เฉิงเทียนหยวนขอคำปรึกษาความแตกต่างระหว่างแขนเทียมสองประเภทโดยละเอียดอีกครั้ง
ผอ.เซวียมีความอดทนสูง อธิบายอีกรอบด้วยเสียงอ่อนโยน
"พวกคุณก็ไม่ต้องรีบ ทำการผ่าตัดตัดทิ้งไปก่อน แล้วค่อยตัดสินใจก่อนใส่ก็ได้ มาตรฐานต่างๆ ที่โรงพยาบาลเรามีหมด อีกสองวันค่อยตัดสินใจก็ได้ครับ"
เซวียหลิงกับเฉิงเทียนหยวนรีบกล่าวขอบคุณเขา
ในเวลานี้ พยาบาลคนหนึ่งก็เข้ามาอย่างเร่งรีบ เคาะประตูแล้วพูดขึ้น "ผอ.เซวีย รบกวนคุณมาดูผู้ป่วยเตียงแปดหน่อยค่ะ"
ผอ.เซวียเร่งฝีเท้าเดินออกไป
เซวียหลิงและเฉิงเทียนหยวนพาพ่อเฉิงกลับไปที่เตียงผู้ป่วยสอง
หลิวอิงรออยู่ข้างเตียง แล้วพูดขึ้น "เมื่อกี้พยาบาลมาบอกว่า ต้อง......ให้น้ำเกลือ"
เฉิงเทียนหยวนพยักหน้า แล้วหันตัวเดินออกไป
คุณพยาบาลมาถึงอย่างรวดเร็ว บอกว่าคุณหมอสั่งยาให้แล้ว ต้องเตรียมการก่อนผ่าตัด จากนั้นก็เตรียมให้น้ำเกลือ
อากาศหนาว พ่อเฉิงห่มผ้าแล้วงีบหลับเงียบๆ
เซวียหลิงกระทืบเท้าแล้วพูดเสียงต่ำ "พี่หยวน พี่ไปเอาฮีตเตอร์มาสิ! เราต้องอยู่ที่นี่หนึ่งวัน รีบไปเอามาก่อน ตอนกลางคืนพ่ออยู่ที่นี่ต้องใช้มัน"
เฉิงเทียนหยวนมองนาฬิกาบนผนังด้านนอก แล้วพูดขึ้น "จะเที่ยงแล้ว เรากลับไปด้วยกัน ไปเอาอาหารร้อนๆ ให้พ่อแม่กิน"
หลิวอิงยิ้มพร้อมพูดขึ้น "ฉันอยู่ที่นี่คนเดียวก็ได้ แค่ให้น้ำเกลือเอง ไม่เป็นไรหรอก!"
"ค่ะ!" เซวียหลิงเดินตามเขาออกไป
หิมะข้างนอกหยุดตกแล้ว แต่สองข้างทางยังมีกองหิมะไม่น้อย ดีที่การบริหารงานของอำเภอเมืองมีประสิทธิภาพ กำจัดกองหิมะได้อย่างรวดเร็ว ไม่กลัวคนลื่น
เซวียหลิงรู้ว่าเขามีอะไรจะปรึกษาตน จึงเรียกตนให้ออกมาด้วยกัน
หลังจากมาถึงโรงแรม ทั้งคู่นั่งเป่าข้างหน้าฮีตเตอร์ พลางปรึกษาหารือกัน
"พี่หยวน พี่ก็อยากใช้อันสามพันใช่ไหม?"
"อืม" เฉิงเทียนหยวนทำหน้าสุขุม พูดขึ้นเสียงทุ้ม "ฉันคิดว่าเธอพูดถูก ถ้าไม่มีตัวเลือก มันก็หมดหนทาง ถ้ามีตัวเลือก แล้วทำไมต้องเลือกอันที่แย่กว่าด้วย? ราคาแพงกว่าสองเท่าแต่ดีขึ้นมากเลย! ถึงผอ.เซวียจะพูดคลุมเครือ แต่ฉันก็ฟังออกว่าอันสามพันเหมาะกับพ่อเรามากกว่า เพราะแขนเขาพิการมานานหลายปี แขนเทียมนิ่มเหมาะกับเขามากกว่า"
แน่นอนว่าเซวียหลิงก็ฟังออกเช่นกัน
เฉิงเทียนหยวนพูดเสียงทุ้ม "แพงก็แพงมากจริงๆ นั่นแหละ แต่มีประโยคหนึ่งเธอพูดถูก ของสิ่งนี้มันใส่ในร่างกาย ถ้ามีอันที่ดีกว่า ก็ต้องเลือกอันที่ดีกว่าอยู่แล้ว ตอนนี้พ่อเราเพิ่งห้าสิบกว่า อย่างน้อยก็มีชีวิตอีกยี่สิบสามสิบปี เราต้องพยายามให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น"
"พูดได้ดีมากเลย!" เซวียหลิงซุกในอ้อมกอดเขาแล้วพูดขึ้น "ฉันก็คิดแบบนี้ค่ะ!"
เฉิงเทียนหยวนคิดสักพัก แล้วถามขึ้น "ที่รัก ฉันเอาห้าร้อยหยวนมาด้วย รวมกับที่เธอให้มาหนึ่งพันห้าร้อยก็เป็นสองพัน ที่เธอมีเท่าไร?"
เซวียหลิงตอบ "ฉันทิ้งไว้ที่บ้านเช่าแค่หนึ่งร้อย ที่เหลือเอามาด้วยหมดเลย ประมาณสองพันสองร้อย"
"รวมค่ากินค่าอยู่ แล้วก็ค่ารถ" เฉิงเทียนหยวนขมวดคิ้วอย่างลำบากใจ "อาจจะไม่พอ"
ไม่นานเขาก็เกิดความคิด พูดขึ้นว่า "ที่รัก เธอไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันไปโทรหาพี่อาหมิน ขอยืมเงินเขาสองสามร้อย ถึงตอนนั้นพอแน่นอน"
เซวียหลิงพยักหน้า แล้วพูดขึ้น "งานแปลของเรารวบรวมได้สามหมื่นคำแล้ว อีกไม่นานก็ได้เงิน ฉันยังมีเงินเดือนอีก มากพอให้เราได้ใช้ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินในอนาคต มีให้พ่อบำรุงร่างกายมากพอ"
ทั้งสองคุยกัน ก็ได้ความคิดเห็นร่วมกันอย่างรวดเร็ว
"งั้นก็ตัดสินใจตามนี้!"
ทั้งคู่ยิ้มให้กัน ความอบอุ่นอบอวลเต็มห้อง
......
พวกเขากินข้าวข้างนอกก่อน กินเสร็จก็แบ่งกัน คนหนึ่งถือข้าว คนหนึ่งถือฮีตเตอร์ เดินเข้าไปในตึกใหญ่โรงพยาบาล
มือข้างหนึ่งของพ่อเฉิงให้น้ำเกลืออยู่ เฉิงเทียนหยวนป้อนข้าวให้เขากิน
หลิวอิงนั่งกินบนโต๊ะสี่เหลี่ยมขนาดเล็กอยู่ข้างๆ
เซวียหลิงเดินไปที่เคาน์เตอร์พยาบาล ถามว่าภายในห้องสามารถเสียบฮีตเตอร์ได้หรือไม่
พยาบาลถามว่ากำลังไฟเยอะไหม เซวียหลิงส่ายหน้าบอกว่าปกติ อีกฝ่ายจึงเห็นด้วย
พยาบาลพูดอีกครั้ง "จริงๆ พวกคุณไม่ต้องกังวล หลังจากผู้ป่วยผ่าตัดเสร็จ เราจะย้ายเขาไปยังห้องที่มีฮีตเตอร์ ซึ่งจะอุ่นมาก หนึ่งวันเพิ่มเงินหนึ่งหยวน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง