ลุงชางที่อยู่ด้านข้างส่ายหน้าถอนหายใจ "สองร้อยกว่าหยวนน่ะ! หามาตั้งหลายเดือน! ยัยนี่ถูกผีสิงแล้วหรือไง!"
เซวียหลิงถามเสียงเข้ม "แน่ใจไหมคะ? แน่ใจว่าเป็นอาฟางไหม? คนอื่นขโมยหรือเปล่า?"
เฉิงมู่ไห่ส่ายหน้า พูดขึ้นเสียงทุ้ม "ในบ้านไม่ได้เละเทะ ที่ที่เก็บเงินมีแค่ฉันกับแม่สามีเธอที่รู้ ยัยนั่นอยู่บ้านมานาน คงมองออกอยู่บ้าง ประตูและหน้าต่างบ้านก็ปิดเป็นอย่างดี มีแค่หล่อนที่หายไป เพื่อนบ้านละแวกนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ต้องเป็นโจรในบ้านอย่างหล่อนแน่ๆ"
เซวียหลิงถามอย่างอดไม่ได้ "งั้นหล่อนเอาไปแล้วหนีมา? กลับอำเภอมาตอนไหนคะ?"
หลิวอิงตอบ "ฉันถามแล้ว หล่อนนั่งรถแทรกเตอร์ต้นหมู่บ้านเข้าเมือง ให้เงินเขาไปทีเดียวสิบหยวน! คนคนนั้นบอกอีกว่า มาถึงอำเภอตอนบ่ายสี่โมงกว่า จากนั้นเขาก็กลับ"
"หล่อนใจกว้างมาก!" ลุงชางพึมพำเสียงอู้อี้ "สิบหยวนหาง่ายขนาดนั้นหรือไงฮะ? ให้ไปทีเดียวสิบหยวน! เอาเงินที่บ้านไปใช้สุรุ่ยสุร่าย! น่าโมโหจริงๆ!"
เฉิงมู่ไห่สีหน้าโกรธเกรี้ยว แล้วพูดขึ้น "เมื่อก่อนถึงหล่อนจะไม่เชื่อฟัง วันๆ ไม่ทำอะไร แต่ก็ไม่กล้าขโมยของแบบนี้! คราวนี้เสียสติไปแล้วจริงๆ! หล่อนต้องมาที่อำเภอแน่นอน ฉันกับแม่เธอกลัวว่าหล่อนจะใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายจนหมด เลยรีบมาตั้งแต่เช้า"
หลิวอิงถามสะอึกสะอื้น "ฉันกับพ่อเธอไม่ได้นอนทั้งคืน สี่โมงออกจากบ้าน ลุงชางมาเป็นเพื่อนตลอดทาง ถนนก็มาไม่สะดวก โคลงเคลงมาถึงที่นี่"
เฉิงมู่ไห่เงยหน้าขึ้นมองไปที่ชั้นสอง
"หลิงหลิง ยัยเด็กนั่นยังนอนอยู่ใช่ไหม? เธอไปปลุกหล่อนที! ให้หล่อนลงมา! ฉันจะตัดขาหล่อนให้ดู!"
เซวียหลิงแอบกลืนน้ำลาย พูดขึ้นเสียงทุ้ม "พ่อคะ แม่คะ พวกท่านอย่าเพิ่งโกรธ อย่าเพิ่งร้อนใจนะ พวกท่านนั่งก่อนสักพัก ฉันจะขึ้นไปข้างบนแป๊บหนึ่ง"
จากนั้นเธอก็รีบขึ้นไปชั้นบน
เธอเปิดประตู รีบวิ่งไปที่โต๊ะทำงานแล้วเปิดลิ้นชัก
อย่างที่คิดไว้ เงินเธอหลายสิบหยวนในลิ้นชักหายไปหมดเลย!
ในใจเธอร้อนรนมาก รีบพลิกหาพจนานุกรมออกมา----โชคดีเงินที่ซื้อที่ดินอาหู่ก่อนหน้านี้-สองพันเจ็ดร้อยหยวนยังอยู่!
เธอแอบโล่งใจ
จากนั้นเธอก็ค้นตู้เสื้อผ้า พบว่าเงินสองร้อยหยวนที่ยัดไว้มุมห้องก็หายไปแล้ว หกร้อยหยวนอื่นๆ ที่ซ่อนในกระเป๋าเสื้อผ้ายังอยู่
ธนาคารอยู่ไกล ถอนเงินก็ไม่สะดวก ตอนนี้เงินที่ตัวยังมีไม่มากพอ เธอเลยยังไม่เอาเงินไปฝากธนาคาร
โชคดีที่เธอมีนิสัยแบ่งเงินออกมาเก็บ เงินจำนวนมากซ่อนไว้ลับหน่อย บางส่วนเหลือไว้ข้างนอกจะได้ใช้สะดวกในตอนปกติ
เสี่ยวกูจื่อมีกุญแจบ้านเช่า ฉวยโอกาสมาขโมยตอนพวกเขาไปทำงาน
หล่อนไม่อ่านหนังสือ ไม่ค่อยรู้จักตัวอักษร จึงไม่ได้หาดูในหนังสือเล่มหนา
คิดไม่ถึงว่าพี่สะใภ้หล่อนจะมีเงินเยอะขนาดนี้ หยิบได้สองร้อยกว่าหยวน ก็หยิบหนีแล้ว
"เสี่ยวกูจื่อคนนี้......จะเกินเยียวยาแล้วนะ!"
เธอรีบลงมาข้างล่าง
เฉิงมู่ไห่กับหลิวอิงเห็นเธอลงมาคนเดียว จึงถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ "ยัยเด็กนั่นล่ะ? เธอไม่ได้ปลุกหล่อนเหรอ?"
เซวียหลิงส่ายหน้าเบาๆ แล้วอธิบาย "หลังจากหล่อนมาถึงก็อยู่บ้านโอวหยางเหมยที่อยู่ข้างกัน เมื่อวานตอนเราเลิกงาน หล่อนยังอยู่ข้างบ้าน ใครจะไปรู้ว่าหลังจากกินข้าวเย็น หล่อนก็หนีไปแล้ว......พี่ชายหล่อนออกไปตามหาหล่อน กลับบ้านมาดึกมาก ฟ้ายังไม่สว่างก็ออกไปจับตัวหล่อนอีก ตอนนี้ยังไม่กลับมาเลยค่ะ"
ผู้ใหญ่ทั้งสองตกใจมาก!
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!
เซวียหลิงเห็นว่าปิดบังไม่ได้แล้ว ต้องพูดออกมาอย่างหมดเปลือก บอกเรื่องที่เธอแอบไปหาหลินชง และบอกเรื่องที่เธอขโมยเงินสองร้อยกว่าหยวนด้วย
จนถึงตอนนี้ผู้ใหญ่ทั้งสองก็มาหาแล้ว จะปิดบังก็ปิดบังไม่ได้ บอกความจริงไปดีกว่า
หลิวอิงฟังจบ ร่างก็โซเซ พิงกับผนัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง