ลินดาอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อลงมาจากหอแล้วพบร่างไร้สติของยาหยีนั่งพิงกับกำแพงหอพัก หญิงสาวหน้าตาตื่น รีบวิ่งเข้าไปประคองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง แต่พอมือของหล่อนถูกตัวของยาหยีเท่านั้นแหละ ลินดาก็ต้องอุทานออกมารอบสอง
“ตัวร้อนจี๋เลยยายลูกหยีเอ๊ย”
หญิงสาวรีบแบกร่างของเพื่อนรักขึ้นหอพักไปอย่างทุลักทุเลท่ามกลางสายตาแปลกใจของเพื่อนร่วมหอที่ตื่นแต่เช้าหลายต่อหลายคน
ลินดาใช้เท้าเตะให้บานประตูห้องเปิดออก จากนั้นก็ลากร่างไร้สติของยาหยีไปวางลงบนเตียง มือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่อเม็ดเล็กบนใบหน้าของตัวเอง ก่อนจะก้มหน้าลงไปมองใบหน้าซีดเผือดของเพื่อนสนิทอย่างพินิจพิเคราะห์ แล้วหญิงสาวก็ต้องอุทานซ้ำออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นสภาพของยาหยีเต็มๆ ตา
กลีบปากอิ่มบวมช้ำราวกับถูกคนเถื่อนสักสิบคนบดขยี้ เนื้อนุ่มที่ลำคอก็แดงช้ำ ลินดาเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องกับภาพที่เห็น หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งบนขอบเตียง ค่อยๆ ลงมือปลดกระดุมชุดนักศึกษาของยาหยีออกด้วยความร้อนใจ
และภาพที่ได้เห็นก็ทำให้ลินดาถึงกับอึ้งกิมกี่ เนื้อตัวของยาหยีมีแต่ร่องรอยฟอนเฟ้น แดงเถือกไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว ลินดาสอดมือไปด้านหลังแล้วปลดตะขอบราเซียร์ของเพื่อนรักออก เต้าอวบใหญ่ที่มีแต่ร่องรอยของนิ้วมือขนาดใหญ่ดีดเด้งออกมา หญิงสาวตาค้าง อ้าปากเหวอ สมองสรุปออกมาได้อย่างแม่นยำว่าเมื่อคืนยาหยีเพื่อนรักของหล่อนไปพบเจอกับเรื่องเลวร้ายอะไรมา
ข่มขืน?
สภาพของยาหยีเหมือนถูกผู้ชายนับสิบข่มขืนมา ลินดาหน้าซีดเผือด รีบตวัดผ้าห่มคลุมร่างของเพื่อนรักเอาไว้ ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ และหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กและก็สีฟ้าใบพอเหมาะติดมือออกมา
“โธ่! ยายลูกหยีของฉัน ทำไมถึงโชคร้ายแบบนี้ ไม่น่าเลย...”
เช็ดตัวให้เพื่อนไปก็ร้องไห้ไปด้วยความสมเพชเวทนา ผู้ชายพวกนั้นคงจะถ่อยเถื่อนกับเพื่อนของหล่อนมากมายเลยทีเดียว ยาหยีถึงได้มีสภาพไม่ต่างจากซากศพแบบนี้ แถมยังตัวร้อนจัดไข้ขึ้นสูงอีกต่างหาก ไอ้คนพวกนั้นมันใจร้ายใจดำนัก อย่าให้หล่อนได้เจอเชียว หล่อนจะพาตำรวจไปลากคอมันเข้าคุกให้หมด
“อย่า...อย่า...”
ยาหยีละเมอออกมาเสียงแหบแห้ง ดวงตาที่เคยหวานฉ่ำยังปิดสนิท ลินดาแตะแก้มเพื่อนรักเบาๆ ด้วยความสงสาร
“ไม่มีอะไรแล้วนะลูกหยี ฉันอยู่นี่แล้ว”
ลินดาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กับยาหยีจนอุณหภูมิลดลงแล้วก็รีบไปนำยาแก้ปวดลดไข้ที่ยังพอมีเหลืออยู่มาให้กับเพื่อนรักกิน
“ลูกหยี...กินยาหน่อยนะ”
ลินดาก้มลงไปกระซิบเรียกเบาๆ อยู่สองสามครั้ง ในที่สุดยาหยีก็ค่อยๆ ปรือตาที่หนักอึ้งราวกับมีหินสักพันก้อนถ่วงเอาไว้ขึ้นมา ทำเอาลินดาระบายยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
“ลูกหยี...”
ยาหยีเห็นหน้าเพื่อนก็โผเข้ากอดแน่น ร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง ความเสียใจและความชอกช้ำกัดกินหัวใจของหล่อนแม้กระทั่งในฝัน
“ไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่เป็นไรแล้ว”
ลินดาลูบหลังลูบไหล่เพื่อนเบาๆ อย่างปลอบประโลม ก่อนจะค่อยๆ ดันตัวของยาหยีออกห่าง และส่งยากับแก้วน้ำดื่มให้
“กินยาซะก่อนนะจะได้หายป่วย”
ยาหยีรับยามากินอย่างว่านอนสอนง่าย ขณะที่น้ำตายังไหลพรากไม่หยุด เหตุการณ์เมื่อคืนยังถล่มยับอยู่ในสมอง โดยเฉพาะความใจร้ายของคอร์เนล
ลินดามองเพื่อนร้องไห้อยู่พักใหญ่จึงเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงลำบากใจ
“เอ่อ...พวกมันเป็นใครกันหรือลูกหยี พวกที่มันรุมข่มขืนเธอน่ะ”
คนถูกถามหน้าแดงก่ำ ช้อนตามองเพื่อนสนิทด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด กลีบปากอิ่มเต็มเม้มสนิท ขณะที่กายสาวสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
‘ข่มขืนเหรอ? ไม่ใช่หรอก คอร์เนลไม่ได้ข่มขืนหล่อน เขาแค่ใช้ความช่ำชอง ความชำนาญในเชิงรักปลุกปั่นให้หล่อนคล้อยตามเกมสวาทของเขาเท่านั้นเอง และหล่อนก็โง่งมพอที่จะเดินตามเกมนรกนั่นอย่างว่านอนสอนง่าย’
“เธอรู้?”
ลินดาเอื้อมมือมาบีบมือของยาหยีเอาไว้อย่างต้องการให้กำลังใจ
“ฉันเห็นตอนที่เช็ดตัวให้เธอนั่นแหละ แดงเป็นจ้ำไปทั้งตัว...”
“ฉัน...” พูดไม่ออก น้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด
“อย่าเสียใจไปเลยยาหยี คิดว่ามันเป็นแค่ฝันร้าย อีกหน่อยเราก็จะลืมมันเอง ลืมมันนะ” คราวนี้เป็นลินดาเองที่ระงับความสงสารเพื่อนรักเอาไว้ไม่ไหวหลั่งน้ำตาออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย