เอริก้าเดินมาคว้าแก้วเครื่องดื่มจากถาดที่บริกรกำลังถืออยู่ขึ้นมาจิบอย่างอารมณ์ดี พลางทอดสายตามองไปรอบๆ งานเลี้ยง แล้วอารมณ์ที่กำลังแจ่มใสอยู่ก็มีอันต้องกระตุกวูบ เมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างสลักเสลาสวยงามของผู้หญิงคนหนึ่งที่ตัวเองรู้จักดีทีเดียว
“นังขวัญ...”
หญิงสาวมองขวัญชีวาที่มีศักดิ์เป็นพี่สาวบุญธรรมด้วยสายตาริษยา ใบหน้าก็สวยหยาดเยิ้มหวานปานน้ำผึ้ง หุ่นก็เช้งกระเด๊ะทั้งๆ ที่กินแต่อาหารเหลือเดนจากหล่อน แถมชุดที่ใส่มาก็สวยงามราวกับถูกตัดเย็บด้วยช่างจากแบรนด์ดังก้องโลกอีกต่างหาก
“มันไปเอาชุดที่ไหนมานะ”
เอริก้าเดินเข้าไปหาขวัญชีวาทันทีเมื่อถูกเจ้าความสงสัยครอบงำเต็มหัวใจ
“น้องเอม...”
“แกเอาชุดที่ไหนมา เสี่ยที่ไหนลงทุนซื้อชุดแพงแบบนี้ให้แก”
เมื่อเดินเข้ามาถึง เอริก้าก็แผลงฤทธิ์แผลงเดชใส่ผู้หญิงที่ตัวเองเกลียดชังโดยไม่สนใจเลยว่าบิดาที่กำลังยืนคุยกับนักธุรกิจชั้นนำของรัสเซียทางด้านหลังจะได้ยิน
“คือพี่...”
“ไม่ต้องมาแทนตัวว่าพี่! แกไม่ใช่พี่ของฉัน! เป็นแค่ขี้ข้ารองตีนฉันเท่านั้นเอง”
เอริก้าหยิกหมับลงบนต้นแขนเปลือยของขวัญชีวาด้วยความหมั่นไส้ ไม่แคร์ต่อสายตาของใครหลายๆ คนที่จับจ้องมองมาแม้แต่น้อย
“บอกมาว่าไปเอาชุดสวยๆ แบบนี้มาจากที่ไหน”
“พี่...เอ่อ...ขวัญตัดเอง”
“ไม่เชื่อ! คนอย่างแกมีฝีมือที่ไหนกันล่ะ ทำอะไรไม่ดีสักอย่างนอกจากประจบจนพ่อรักน่ะ”
ขวัญชีวาส่ายหน้า พยายามเดินหนีแต่ก็ถูกเอริก้าคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน
“ไปคุยกันที่อื่น ตรงนี้ฉันตบแกไม่ถนัด”
เอริก้าฉุดกระชากลากร่างของพี่สาวบุญธรรมให้เดินตามตัวเองไปยังระเบียงที่อยู่ไกลออกไปจากห้องจัดเลี้ยง และเมื่อลับสายตาคนอื่น ฝ่ามือเรียวเล็กแต่หนักหน่วงของเอริก้าก็ฟาดใส่ใบหน้าของขวัญชีวาเต็มแรง สองครั้งติดกันจนร่างอรชรของขวัญชีวาร่วงลงไปกองกับพื้น เอริก้าตามลงไปจิกหัวขึ้นมาอีกครั้ง แล้วตะคอกถาม
“ฉันอุตส่าห์ทำทุกทางเพื่อให้แกไม่ได้มางานเลี้ยงนี้ตีเสมอกับฉัน แต่แกก็ยังมา”
“ขวัญไม่ได้อยากมา แต่พ่อขอร้องให้มา น้องเอม...ปล่อยเถอะ ขวัญเจ็บ”
“เจ็บสิดี เจ็บให้ตายไปเลยยิ่งดี รู้ไหมว่าหากฉันขอพรประเสริฐในโลกนี้ได้ข้อหนึ่งละก็ ฉันจะขอให้แกหายไปจากชีวิตของฉัน หายไปจากสายตาของฉัน นั่นก็หมายถึงให้แกตายไปจากโลกนี้ยังไงล่ะ” เอริก้าผลักร่างของขวัญชีวาแรงๆ จนหญิงสาวล้มลงกับพื้นอีกครั้ง
“ทำไมน้องเอมเกลียดขวัญถึงเพียงนี้”
ขวัญชีวาเงยหน้าขึ้นถามน้ำตาไหลพราก หล่อนทนให้เด็กสาวที่อ่อนกว่าแค่สองเดือนกดขี่ข่มเหงมาตลอดสิบกว่าปีก็เพื่อทดแทนบุญคุณของอังเดรที่มีเมตตาไปขอหล่อนมาอุปการะ ทั้งๆ ที่รู้ว่าแท้จริงแล้วอังเดรต้องการให้หล่อนมารับใช้ลูกสาวของตัวเองเพียงเท่านั้น
“ก็แกทำให้พ่อเกลียดฉันยังไงล่ะ”
“พ่อรักน้องเอมมากนะ น้องเอมได้โปรดอย่าคิดแบบนั้นเลย”
“รักเหรอ รักแต่ให้แกคอยเฝ้าฉันทุกฝีก้าว ฉันไปทำแท้ง แกก็เสนอหน้าไปบอก คงได้หน้ามาหลายกระบุงสินะ”
เอริก้ายิ้มเหี้ยม ขณะทรุดกายลงนั่งบนส้นเท้า จ้องหน้าขวัญชีวาราวกับโกรธแค้นกันมานับร้อยๆ ชาติ ขวัญชีวาร่ำไห้ด้วยความเสียใจ
“จำเอาไว้นะนังขี้ข้า ฉันจะตบแกแบบนี้”
เอริก้าไม่ได้พูดเปล่า แต่สาธิตด้วยการฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้างามของขวัญชีวาอีกครั้ง และหัวเราะร่วนออกมา
“ตบทุกวัน ตบจนแกจะไสหัวออกไปจากบ้านของฉันนั่นแหละ”
เอริก้าผุดลุกขึ้นยืน มองร่างของขวัญชีวาที่สั่นเทาด้วยแรงสะอื้นอย่างสะใจ ก่อนจะหมุนตัวและเดินจากไปอย่างอารมณ์ดีเหลือเกิน
ขวัญชีวามองตามร่างของน้องสาวบุญธรรมไปทั้งน้ำตานองหน้า ค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นยืนและเดินออกไปอีกทางหนึ่งซึ่งตรงกันข้ามกับทางที่เอริก้าเดินไป ช่องทางแคบๆ ปูด้วยพรมหนาสีน้ำตาลเข้ม แสงไฟระยิบระยับบนศีรษะส่องทางจนสว่างไสว หญิงสาวพาร่างกายที่สะอื้นไม่หยุดของตัวเองมาหยุดตรงริมสระน้ำขนาดใหญ่ อดทึ่งกับความสามารถของมนุษย์ไม่ได้ ที่สามารถเนรมิตทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามใจคิด แม้แต่สระน้ำขนาดใหญ่บนตึกสูงระฟ้าก็ตาม
หญิงสาวใช้สองมือดึงชายชุดราตรีขึ้นมาไว้ที่หน้าขา ขณะเดินไปทรุดตัวลงที่ขอบสระ เรียวขางามหย่อนลงไปในน้ำเย็นเยือก เตะเพียงเบาๆ สายน้ำก็กระเซ็นมาโดนแก้มนวล ขวัญชีวาถอนใจออกมากับเหตุการณ์ซ้ำซากที่เกิดขึ้นกับตัวเอง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เอริก้าทำร้ายหล่อน แต่มันน่าจะเกินสองร้อยครั้งแล้วมั้งที่น้องสาวบุญธรรมทำแบบนี้กับหล่อน
‘เจ็บ ทรมาน และแสนอึดอัด แต่ก็ต้องทน...ทนจนกว่าจะไม่สามารถทนต่อไปได้อีก เพื่อตอบแทนบุญคุณของอังเดร ผู้ที่ให้ข้าวให้น้ำหล่อนมาตลอดสิบกว่าปี’
“ไม่คิดว่าในสระน้ำบนเพนต์เฮาส์ของผมจะมีนางเงือกแสนสวยมานั่งเล่นน้ำด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย