หลังโจนาธานออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว เขาไม่ได้ตรงกลับไปที่โรงเรียนแต่อย่างใด ชายหนุ่มโดดเรียนตลอดทั้งบ่ายแล้วไปที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เพื่อเล่นเกมกับเวย์น คลาร์กและผ่องเพื่อนแทน พอได้เวลากลับบ้านอีกที ท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิทแล้ว
โจนาธานโพสสถานะบนวอตส์แอป [เฮ้อ เรียนมาทั้งวันแล้ว ปวดหัวจัง ได้เวลากลับบ้านสักที]
เมื่อเวย์นเห็นข้อความ เขาก็หัวเราะก๊ากออกมา
[เวย์น: ลูกพี่ นายได้เรียนกับเขาด้วยเหรอ? ไม่เห็นรู้มาก่อนเลย]
[จิมมี่: แล้วไอ้คนที่เล่นเกมในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เป็นร่างโคลนของนายเหรอวะ?]
โจนาธานกรอกตากับคอมเมนต์พวกนั้น พวกมันจะไปรู้อะไรล่ะ? สถานะที่เขาโพสนั่นก็เพื่อให้พ่อแม่เห็นเท่านั้นแหละ
หลังจากเก็บโทรศัพท์ลงไป โจนาธานสะพายกระเป๋าเป้สีดำพาดบ่าเดินมือล้วงกระเป๋าออกไป มุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟ
ตอนนี้รถสปอร์ตไบค์ของเขาถูกคุณพ่อยึดไป คุณพ่อของเขาบอกว่าจะให้เด็กนักเรียนไฮสคูลมาขับสปอร์ตไบค์คงดูไม่ดีนัก
เพราะงั้นโจนาธานถึงต้องไปไหนมาไหนด้วยขายาว ๆ ของเขาแทน
พอโจนาธานมาถึงประตูหนึ่งแถวสาม เขาถูกเหล่าชายที่แต่งกายชุดนักเรียนมาขวางทางเอาไว้
“โจนาธาน โลกกลมจังนะ ฉันไม่คิดว่าโชคดีได้เจอแกที่นี่ว่ะ!”
“ในเมื่อเราเจอกันแล้ว ได้เวลาชำระหนี้ของเราได้สักที!”
โจนาธานมองหัวหน้าแก๊ง ศัตรูเก่าจากเมื่อครั้งที่เขาอยู่โรงเรียนภาษานานาชาติแห่งนอร์ท ซิตี้
นาธาเนลเป็นหัวโจกอันธพาลประจำโรงเรียนภาษานานาชาติแห่งนอร์ท ซิตี้ก่อหน้านี้ แต่พอโจนาธานย้ายเข้าไปเรียน เขาก็เข้ามาชิงตำแหน่งหัวหน้าแทนนาธาเนลอย่างรวดเร็วเนื่องจากเขาเป็นที่สนใจอยู่ตลอดเวลา นาธาเนลเก็บความแค้นของเขาเอาไว้และแอบนำพวกมาดักซุ่มโจมตีโจนาธานอยู่บ่อยครั้ง
โจนาธานกวาดสายตาหาบริเวรใกล้ ๆ สถานีรถไฟ เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นกล้องวงจรปิด
ไม่สะดวกเลยสักนิดถ้าเขาจะใช้ความรุนแรงที่นี่ พ่อของเขาคงได้ส่งเขาไปอยู่ศูนย์กักกันเยาวชนแน่
นาธาเนลชี้หน้าโจนาธานอย่างเย้ยหยันแล้วผลักอกของเขาออก เมื่อเห็นเสื้อนักเรียนที่มีตราสัญลักษณ์ของเฟิร์ส นอร์ท ซิตี้ ไฮสคูลที่โจนาธานสวมอยู่ เขาก็ว่างท่าใหญ่โตเอ่ย “โจนาธาน จินน์ ฉันได้ข่าวว่าพอแกย้ายไปเฟิร์ส นอร์ท ซิตี้ ไฮสคูล แกก็กลายเป็นหมาหงอยเลยเหรอ ถ้าแกคุกเขาต่อหน้าฉันแล้วเรียกฉันแด๊ดดี้ ฉันอาจปล่อยแกไปก็ได้นะเพราะวตอนนี้ฉันกำลังอารมณ์ดีอยู่เลย”
โจนาธานล้วงมือทั้งสองข้างในกระเป๋า แล้วพยักหน้าไปทางตรอกมืดที่ห่างออกไป เด็กหนุ่มเลิกคิ้วแล้วพูดขึ้น “มีตรอกมืดอยู่ตรงนั้น ฉันจะให้แกทำอะไรกับฉันก็ได้ แกจะว่าไง?”
นาธาเนลกับเหล่าลูกน้องไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนจะตามมาด้วยเสียงระเบิดหัวเราะทันที “โจนาธาน เราเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่นะ? ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะกลายเป็นคนอ่อนไหวขนาดนี้! มาให้แด๊ดดี้คนนี้สั่งสอนแกสักหน่อยมา ถ้าแกอ้อนวอนให้ฉันพอใจได้ ฉันอาจจะเอาแกมาเป็นพรรคพวกก็ได้นะ! อีกหน่อยแกจะได้ไปไหนมาไหนกับฉันไง!”
นาธาเนลเอื้อมมือออกไปลูบหัวโจนาธาน แล้วกดแรงลงไปหลายต่อหลายครั้ง เพื่อเป็นการทำให้โจนาธานขายขี้หน้าอย่างโจ่งแจ้ง
แววตาอาฆาตประกายวับนัยตาของโจนาธาน เข้าก้มใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลงเล็กน้อยก่อนเอ่ยอย่างเย็นชา "มีแต่พ่อฉันที่กล้าลูบหัวฉันแบบนี้ได้"
นาธาเนลถึงกับผงะไปชั่วครู่ ก่อนจะทำท่าอวดดีลูบหัวโจนาธานต่ออีกสองสามครั้ง "แด๊ดดี้ชอบลูบหัวแกแบบนี้นะ! จากนี้ไปฉันก็เป็นแด๊ดดี้ของแกแล้ว!"
โจนาธานยิ้มเยาะ "เลิกไร้สาระแล้วไปที่ตรอกมืดนั่นซะ ฉันต้องรีบขึ้นให้ทันรถไฟเที่ยวสุดท้าย ถ้าแกอยากจะเอาชนะฉัน ก็ไปด้วยกันแล้วทำให้มันจบ ๆ ฉันไม่มีเวลา"
แก๊งเด็กอันธพาลพากันเดินเข้าไปในตรอก
โจนาธานยืนอยู่หน้าทางเข้าแล้ววางกระเป๋าสะพายลงอย่างไม่ใส่ใจ เขารูดซิปเสื้อนักเรียนแล้ววางมันไว้กับพื้น ก่อนก้มลงดูนาฬิกาสปอร์ตเรือนสีดำบนข้อมือ แล้วพูดขึ้น "รถไฟเที่ยวสุดท้ายคือ 23.30 ตอนนี้ 23.15 เรายังเหลือเวลาสิบหน้านาที แกอยากจะสู้ตัวต่อตัวหรืออยากจะรุมเข้ามาทีเดียวล่ะ?"
นาธาเนลตะโกนอย่างหยิ่งผยอง "ตัวต่อตัวงั้นเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า…กับแกน่ะนะ แน่นอนว่าเราจะ…รุมอัดแกทีเดียวสนุกกว่า! พวกเรา จัดการมันเลย! ตรงนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด เพราะงั้นเอาให้น่วม! อัดมันจกว่ามันจะยอมเรียกฉันว่าแด๊ดดี้!"
ผัวะ ผัวะ ผัวะ
หมัดแล้วหมัดเล่า
ในซอยตรอกมืด แสงไฟสีเหลืองส่องสว่างสะท้อนเงาบนกำแพงที่เก่าเขรอะ
เงาดำทะมึนของร่างหนึ่งต่อห้า และแล้วนักเลงห้าคนกระเด็นออกจากตรอกด้วยหมัดของโจนาธานเพียงหมัดเดียว
บนพื้นสกปรก อันธพาลทั้งห้าคนนอนสุมกองกันเป็นแพนเค้ก ร้องโอดครวญเหมือนหมูในโรงเชือด
แค่ห้านาทีเท่านั้น
พวกมันก็โดนอัดเละไม่เป็นท่า
โจนาธานก้มตัวลงหยิบเสื้อนักเรียนของตัวเองขึ้นมาปัดฝุ่น เขาสะบัดเสื้อแล้วพาดมันบนไหล่ขวา จากนั้นก็คว้ากระเป๋าเป้สีดำแล้วสะพายมันบนไหล่ซ้าย ท่าทางเหมือนกับนักเลงที่เพิ่งคว้าชัย
"โจนาธาน! กะ กะ แกไม่รักษาคำพูดนี่หว่า!"
โจนาธานขมวดคิ้วเล็กน้อย "อะไรอีกล่ะ?"
นาธาเนลที่โดนอัดซ้อนอยู่ด้านล่างเงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบาก เขามองโจนาธานด้วยสายตาโกรธแค้นแต่ก็หวาดกลัวเช่นเดียวกัน ก่อนจะพูดขึ้น "แกบอกว่าแกจะปล่อยให้เราทำอะไรแกก็ได้! แกกล้าทำร้ายแดดดี้ของแกได้ไง?"
โจนาธานทำท่าทางครุ่นคิดสักพักก่อนจะเอ่ย “ทีแรกฉันก็จะโดนทำโทษอยู่แล้ว หลังจากที่ฉันอุตส่าห์แกล้งเป็นคนปอดแหกอยู่นาน ฉันไม่อยากจะทำมันสูญเปล่าเลย แต่พวกนายช่างโชคร้ายซะจริง ที่วันนี้ฉันเพิ่งจะพังมัน ภาพลักษณ์ไม่สู้คนโดยการโยนบาสกระแทกหัวเด็กผู้หญิง ในเมื่อยังไงฉันก็จะโดนทำโทษอยู่แล้ว งั้นฉันจะขอสั่งสอนบทเรียนความตายให้พวกนายสักหน่อยเป็นไง จะได้คุ้ม ๆ ”
“ไอ้เวร! ไอ้หน้าไม่อาย! แกทำร้ายแม้กระทั่งเด็กผู้หญิงเหรอ!” นาธาเนลตะโกนออกมา
โจนาธานย่อตัวนั่งลงแล้วก้มมองนาธาเนล “เรียกฉันแด๊ดดี้สิ”
นาธาเนลพึมพำ “ดะ แด๊ดดี้!”
โจนาธานถาม “ครั้งหน้านายยังจะกล้าลูบหัวแด๊ดดี้อยู่อีกไหม?”
นาธาเนลตอบกลับอย่างคนขลาด “มะ มะ ไม่แล้ว”
โจนาธานยิ้มก่อนจะยกข้อมือขึ้นมาเพื่อดูเวลา 23.25
เด็กหนุ่มเดินออกจากตรอกแคบ เขาสะบัดเสื้อนักเรียนที่พาดอยู่บนไหล่ออย่างลวก ๆ “ฉันต้องไปขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้ายกลับบ้านแล้ว คราวหน้าถ้านายจะมาหาเรื่องฉันอีก ฉันขอแนะนำให้นายใช้ทางอ้อม ๆ จะดีกว่านะ! มาซ้อมนายโต้ง ๆ แบบนี้เหมือนฉันกำลังบี้มดปลวกอยู่เลยว่ะ”
เด็กหนุ่มทะนงตนอย่างไม่เกรงกลัว บวกกับหน้าตาที่ดูดีเกินสามัญชนแล้วเขาเป็นเด็กที่ทั้งร้ายกาจและฉลาดหลักแหลม
ขนาดชุดนักเรียนธรรมดาของเฟิร์ส นอร์ท ซิตี้ ไฮสคูลก็ทำให้เขาดูเหนือกว่าคนอื่นขึ้นมากโข
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน