“กุญแจรถ?” เสียงเข้มทุ้มหูของคอร์เนลทำให้เซอร์เกถึงกับเบิกตากว้างด้วยความแปลกประหลาดใจ เพราะร้อยวันพันปีนายน้อยของเขาไม่เคยที่จะขับรถเองเลยสักครั้ง แล้วโดยเฉพาะในเมืองไทยที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้ด้วย
“นายน้อยจะไปไหนหรือครับ”
“ฉันต้องตอบด้วยหรือว่าจะไปไหน บอกให้เอากุญแจรถมา”
น้ำเสียงของคอร์เนลเริ่มห้วนจัดขึ้นในทุกขณะ แต่ความห่วงใยที่เซอร์เกมีต่อเจ้านายของตัวเองนั้นมีมากกว่า ทำให้เขาสะกดกลั้นความกลัวเอาไว้ได้
“ให้อีวานขับรถให้เถอะครับ ไม่อย่างนั้นผมขับให้เองก็ได้”
ประกายตาสีเขียวจัดวาวโรจน์ด้วยโทสะ
“ฉันมีใบขับขี่ตั้งแต่อายุสิบแปด และตอนนี้ก็อายุสามสิบสามปีแล้ว นายยังคิดอีกหรือว่าฉันจะขับรถได้ไม่ดีเท่าพวกนาย” กรามกระด้างของคนพูดขบกันแน่นด้วยความไม่พอใจชัดเจน
“แต่นายน้อยครับ ผมเป็นห่วง...”
“เก็บความห่วงใยเอาไว้เถอะเซอร์เก ฉันไม่ยอมตายในรถหรอกน่า กุญแจ...”
ในที่สุดเซอร์เกก็ไม่มีทางเลือกใดอีก แม้จะเป็นห่วงมากแค่ไหนก็ตาม
“นายน้อยอยากขับคันไหนครับ”
“สปอร์ตสีดำ”
คอร์เนลรับกุญแจรถจากคนสนิทมาถือไว้ในมือ หมุนตัวเดินจากไป แต่เท้าใหญ่ก็ต้องชะงักที่ปากประตูห้องโถง หันหน้ากลับมา
“ถ้าเป็นห่วงฉันนัก ก็ขับรถตามมาก็ได้”
เซอร์เกระบายยิ้มกว้างออกมาทันทีที่ได้ยินประโยคบอกเล่ากึ่งคำอนุญาต
“ครับนายน้อย”
มุมปากของคอร์เนลผุดรอยยิ้มบางๆ ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของเขาจะเดินหายลับสายตาไป เซอร์เกรีบโทรตามคนขับรถทันที
เซอร์เกเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นรถสปอร์ตที่มีคอร์เนลเป็นคนขับเลี้ยวเข้าไปในมหาวิทยาลัยที่เขาจำได้ขึ้นใจเลยว่าเป็นของยาหยี
รถสปอร์ตคันสีดำจอดสนิทที่หน้าตึกเรียน พร้อมกับร่างสูงใหญ่สุดเนี้ยบของคอร์เนลก้าวลงมายืนตระหง่าน เซอร์เกรีบก้าวลงจากรถ แล้วเดินเข้ามาหาเช่นกัน ชายคนสนิทเหลือบตามองหนังสือสองสามเล่มที่เจ้านายของตัวเองถือเอาไว้ด้วยสายตาแปลกใจ
“หนังสือนั่น...”
คอร์เนลไหวไหล่น้อยๆ
“ฉันเอามาคืนเจ้าของเขาน่ะ”
ร่างสูงสง่าในชุดลำลองสีน้ำตาลไหม้ก้าวเดินเข้าไปภายในตึกเรียนด้วยท่าทางองอาจ ใบหน้าสมบูรณ์แบบไร้รอยยิ้มแต้มไม่อาทรต่อสายตาชื่นชมของนักศึกษาสาวๆ ที่เดินสวนมาแม้แต่นิดเดียว และเมื่อแน่ใจว่ามาหยุดอยู่หน้าห้องเรียนที่เขาดูจากตารางสอนที่ยาหยีแนบไว้ในหนังสือแล้ว คอร์เนลก็ก้าวเข้าไปทันที เซอร์เกรีบเดินตามเข้าไปเช่นกัน
ทุกคนในห้องเรียนนิ่งอึ้งกันไปตามๆ กัน เมื่อเทพบุตรจากชั้นฟ้าที่ชื่อคอร์เนลเดินเข้ามาหยุดที่หน้าห้อง และอึดใจเดียวเสียงนักศึกษาสาวๆ ก็กรี๊ดกร๊าดกันดังลั่น จนอาจารย์สาววัยชราต้องยกมือขึ้นปราม ก่อนจะหันมาจ้องหน้าแขกหนุ่มเขม็ง
“ไม่ทราบว่ามาหาใครคะ”
“ผมเอาหนังสือมาคืนยาหยี โรจน์มหามงคล” ตอบเสียงนุ่ม ขณะกวาดตามองไปรอบๆ ห้อง แต่ก็ไม่พบวี่แววของผู้หญิงที่สมองร่ำร้องหาเลยแม้แต่น้อย
‘หล่อนไปไหนกันนะ หายไปไหนกัน? หรือว่าเขาเข้าห้องผิด...ไม่มีทางผิดไปได้ ในเมื่อเขาดูตารางเรียนของหล่อนมาอย่างชัดเจนแล้วนี่’
ทุกคนในห้องอ้าปากค้างด้วยความอิจฉายาหยี มีแต่เพียงลินดาเท่านั้นแหละที่หน้าแดงก่ำด้วยโทสะ หล่อนลุกขึ้นยืนและเดินออกไปหน้าชั้นเรียน เผชิญหน้ากับผู้ชายหล่อระเบิดในระยะกระชั้นชิด คอร์เนลหรี่ตามองเขม็ง ขณะยกมือห้ามเซอร์เกและบอดี้การ์ดสองสามคนที่ทำท่าจะเข้ามาลากสตรีตรงหน้าออกไป
“ยาหยีอยู่กับคุณเมื่อคืนใช่ไหม”
“แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะ”
“เราออกไปพูดกันข้างนอกเถอะค่ะ ฉันไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องน่าอัปยศของยาหยี”
ลินดาเค้นเสียงถามแผ่วเบา ก่อนจะเอ่ยชวนให้คอร์เนลออกไปคุยกับหล่อนที่นอกห้องเรียน ชายหนุ่มไหวไหล่น้อยๆ เดินตามออกไป เพราะเขาจำผู้หญิงคนนี้ได้ หล่อนเป็นเพื่อนกับยาหยี สตรีที่เขากำลังคิดถึงแทบขาดใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย