หลังจากนั้น สถานการณ์ยุ่งเหยิงก็คลี่คลาย กิฟท์ถูกส่งย้ายให้กลับไปอยู่บ้านญาติต่างจังหวัดโดยที่พ่อยังคงทำงานส่งของแต่ไม่ได้กลับบ้านทุกวัน คงเหลือแค่เพียงเนตรมิงค์ที่ต้องขายหมูปิ้งดูแลตัวเองต่อไปในบ้านหลังเล็กนี้
เมื่อถึงเวลาเปิดภาคเรียนที่หนึ่งของมหาวิทยาลัย ซึ่งเนตรเรียนคณะเดียวกับชมพูเพื่อนสนิท
มหาวิทยาลัย
"ตื่นเต้นจังเลยเนอะเนตร" ชมพูทาปากแดงแจ๋เดินขนาบข้างกับเนตรมิงค์ที่แต่งหน้าแต่ก็พอดีงาม "เราเด่นพอหรือยัง"
"ชมพูแต่งหน้าแบบนี้..เราไปยืนที่ซอยสี่ชมพูอยู่ซอยสามยังเห็นเลย"
"เนตรอะ ฮ่าๆ"
"ไปกัน อิอิ"
ฉันเพียงแค่แซวขำเพราะชมพูก็ไม่ได้เป็นคนขี้ริ้วขี้เหร่อะไรถ้าแต่งเติมแค่นิดหน่อยก็คงจะสวยมากมายแต่นี่แต่งจัดเต็มเหมือนไปเที่ยวผับบาร์
บาทเดียวดูเพลินอะไรไม่เกินเมียงู ~~
เสียงร้องเพลงรับน้องพร้อมปรบมือเพื่อรอรุ่นพี่คณะขณะที่นั่งเรียงแถวกันอยู่ปีสี่ก็เดินเข้ามา
"สวัสดีครับรุ่นน้องยินดีที่มาเรียนศิลป์ภาษานะครับ ทุกคนก็รู้ว่าเดี๋ยวนี้โลกของเราก้าวไกลและพัฒนาการที่เราเรียนภาษาต่างประเทศเอาไว้เป็นการขยายโอกาสเรื่องการงานในอนาคตด้วย"
ประธานรุ่นพี่ปีสีพูดคุยอย่างเป็นมิตรแต่สักพักก็มีใครบางคนเดินมาอยุดขนาบข้างของเนตรมิงค์
"เจอกันอีกแล้วนะสาวน้อย"
"!!!"
ฉันตกใจเมื่อเสียงนุ่มทักทายจึงแหงนหน้าขึ้นมองปรากฏว่า..เป็นผู้ชายที่เคยใช้เสื้อคลุมฝนให้ตอนที่ร้องไห้อยู่ริมฟุตบาท "พี่ต้า"
"ดีใจจังที่น้องจำพี่ได้ด้วย"
"พี่เรียนอยู่คณะนี้เหรอคะ"
"ใช่ครับเห็นว่าน้องย้ายมาตอนแรกที่ดูชื่อก็คิดว่าเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหน"
"ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ"
ตอนแรกก็ประหม่าแต่ยังดีที่มีชมพูเรียนอยู่ด้วยและตอนนี้กลับดีใจเพิ่มขึ้นเมื่อผู้ชายแสนดีที่เคยพบเจอเขาเป็นรุ่นพี่ที่คณะ
พักเที่ยง
"ปกติแล้วเนตรไม่ค่อยสนิทหรือว่าพูดคุยกับผู้ชายนี่เป็นครั้งแรกเลยนะคะเนี่ยที่หนูเห็น" ชมพูฉอเลาะไม่หยุดเนื่องมีนิสัยประเภทขี้เล่น "พี่ต้าหล่อมากเลยค่ะ"
"ขอบคุณครับน้องชมพูก็น่ารัก"
"ชมชมพูแต่ว่ามองหน้าเนตรแบบนี้ไม่แฟร์เลยนะคะ"
"ขอโทษครับ"
"ฮ่าๆ ชมพูล้อเล่นค่ะ"
สายตาของหนุ่มเป็นประกาย ชมพูที่ดูเป็นสาวเกินกว่าวัยก็ทราบทันทีถึงความชอบพอ แต่เนตรมิงค์ยิ้มเจื่อนตอบไม่ค่อยได้ร่วมบทสนทนาอะไร
เลิกเรียน
"จะกลับบ้านแล้วเหรอครับน้องเนตร" สาวน้อยยืนรอรถเมล์อยู่ที่หน้ามหาวิทยาลัยเขาจึงเดินเข้ามาทัก
"อ้าวพี่ต้า..ใช่ค่ะหนูกำลังรอรถอยู่เลย"
"ให้พี่ไปส่งไหมพี่เอารถเก๋งมา"
"ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะหนูเกรงใจ"
"เกรงใจทำไมเราเป็นรุ่นน้องของพี่นะรับรองได้ว่าไม่คิดค่าน้ำมันหรอก"
รอยยิ้มแสนดียังคงส่งให้เนตร และบนท้องฟ้าก็บรรยากาศเริ่มครึ้มคล้ายฝนจะตก ถ้าหากว่ารออาจจะเกิดพายุแล้วเดินทางไม่สะดวกก็เลยตัดสินใจนั่งรถของรุ่นพี่คณะกลับบ้าน
"หนูขอบคุณมากเลยนะคะ" เมื่อถึงบ้านฉันก็รีบยกมือไหว้ พี่ต้าก็ยกมือตอบ "ไม่เป็นไรครับ"
หลายวันผ่านไป
ร้านสัก หาญทยานศึก
แกก
เสียงแก้วกระทบกันหลายใบในช่วงบ่าย เนื่องจากเหล่าบรรดาหนุ่มตั้งวงกันตามปกติที่ร้านช่างสักของหาญ
"ทำไมช่วงนี้มึงไม่ไปเที่ยวกับพวกกูเลยว่าไอ้หาญ" สองขมวดคิ้วสงสัยถาม "มึงมีอะไรที่ไม่บอกพวกกูหรือเปล่า"
"มึงเป็นพ่อเป็นแม่กูเหรอที่ต้องบอกทุกเรื่อง"
"ไม่ด่ากูสักวันมึงจะกินข้าวไม่อิ่มหรือไงวะ"
"ก็มึงกวนตีนแดกเหล้าไปเถอะอย่าเรื่องมาก"
ช่วงนี้เป็นการเปิดเรียนมหาวิทยาลัยผมก็ไถแต่มือถือเพื่อดูการอัพเดทชีวิตของเด็กบ้าที่เริ่มโตเป็นสาวเต็มตัวไม่รู้ว่ามีใครมาจีบบ้างหรือเปล่า
"เอาล่ะมาเล่นเกมกันกูมีคำถาม" สองเห็นบรรยากาศเงียบลุกขึ้นยืนเพื่อทำให้ครึกครื้น
"อะไรของมึงอีกวะ!"
"ถ้าหากว่าใครตอบคำถามแพ้ต้องเลี้ยงเหล้าคืนนี้ที่คลับ"
"ตกลงว่ามา"
"เล่นกันเลยคนละแค่สองคำถามจบ"
ทุกคนต่างเห็นด้วยก่อนจะกระดกเหล้าเพียว สองเป็นคนถามก่อนสลับกับหาญที่ต้องเป็นคนตอบ ทั้งหมดแยกฝ่ายแบ่งแยกกลุ่มกันเพื่อความรวดเร็ว
"ปลาอะไรปากจู๋.."
"คำถามอนุบาลมากปลาเข็ม"
"ผิดปลาทู"
"___"
คำถามแรกก็ชวนอึ้งหาญเสียคะแนน สองนำไปหนึ่งแต้ม จากนั้นก็กลายเป็นฝ่ายหาญที่ลุกขึ้นยืนแล้วถามกลับ
"อะไรใหญ่กว่าวาฬ.."
"ง่ายสัสๆ ปลาโครตพ่อโคตรแม่วาฬ"
"ผิด! ปลาวาฬชุบแป้งทอด"
"____"
ยกต่อไปโดนตีคะแนนตามตื้นหนึ่งต่อหนึ่ง และตอนนี้มีเพียงคนละคำถามชี้ตัดสิน
"กุ้งอะไรร้องเพลงเพราะ" สองทำหน้าเจ้าเล่ห์ "ตอบได้กูยอมเลี้ยงเลยมึงเลยไม่ต้องถามกูกลับ"
"กุ้งสุธิราช"
"___"
"ขอเป็นพระเอกในหัวใจ~เธอ"
"ไอ้สัสมันฟังลูกทุ่ง!!!"
ฮ่าๆ ฮ่าๆ
เพื่อนที่นั่งเชียร์ล้อมวงต่างหัวเราะลั่นเมื่อสุดท้ายสองนั้นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ กระทั่งถึงเวลามืดค่ำไปเที่ยวผับตามที่พนันกันเอาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเด็ก มันเด็ดมาก [Nc 20]
ทนไม่ไหวถึงกับต้องล็อกอินเข้ามาคอมเม้นท์ อิพี่หาญนี่นะ เมียเด็กตัวเองขายหมูปิ้งได้เงินไม่กี่บาทยังไม่ค่อยจะเปย์เลยสักครั้ง ทียัยแฟนเก่ากลับมาจ่ายไปเป็นแสนๆยังยัยนับดาวอีก สะบัดไม่หลุดสักที เห้อออออ...