“อืม ก็อาจจะจริงค่ะ”
“คุณแม่ว่าจริงแท้แน่นอนเลยล่ะค่ะ”
“ฟังนิยายคุณแม่ดีกว่า”
“ตัดสินใจได้หรือยังคะ ว่าจะฟังเรื่องไหน”
“กระต่ายกับเต่าก็ได้มั้งคะ น้องยูคิดเรื่องอื่นยังไม่ออกค่ะ”
ไรยาหัวเราะร่วนกับคำพูดและท่าทีคิดไม่ออกของลูก จนมันเขี้ยวต้องหอมแก้ม หอมพุงป่องๆ ไปหลายต่อหลายรอบ ถึงได้เริ่มต้นเล่านิทาน ที่เคยเล่ามาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยรอบ หรืออาจจะเกิน
หรัญญ์ยังไม่หายง่วงสักนิด แต่ต้องลากสังขารจากเตียงนอนลงไปนั่งในรถ เขาเพิ่งกลับจากไปดูงานที่อเมริกา แล้วก็คุยกับอัฟแนนเรื่องโปรเจ็กต์ใหม่ด้วย ว่าติดปัญหาอะไร เลยได้รอยยิ้มจากอีกฝ่ายกลับมาแทน ซึ่งเห็นว่าไม่ใช่ยิ้มเห็นใจสักนิด แต่เหมือนสมน้ำหน้ามากกว่า
“พ่อเคยบอกแล้วนะเจ้าลูกชาย ว่าชีวิตการแต่งงาน สิ่งสำคัญที่จะต้องนำติดตัวไปด้วยตลอดเวลา นั่นก็คือการให้อภัย”
ถ้าลองได้แทนตัวเองว่า ‘พ่อ’ เมื่อไหร่ นั่นเป็นการย้ำว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่างพลาดเข้าให้แล้ว
“เจอโจทก์เก่าก็ต้องทำใจหน่อยนะจ๊ะฮั้นท์”
แถมด้วยน้ำเสียงนุ่มกับรอยยิ้มอย่างเอ็นดูเขาหมั่มมี้อีก จำได้เป็นอย่างดี ว่ามันไม่มีความสงสารเขาเลย แต่เหมือนจะสะใจกลายๆ มากกว่า
‘เฮ้อ’
จนต้องมาทบทวนอย่างถ้วนถี่ ว่านี่เขาผิดหรือไงที่อยากเรียกร้องความยุติธรรมให้แม่ ทำไมใครๆ ถึงได้เหมือนสมน้ำหน้านัก ป้าวันก็อีกคน ทันทีที่รู้ว่าเขาเจอใคร
“ไปอวดรวยใส่แบบนั้น เป็นป้าไม่ขายให้หรอกนะ แล้วจะไล่ตะเพิดออกจากร้านด้วย”
เลยขี้เกียจเล่าอะไรให้ฟังแล้ว ถ้าป้าได้มาเห็นไลน์จากวัลลภ คงหงายหลังตึงแน่ๆ
Wanlop: ฝ่ายนั้นเรียกห้าสิบล้าน ให้เวลาพรุ่งนี้ถึงเก้าโมงครับ
เกือบแปดโมงแล้ว แต่รถยังติดแหง็กอยู่ ทั้งที่เหลืออีกไม่ไกลก็จะถึงทางแยกเข้าไปแล้วแท้ๆ และกว่าจะไปถึงไซต์งานก็เก้าโมงกว่าๆ ทุกคนรอเขาหน้าสลอนแล้ว
“ฟังไม่ผิดแน่นะครับ”
วัลลภเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อ ที่ดินตรงนั้นรวมกันราคาทั่วไป ก็แค่ไร่ละห้าหรือหกล้านเท่านั้น และที่ให้ราคาเพิ่มไปสี่เท่าก็น่าจะพอแล้ว ไม่รู้ว่าเธอร้อนเงินจริงๆ หรือแค่อยากเอาคืนกันแน่
“ไม่แน่นอนครับ แถมแกยังพูดเหมือนรู้จักคุณฮั้นท์ด้วย ผมไม่กล้าไปอีก เลยมารอก่อนนี่ล่ะครับ”
“เดี๋ยวผมจัดการเอง ถ้าคุณวัลลภจะรีบไปทำธุระต่อก็ตามสบายเลยครับ ได้เรื่องแล้วผมแจ้ง”
“ครับ”
สี่หนุ่มมองวัลลภรีบไปแล้วก็หันมาถอนหายใจใส่กันเป็นแถว
“เอาไงครับท่านประธาน”
อั้นเครียดแทน
“ไปกินข้าวกันมั้ยล่ะ คนยังไม่เยอะหรอก”
“เดี๋ยวก็เจอจานละหมื่นหรอกท่าน”
“หมื่นก็หมื่นดิ มึงจะแดกเป็นร้อยจานเลยหรือไงวะ”
ลากไส้สายเปย์แยกเขี้ยวใส่ อีกสองหนุ่มเลยหัวเราะชอบใจ
“ปะงั้น ไปแดกข้าวกัน คราวนี้ถ้าท่านประธานของเราจ่ายไม่ถึงล้าน พวกมึงห้ามกลับ”
อั้นยักคิ้วใส่ จากนั้นก็พากันเดินเรียงแถวหน้ากระดานไปตามสะพานคอนกรีต
“เอาต้มยำทะเล กั้งกระเทียม ไข่เจียวปู...”
ท่านประธานหนุ่มสั่งรัวๆ เพราะหิวจนจะเป็นลม ก็มื้อค่ำบนเครื่องไม่ได้กิน ถึงบ้านก็สลบเหมือด เช้าก็ไม่ได้กินเพราะรีบมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียแต่งท่านประธาน [Chairman's Wife]