เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง นิยาย บท 23

สรุปบท บทที่ 23 เขาไม่ได้โกรธ: เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง

ตอน บทที่ 23 เขาไม่ได้โกรธ จาก เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 23 เขาไม่ได้โกรธ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง ที่เขียนโดย เฟยจูจู เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บัดนี้เขาไม่กล้าแม้แต่จะขยับเขยื้อน ความรู้สึกอันไม่คุ้นเคย แต่ก็ดูเร่าร้อนนี้ทำให้เขาแทบอดใจไม่ไหว

ในสมองของเขามีแต่ความยุ่งเหยิง ชั่วขณะนี้เขาขาดสติและความคิด ไม่รู้ว่าแบบนี้ตนอยู่ที่ใด เขาอยากจะกดร่างของสาวน้อยอันอ่อนโยนนี้ลงไปอย่างดุเดือด แล้วกอดเอาไว้แน่น......

ความคิดอันบ้าคลั่งเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกไม่เป็นตนเอง และทำให้เขาทำตัวไม่ถูก

เมื่อเซวียหลิงล้มลงกระแทกดังนั้น ตัวเธอก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน

จนกระทั่งเธอได้สติกลับคืนมาแล้วพบว่าร่างของตนอยู่ในอ้อมกอดของพี่หยวน แก้มของเธอแนบชิดไปกับลำคอของเขา ริมฝีปาก......จุมพิตไปที่ลำคอ

เธออยู่ข้างบนส่วนเขาอยู่ข้างล่าง ร่างของชายหนุ่มที่อยู่ข้างล่างนั้นดูแข็งทื่อ

แม้แต่ลำคอของเขาก็ดูเกร็ง ไม่ต้องเดาเธอก็พอจะรู้ถึงเรื่องบางอย่าง ทำให้ใบหน้าของเธอแดงเรื่อ

โอ้ยตาย น่าอายจริงๆ!

ทำยังไงดีล่ะ?!

เธอไม่ได้ตั้งใจจะกระโดดเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่หยวนแบบนี้ แล้วไหนจะจูบเข้าให้อีก......

ให้ตายสิ ความโรแมนติกครั้งแรกแบบนี้มาอย่างไม่ทันตั้งตัวเอาเสียเลย เธอรับมือไม่ถูก มันกระชั้นชิดเกินไป เธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อ......

เขาไม่กล้าขยับ เธอเองก็ไม่กล้าเขยื้อน นับแต่วินาทีนั้นทั้งสองคนก็ได้แต่ตกตะลึง ความคลุมเครือปรากฏขึ้นทันใด จากอุบัติเหตุในครั้งนี้ทั้งสองคนกำลังรู้สึกอิ่มเอมใจ แต่ก็ดูเก้ๆ กังๆ

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด จนกระทั่งมีเสียงฝีเท้าดังตึงๆ เดินอยู่ข้างนอกห้อง

แม้น้ำเสียงจะบางเบา แต่ก็ทำให้ทั้งสองคนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์อย่างไม่อาจถอนตัวขึ้นมาได้ได้สติกลับคืนมา

ความรู้สึกเร่าร้อนในแววตาของเฉิงเทียนหยวนยังคงหลงเหลืออยู่ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วพยายามกลืนน้ำลายลงคอ พูดด้วยน้ำเสียงอันแหบแห้งว่า "......ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"

เซวียหลิงอายหน้าแดงเรื่อ เธอกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อยแล้วตอบว่า "......ไม่เป็นไรค่ะ"

หลังจากนั้นเธอเองก็ไม่กล้าที่จะอยู่ในสภาพนั้นเนิ่นนานนัก จึงได้พยายามรีบลุกขึ้น

คิดไม่ถึงว่าเมื่อเธอค่อนข้างจะรีบร้อนดังนั้นจึงทำให้ทำตัวไม่ถูก ยังไม่ทันที่จะได้ลุกขึ้นมา มือของเธอก็ลื่นอีกครั้ง ร่างนั้นล้มลงไปพร้อมเสียงดัง กรี๊ด จากนั้นเธอก็ตกลงไปอยู่ในอ้อมกอดของเฉิงเทียนหยวนอีกครั้งหนึ่ง

"อึก......" เฉิงเทียนหยวนส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ เขารู้สึกว่าด้านล่างของร่างกายเขาเกิดเรื่องขึ้นแล้วล่ะ แต่ท่ามกลางความเคอะเขินเช่นนี้ เขายังคงรีบเข้าไปกอดเธอเอาไว้ ร่างกายอันกำยำของเขายืดตัวตรง เมื่อพยุงเธอยืนจนนิ่งแล้ว เขาก็รีบวิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

เซวียหลิงชะงักลง มองไปยังร่างของเฉิงเทียนหยวนที่รีบวิ่งออกไปด้วยท่าทางอันน่าสมเพชเล็กน้อย เธอเรียกขึ้นว่า "พี่หยวน......"

เฉิงเทียนหยวนวิ่งลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็วแล้วเข้าไปในห้องน้ำ เขาเอื้อมมือไปเปิดก๊อกน้ำปล่อยให้เสียงน้ำไหลดังออกมา

เมื่อเซวียหลิงเห็นว่าเขารีบวิ่งออกไปด้วยท่าทางอันรวดเร็วเช่นนั้น เธอไม่มีเวลามาตระหนักคิดถึงความเขินอายแต่รีบวิ่งตามไปทันที

ประตูของห้องน้ำปิดสนิท นอกเสียจากเสียงน้ำไหลแล้วไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก

เซวียหลิงหัวใจตุ้มๆ ต่อมๆ ยืนอยู่หน้าห้อง ในที่สุดเธอก็อดไม่ได้ที่จะเรียกคืนว่า "พี่หยวน......"

เนื่องจากมีเสียงน้ำไหลผสมปนเปออกมา เซวียหลิงจึงฟังไม่ชัดนักว่าเขาพูดอะไร แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วดูเหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่

เธอเบ้ปากเล็กน้อย ความรู้สึกอันจืดจางพลุ่งพล่านออกมาจากหัวใจอย่างอดไม่ได้ เธอรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย

เขา......ไม่ชอบให้เธอค่อนข้างจะรุกด้วยตัวเองแบบนี้ใช่หรือไม่?

ที่จริงแล้วท่าทางเมื่อสักครู่เธอไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย

เธอชอบเขาก็จริง แต่เธอก็เข้าใจดีว่าเขายังไม่ได้มอบดวงใจให้แก่เธออย่างแท้จริง ส่วนตัวเธอก็ไม่ใช่คนง่ายๆ เธอไม่สามารถจะรุกเขาก่อนด้วยท่าทางแบบนั้นได้

เขาอาจจะ......เข้าใจผิดคิดว่าเธอตั้งใจทำแบบนั้น? เพราะฉะนั้นเขาจึงวิ่งออกมาจากประตูห้องโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ ท่าทางแบบนี้จะต้องโกรธแน่ๆ

เธอก้มศีรษะลงแล้วถอนหายใจออก

แท้จริงแล้วในสมัยนี้ที่เขตชนบท ชายหนุ่มหญิงสาวที่เพิ่งแต่งงานกัน ก่อนหน้าไม่ได้มีโอกาสที่จะมาพลอดรักพบปะ สำหรับชายหนุ่มหญิงสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานกันแต่กลับอาศัยอยู่ด้วยกันแล้วในสมัยนี้ ในอุดมคติของพวกเขา หากมีใครได้ยินเข้าล้วนรู้สึกว่าเกิดเรื่องใหญ่ราวกับฟ้าจะถล่ม

ส่วนเธอเติบโตขึ้นในเมืองใหญ่ เพื่อนๆ รอบกายที่มีความรักโดยมากแล้วก็มักจะติดต่อกันทางจดหมายรัก นานๆ ทีอาจจะส่งของขวัญเล็กน้อยไปให้

หากจะพูดถึงการจับมือถือแขนกันบ้าง ก็จะต้องรอให้อยู่ในสถานที่ซึ่งไม่มีผู้คนจึงจะกล้าทำ

เมื่อสักครู่ที่เธอพุ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา แล้วยังจุมพิตเข้าที่คอของเขาด้วย สำหรับเขามันคงจะเร่าร้อนและใกล้ชิดเกินไป อาจจะดูจริตมาก......

เฮ้อ...... เธอถอนหายใจออกมาแล้วพลิกตัวอีกครั้ง

เธอไม่อาจข่มตานอนได้จริงๆ จึงได้จุดไฟที่หัวเตียง ก่อนหยิบหนังสือภาษาอังกฤษที่เจียเสวี่ยส่งมาให้เธอ แล้วอ่านมันเงียบๆ

แต่เนื่องด้วยหัวใจของเธอยุ่งเหยิง จึงทำให้เธออ่านไม่เข้าใจเท่าไรนัก

ภายในห้องเงียบสงัด ข้างนอกก็เงียบมากเช่นกัน ที่ถนนในเวลาเที่ยงคืนเช่นนี้ไม่มีเสียงใดๆ นอกเสียจากแมลงที่กำลังบินอยู่รอบๆ ดวงไฟซึ่งห่างออกไปบนท้องถนน เรียกได้ว่าแทบไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลย

ในยุคสมัยนี้ผู้คนยังไม่มีชีวิตยามราตรี บรรยากาศครึกครื้นจะปรากฏขึ้นยามเทศกาลปีใหม่ ส่วนเวลาอื่นๆ นั้นทุกคนล้วนนอนหลับแต่หัวค่ำ ความเงียบสงัดโดยรอบทำให้หัวใจของเธอค่อนข้างจะสงบลงไปเช่นกัน อารมณ์ของเธอไม่ได้ดูยุ่งเหยิงเหมือนเมื่อสักครู่แล้ว เธอจึงได้นั่งอ่านหนังสืออย่างจริงจัง

แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก

เซวียหลิงสะดุ้งโหยง เธอรีบเก็บหนังสือลงแล้วมองไปยังประตูไม้

ทันใดนั้นเองน้ำเสียงอันคุ้นเคยก็ดังขึ้นว่า "ฉันนอนแปลกถิ่นจึงทำให้นอนไม่หลับ ตั้งใจจะออกมาดื่มน้ำสักแก้ว เธอเองก็นอนไม่หลับเหมือนกันเหรอ? ตอนแรกฉันเห็นว่าเธอปิดไฟนอนไปแล้ว"

เซวียหลิงชะงักลง เมื่อได้ยินน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยจากเขาเช่นนั้น......ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้โกรธตนแล้ว

เมื่อคิดได้ดังนี้ ไม่รู้ว่าทำไมในใจของเธอจึงได้รู้สึกเปล่งประกายขึ้นเล็กน้อย

เธอเผยอริมฝีปากยิ้มขึ้นแล้วพูดว่า "ฉันเองก็นอนไม่หลับค่ะเลยลุกขึ้นมาอ่านหนังสือสักหน่อย"

น้ำเสียงของเฉิงเทียนหยวนเอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่นว่า "เธออย่าเพิ่งออกมาข้างนอกเลยครับ ห้องรับแขกยังซ่อมหน้าต่างไม่เสร็จ ลมตอนกลางคืนแบบนี้หนาวเย็นจะตายไป ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้วด้วย อย่าได้อ่านหนังสือเลยครับ นอนเถอะ พรุ่งนี้ยังมีเรื่องต้องทำอีก"

เซวียหลิงรีบตอบรับ แล้วพูดขึ้นประโยคหนึ่งว่า "ค่ะพี่หยวน นายเองก็รีบนอนนะคะ"

เขาตอบคำว่า "อืม" ออกมาเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินไปรินน้ำ แล้วเดินตรงกลับเข้าไปในห้องของตนเองอย่างเงียบขรึม

เซวียหลิงสูดลมหายใจเข้าแล้วบิดขี้เกียจ เธอแอบให้กำลังใจตัวเองอย่างแผ่วเบาก่อนที่จะนอนหลับตาลงอย่างมีความสุข

การนอนหลับในครั้งนี้ดูเหมือนว่าเพียงแค่หลับตาลง เพราะเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง แสงสว่างในวันที่สองก็ได้ปรากฏขึ้นแล้ว

......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง