ด้วยกระบวนการกายภาพบำบัดไม่กี่วัน พ่อเฉิงก็สามารถจัดการแขนเทียมได้เป็นอย่างดีแล้ว
ผอ.เซวียยิ้มพร้อมประกาศข่าวดี “พรุ่งนี้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ดูจากสถานการณ์นี้ ถ้าไม่เป็นอะไร ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจใหม่ อำเภอหรงหวาไกลจากที่นี่มาก ถ้าไม่สบายตรงไหน หลิงหลิงโทรมาถามฉันก็ได้”
ทุกคนดีใจกันมาก กล่าวขอบคุณเขาอย่างต่อเนื่อง
ผอ.เซวียจ่ายยาให้จำนวนหนึ่ง บอกว่ากินสามเวลาหลังอาหาร ต้องกินเป็นเวลาหนึ่งเดือน
จากนั้นเขาก็เขียนใบรายการอาหารยาสองใบให้เฉิงเทียนหยวน
“นี่คือสิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อสุขภาพร่างกายพ่อนาย ต้มให้เขากินบ่อยๆ มันดีต่อสุขภาพเขามาก”
เฉิงเทียนหยวนรีบกล่าวขอบคุณ
เซวียหลิงวิ่งออกไปซื้อของขวัญชิ้นใหญ่ให้ผอ.เซวีย แล้วมอบกุญแจหอพักให้เขา
เช้าวันต่อมา พวกเขาต้องดำเนินการออกจากโรงพยาบาล แล้วกลับไปที่โรงแรม
เฉิงเทียนหยวนรีบไปซื้อตั๋วที่สถานีรถตอนท้องฟ้าปลอดโปร่ง เป็นตั๋วพรุ่งนี้เช้าเจ็ดโมง ไปที่สถานีรถอำเภอหรงหวาตรงๆ
พ่อเฉิงเห็นว่าข้างนอกมีแดด จึงออกไปเดินเล่นกับหลิวอิง
ก่อนหน้านี้แขนเขาหดเล็กมาก สวมเสื้อผ้ามักจะหลวม หลังจากใส่แขนเทียม สวมถุงมืออยู่ ก็มองไม่ออกสักนิดว่าเป็นแขนเทียม
อารมณ์เขาดี บอกว่าไม่ค่อยได้มาที่อำเภอเมือง ต้องพาภรรยาออกมาเดินเล่น
เซวียหลิงไม่วางใจ อยากตามไปด้วย
แต่พ่อเฉิงไม่ยอม บอกว่าให้อยู่พักผ่อน เราจะเดินแถวๆ นี้ ไม่ไปไกลหรอก
เซวียหลิงทำได้แค่อยู่ต่อ
ตอนเฉิงเทียนหยวนซื้อตั๋วกลับมา เห็นมีคนขายเค้กข้าวเหนียว ก็ซื้อบางส่วนกลับมาให้เซวียหลิงกิน
เซวียหลิงกินอย่างสุขใจ ก็ไม่ง่วงแล้ว หยิบหนังสือภาษาอังกฤษออกมาแปล
เฉิงเทียนหยวนเก็บกระเป๋าเดินทาง พลางถามขึ้น “เหมือนจะเหลือไม่เยอะแล้ว”
เซวียหลิงยิ้มระรื่นอธิบาย “นึกว่าครึ่งเดือนนี้จะยุ่งมาก ใครจะไปรู้ว่าผ่าตัดราบรื่นขนาดนี้ มีพ่อแม่ฉันช่วยเหลือ ลุงจือหลันก็ช่วยเหลือ ฉันไม่ต้องทำอะไรเลย ตอนกลางวันมีเวลาว่างแปลงาน ตอนกลางคืนก็มี ฉันเดาว่าครึ่งเดือนนี้อย่างน้อยเราจะทำเสร็จห้าหมื่นกว่าคำ”
“อืม” เฉิงเทียนหยวนครุ่นคิดสักพัก แล้วพูดขึ้น “ประมาณหกหมื่น”
เซวียหลิงดีใจมาก ตะโกนด้วยความตื่นเต้น “รวมกับสามหมื่นก่อนหน้า อีกไม่นานก็จะมีแสนคำ! ว้าว! เราจะรวยอีกแล้ว!”
เฉิงเทียนหยวนยิ้มแล้วพูดขึ้น “เงินสำหรับโรงพยาบาลพ่อตาเป็นคนจ่าย ครั้งนี้นอกจากค่าตั๋วรถไปกลับและค่าที่พักโรงแรม ก็ใช้เงินไปประมาณห้าร้อยกว่าๆ เท่านั้น เรามีเงินเก็บเพิ่มขึ้นอีก”
เซวียหลิงกำหนังสือภาษาอังกฤษในมือ แล้วพูดขึ้น “เหลือแค่ยี่สิบกว่าหน้า ฉันจะรีบแปลให้เสร็จ รวมกันส่งให้เจียเสวี่ย ก็จะได้มาทีเดียวสองพันกว่าหยวน!”
เฉิงเทียนหยวนกลัวเธอเหนื่อย จึงพูดขึ้นเสียงทุ้ม “บอกว่าเสร็จก่อนปีใหม่ก็ได้ไม่ใช่เหรอ? เธอก็อย่าทำงานหนักเกินไป อีกสองเดือนกว่าจะถึงปีใหม่”
“ทำงานนี้เสร็จ ยังมีงานอื่นอีกนะ!” เซวียหลิงอธิบาย “เจียเสวี่ยบอกว่า หนังสือภาษาอังกฤษพวกนี้แปลเสร็จแล้วจะกลายเป็นหนังสือแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาจีน เป็นที่นิยมมาก เป็นที่นิยมโดยเฉพาะนักศึกษามหาวิทยาลัยและผู้ชื่นชอบอักษรศาสตร์ เธอบอกฉันว่า มีอีกเยอะที่ต้องแปล แค่ฉันทำ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีหนังสือให้แปล”
เฉิงเทียนหยวนเก็บกระเป๋าเดินทางเสร็จ ก็รีบมานั่งช่วยคัดลอกงานฉบับสมบูรณ์
“ช้าลงหน่อย ค่อยๆ ทำ”
เซวียหลิงหยิบที่เขาคัดเสร็จมาดู พร้อมพูดขึ้น “ตอนแรกทำไม่ค่อยชำนาญ ตอนนี้ทำมานาน ก็คุ้นเคยแล้ว ตอนนี้มีพี่ช่วยคัดลอกงานฉบับสมบูรณ์ ฉันก็สบายขึ้นเยอะเลย!”
วันนั้นตอนเที่ยง พ่อเฉิงกับหลิวอิงก็กลับมา
“เรากินอิ่มกันแล้ว!”
เฉิงเทียนหยวนประหลาดใจมาก ถามขึ้น “พวกคุณไปกินที่ไหนกันมา?”
พ่อเฉิงยิ้มสดใสแล้วพูดขึ้น “เราเดินไป ชมวิวไป มีร้านเล็กๆ ร้านหนึ่งขายบ๊ะจ่างกับซุปงาดำ แม่ของลูกได้กลิ่นงาดำ บอกฉันว่าเธอไม่ได้กินซุปงาดำมาหลายปีแล้ว ฉันบอกว่าจะรอทำไมล่ะ รีบเข้าไปกินสิ! เรากินบ๊ะจ่างไปสองสามลูก แล้วก็กินซุปงาดำกันคนละสองชาม”
หลิวอิงยิ้มเหมือนดอกเก๊กฮวยสดใส แล้วพูดขึ้น “อร่อยจริงๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง