เซวียหลิงหันหน้าหนี แววตาของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มมองไปทางเขา
เฉิงเทียนหยวนผงะ ผู้ที่ยืนอยู่ด้านข้างมีใบหน้าขาวผ่องราวกับดอกไม้ ผิวกระจ่างใสมีเสน่ห์เหลือเกินดวงตาที่จ้องมาทางตนอย่างไม่รู้ถึงความหมาย ทำให้เขารู้สึกวูบวาบในหัวใจ
"......มีอะไรเหรอ?" น้ำเสียงของเขาถามขึ้นอย่างแหบแห้ง
เซวียหลิงพิงไปที่แขนของเขา เชิดปลายจมูกขึ้นพูดว่า "นายคิดว่ายังไงล่ะ หืม?"
เฉิงเทียนหยวนได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ แล้วรู้สึกว่าร่างกายอันอ่อนโยนที่พิงมานั้นช่างนุ่มนวลเหลือเกิน สัญชาตญาณของเขาทำให้ร่างกายหยุดนิ่งทันที สมองเต็มไปด้วยความคิดอันยุ่งเหยิง มือที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กเอื้อมไปโอบกอดเธอมาไว้ในอ้อมแขน
เซวียหลิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึง เธอโมโหและทุบไปที่หน้าอกของเขา
"งี่เง่า!"
เฉิงเทียนหยวนไม่รู้ว่าจะต้องเกลี้ยกล่อมผู้หญิงยังไง แต่เมื่อเห็นว่าดูเธอจะโกรธ เขาเองจึงทำได้เพียงกอดเธอเอาไว้
"เธออย่าได้ไปฟังเรื่องไร้สาระของอาฟาง เด็กคนนั้นไร้สมอง อายุยังน้อย ชอบพูดจาไร้สาระไปเรื่อยเปื่อย อย่าได้ถือสาเธอเลย งานที่สหกรณ์ร้านค้าตอนนี้ที่ทำอยู่ก็ไม่เลว และผมไม่คิดจะเปลี่ยนงานใหม่หรอก อีกอย่าง โอหยางเสียงผู้ชายคนนั้นนิสัยไม่ดี ผมไม่ชอบติดต่อกับคนตระกูลนั้น"
เซวียหลิงส่งเสียงหึๆ ออกมาแล้วยิ้มขึ้นพูดว่า "ก็ยังดีนะคะที่นายไม่ได้โง่เง่าจนเกินไป"
เฉิงเทียนหยวนมองไปยังท่าทางอันน่ารักและมีเสน่ห์ของเธอ ทำให้หัวใจของเขาอ่อนโยนราวกับฟองน้ำ
"แม้ว่างานที่สหกรณ์ร้านค้าจะไม่มีอนาคต แต่เถ้าแก่ก็ดีกับผมมาก ช่วงนี้บางทีผมก็ได้ไปช่วยเขาขึ้นสินค้า และก็ได้รู้จักกับสินค้ามากมาย เพิ่งจะรู้ว่าอุตสาหกรรมนี้มีเส้นทางหลายอย่างไม่ได้เพียงแค่ซื้อขายอย่างที่เห็น ผมคิดว่าผมควรจะเรียนรู้สักหน่อย จะทำนู่นทำนี่ไปเรื่อยไม่ได้ ผมควรจะจริงจังกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง"
เซวียหลิงเหยียดนิ้วอันละเอียดอ่อนเรียวงามออกมาจิ้มไปตรงหัวใจของเขา
"นายบอกเองนะคะว่านายจะ จริงจังเพียงเรื่องเดียว"
หูของเฉิงเทียนหยวนแดงเรื่อ มือใหญ่ของเขาเข้าไปคว้ามือเล็กของเธอเอาไว้
"......วางใจเถอะครับ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น"
แม้ว่าเขาจะพูดไม่ค่อยเก่ง แต่สิ่งที่เธอต้องการจะสื่อออกมานั้นเขาเข้าใจได้อย่างว่องไว
ก่อนหน้านี้ โอวหยางเหมยได้ฝากให้น้องสาวของตนเอาของมากมายมาให้เขา และยังมีจดหมายอีกด้วย แต่เขาก็ไม่ได้รับเอาไว้ ให้น้องสาวเอากลับไป และบอกว่าทำแบบนี้ไม่ถูกเพราะเขามีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว
ในชนบทนี้มีคนเพียงไม่กี่คน อีกอย่างมีบรรดาป้าๆ มากมายที่คอยพูดซุบซิบนินทาคนอื่น เพียงแค่เรื่องเล็กเรื่องน้อยก็บอกต่อใส่สีตีไข่ พูดไปต่างๆ นานา
นิสัยของเขาเป็นคนซื่อตรงและซื่อสัตย์ หากเขายังไม่ได้แต่งงานเขาก็จะไม่ทำการเกเรแต่ใดๆ ทว่าตอนนี้ทั้งสองคนได้แต่งงานกันแล้ว
และเธอก็ช่างแสนดี เขาจะไปนอกใจเธอได้อย่างไร เขาจะไม่ปล่อยให้เธอต้องได้รับความน้อยใจและทำเรื่องไม่ดีกับเธออย่างแน่นอน
ส่วนเซวียหลิงก็ไม่ใช่คนที่ชอบเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นมากมายนักเธอไม่สนใจกับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เรื่องราวไร้เหตุผลเหล่านี้ ในที่สุดรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
"เดี๋ยวฉันขออาบน้ำก่อน นายจะไปทำธุระอะไรก็ทำไปก่อนนะ"
เห็นได้ชัดว่าโอวหยางเหมยมีความรักใคร่เขาอย่างมาก แต่พี่หยวนกลับไม่ไว้หน้าเธอสักครั้งและทำท่าทางห่างเหินจากเธอ
อีกอย่างจิตใจของเธอนั้นไม่บริสุทธิ์ เธอตั้งใจจะใช้เด็กหญิงไร้เดียงสา ซึ่งเป็นน้องสาวของสามีเธอมาสร้างความเดือดร้อน การทำเช่นนี้มีแต่จะทำให้ พี่หยวนที่รักครอบครัวรู้สึกรังเกียจเธอมากขึ้น
ดอกบัวขาวเล็กๆ ดอกนี้จัดการได้ไม่ยาก ไม่จำเป็นจะต้องไปโมโหสามีของเธอ ไม่อย่างนั้นคงจะถูกผลกรรมย้อนกลับ
หล่อนจะเดินทางไปที่อำเภอไม่ใช่เหรอ ช่างดีเหลือเกิน!
เซวียหลิงมีความมั่นใจมาก เธอพูดขึ้นขำกับตัวเองว่า 'ฉันจะรอให้หล่อนมา'
เธอยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขาด้วยความยินดีและแอบยิ้มดีใจกับตนเอง
สามีของเธอดีขนาดนี้ ทั้งหน้าตาหล่อเหลารูปร่างแข็งแรงกำยำขยันดูแลครอบครัว ตั้งแต่ในห้องโถงจนถึงห้องครัว ไม่แปลกใจเลยทั้งๆ ที่เขาแต่งงานแล้วก็ยังมีผู้หญิงคอยจับจ้อง
ผู้ชายแบบนี้เธอต้องกอดเอาไว้ให้แน่นเชียว
ทั้งสองคนกอดกันเป็นเวลาเนิ่นนาน เฉิงเทียนหยวนไม่อยากจะปล่อยเธอไปเท่าไรนัก
"เรื่องของอาฟางจะล่าช้าไปกว่านี้ไม่ได้ ฉันจะไปซื้อยาสูบและสุราแล้วเดินทางไปที่บ้านประธานหมู่บ้านสักหน่อย เดี๋ยวฉันรีบไปแล้วจะรีบกลับ"
เซวียหลิงจัดแจงคอเสื้อของเขาให้เรียบร้อย ยิ้มแล้วพูดว่า "ค่ะ นายไปเถอะ"
เฉิงเทียนหยวนจ้องมองมาที่เธอก่อนจะหันหลังกลับออกไปด้วยท่าทางดีอกดีใจมีรอยยิ้มบนใบหน้า
ภายในห้องเงียบสงัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง