"
ทั้งคู่คุยหยอกล้อกันสักพัก ก่อนจะทำงานแปลต่อ
......
เช้าวันต่อมา พวกเขาก็ไปโรงพยาบาล
พวกเขาไปเช้ามาก ผอ.เซวียเพิ่งมาทำงาน เห็นครอบครัวพวกเขา ก็พยักหน้าเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง