พีเจ...
ผมแม่งไม่รู้จะต้องรู้สึกยังไงดีจากตอนแรกที่จะมาจับผิดว่าสองคนนั้นมีอะไรทำอะไรกันทำไมถึงทำตัวลับๆล่อๆคุยกันในสวนหลังบ้านแต่กลับกลายเป็นผมได้รู้เรื่องของย่าที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าตอนนี้ท่านกำลังป่วยโดยที่ท่านไม่ยอมบอกใครเลยแม้แต่คนเดียว อารมณ์ที่จะมาหาเรื่องไทด์กับเมษาหายไปในทันทีและมีความเครียดเข้ามาแทนที่เพราะในชีวิตของผมผมไม่เหลือใครแล้วนอกจากย่าของผมคนเดียว ถ้าไม่มีย่าผมก็เหมือนคนตัวคนเดียวบนโลกใบนี้เพราะถึงแม้ไอ้ไทด์มันจะเป็นลูกอีกคนของพ่อแต่ผมไม่เคยยอมรับและนับถือมันเพราะผมเกลียดแม่มันรวมถึงตัวของมันด้วย
"มึงมีสิทธิ์อะไรที่จะมาปิดบังกูเรื่องย่า" ผมก้าวขาออกมาจากหลังพุ่มไม้เพื่อถามว่าที่ไอ้ไทด์มันพูดมันคือเรื่องจริงหรือเปล่า
"คุณพีเจ"
"พีเจ" ทั้งสองคนออกอาการตกใจเมื่อเห็นหน้าผม
"มึงพูดจริงๆใช่ไหมย่าป่วย"
"นายก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ"
"มึงยังไม่ตอบกูว่าย่าป่วยจริงหรือมึงแค่อยากให้ยัยนี่กลับมาอยู่บ้าน" ผมพยายามหาเหตุผลหาข้ออ้างมาถามมาพูดเพราะผมไม่อยากยอมรับความจริงเกี่ยวกับย่า ไอ้ไทด์มันอาาจะอยากให้เมษากลับมาอยู่ที่บ้านโดยกาเรเอาย่ามาอ้าง
"ฉันจะโกหกฉันจะแช่งคุณย่าทำไม ฉันก็รักคุณย่าเหมือนที่นายรักนั่นแล่ะพีเจ"
"แล้วแบบนี้....ย่าจะเป็นอะไรไหม" เป็นครั้งแรกที่ผมพูดด้วยน้ำเสียงปกติกับมัน
"ฉันก็ไม่รู้ คุณหมอบอกแค่ว่าโรคนี้ยังไม่มียารักษาให้หายขาดทำได้แค่ทานยาไปเรื่อยๆและต้องดูแลร่างกายไม่ให้ป่วยเพื่อไม่ให้ร่างกายทรุดหนัก และอีกเรื่องที่สำคัญที่คุณหมอท่านแนะนำมาก็คืออย่าทำให้ท่านเครียด"
"ยังไม่มียารักษางั้นเหรอ"
"อืม" ผมถึงกับพูดไม่ออก เหมือนกับว่าต่อให้มีเงินเป็นร้อยล้านพันล้านก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้
"ตอนนี้นายก็รู้แล้วฉันอยากขอร้องนายสักอย่างจะได้ไหม"
"อะไร"
"ถ้าอยู่ต่อหน้าคุณย่าเราอย่าทะเลาะกันต่อหน้าท่านเพราะอาจจะทำให้ท่านเครียด ฉันขอนายแค่นี้ได้ไหม"
"กูจะทำตามที่มึงขอร้องแต่ที่กูยอมเพราะกูรักย่าเป็นห่วงย่า"
"ขอบใจนะ"
"มึงไม่ต้องขอบใจกูเพราะถึงยังไงกูก็ยังเกลียดมึงเหมือนเดิม
ผมกับไอ้ไทด์รวมถึงเมษาเดินกลับเข้ามาในบ้านก็เจอย่ากำลังนั่งเอนตัวนอนพักผ่อนที่ห้องนั่งเล่นพอท่านเห็นเราสามคนท่านก็ลุกขึ้นแล้วยิ้มให้ แววตาของท่านดูมีความสุขแม้ใบหน้าของท่านจะดูซูบผอมลงไป
"มานั่งกับย่านี่ลูก" ย่าเรียกผมไปหาจากนั้นผมกับไอ้ไทด์ก็เดินไปนั่งข้างๆกับย่าท่านเอามือมาจับมือผมกับมือไอ้ไทด์
"ย่าดีใจจังที่เห็นหลานๆอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาโดยที่ไม่ทะเลาะกัน"
"ย่าครับ" ผมคิดอยู่ว่าจะพูดดีไหมว่าผมรู้เรื่องที่ย่าป่วยแต่พอมาคิดอีกทีผมก็ไม่กล้า
"อะไรลูก"
"เปล่าครับไม่มีอะไร เอ่อแล้วนี่ย่ากินยาหรือยังครับ"
"กินแล้วลูก เห้ออ ไม่รู้ว่ายาอะไรเยอะแยะที่คุณหมอจัดมาให้ย่ากินทุกวันจนเบื่อจนไม่อยากกินแล้ว ทั้งที่ย่าก็แข็งแรงดี" ผมรู้ว่าที่ย่าพูดเพราะไม่อบากให้ผมเป็นห่วงแต่ยิ่งย่าพูดแบบนี้ผมยิ่งห่วงท่านหนักกว่าเดิม
"ไม่ได้นะครับย่าต้องกินยาที่คุณหมอจัดมาทุกเม็ดห้ามขาดเลยนะ"
"จ้า ถึงย่าจะไม่อยากกินรำภาก็บังคับให้ย่ากินอยู่ดีถ้าไม่กินก็ไม่ยอมลุกไปไหนจะเอานั่งเฝ้าย่า"
"ก็คุณท่านชอบบ่นว่ายาเยอะไม่อยากกินรำภาก็กลัวว่าคุณท่านจะแอบเอายาไปทิ้งเพราะคุณหมอกำชับมาว่าต้องให้คุณท่านกินยาให้ครบห้ามลืมห้ามขาดแม้แต่เม็ดเดียวรำภาถึงต้องคอยบังคับให้คุณท่านทานต่อหน้ารำภา"
"ดีแล้วล่ะครับคุณย่าต้องดูแลตัวเองให้ดีทานข้าวทานยาให้ครบ"
"ว่าแต่วันนี้เป็นอะไรกันมาเซ้าซี้ย่าเรื่องกินยาทั้งสองคนเลยทั้งเราทั้งพี่เรา"
"ก็ผมเป็นห่วงย่านี่ครับ ดูย่าสิผอมไปมากเลย ดูเหนื่อยๆด้วย"
"คนแก่ก็อย่างนี้แล่ะลูกทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็เหนื่อยแล้ว"
"เอ่อ...คุณย่าอยากไปเที่ยวที่ไหนไหมครับ"
"เที่ยว?? เที่ยวไหนลูก" ย่าหันไปถามไอ้ไทด์เพราะก่อนหน้านี้มันบอกผมว่ามันอยากพาย่าไปเที่ยวไปพักผ่อนต่างจังหวัดซึ่งผมก็เห็นด้วยกับสิ่งที่มันเสนอเป็นครั้งแรก
"ไปเที่ยวต่างจังหวัดครับจะไปเชียงใหม่หรือจะไปทะเลก็ได้ย่าเลือกได้เลย"
"จริงเหรอลูก"
"จริงสิครับ"
"ดีเหมือนกันย่าไม่ได้ไปพักผ่อนต่างจังหวัดนานแล้วว่ามีข้อแม้นะ"
"ข้อแม้อะไรครับ"
"ต้องไปกันหมดเลยนะ ทั้งไทด์ทั้งพีเจทั้งเมษาด้วย"
สามวันต่อมา..
เมษา...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียไร้รัก