ยาหยีช้อนตาขึ้นมองแล้วก็อึ้งไปนานทีเดียวเมื่อเห็นผู้ชายที่หล่อระเบิดยืนระบายยิ้มให้ตรงหน้า ผู้ชายคนนี้ผมสีเดียวกับคอร์เนล แต่ดวงตาคนละสีกัน หรืออาจจะเป็นเพราะแสงไฟที่ส่องมาทำให้หล่อนเห็นว่าดวงตาของผู้ชายตรงหน้าเป็นสีน้ำเงินกันนะ
“ขอบคุณค่ะ...ฉัน...”
“รับเถอะครับ น้ำใจจากผม...เอ่อ...ผมคงลืมแนะนำตัวไป ผมจัสติน เคอร์ซาคอฟ เพื่อนของผู้ชายที่ทำให้คุณร้องไห้ครับ”
ในเมื่อไม่มีทางเลือกยาหยีจึงต้องรับผ้าเช็ดหน้าจากผู้ชายที่แนะนำตัวเองว่าชื่อจัสติน เคอร์ซาคอฟ และเป็นเพื่อนของคอร์เนลขึ้นมาซับน้ำตา แต่ความอับอายทำให้หล่อนพยายามที่จะปฏิเสธสิ่งที่ผู้ชายตรงหน้ากำลังเข้าใจออกมา
“ฉันไม่ได้ร้องไห้หรอกค่ะ แค่ผงเข้าตา”
“ถ้าการที่ผมแกล้งทำเป็นเชื่อว่าผงเข้าตาคุณจริงๆ แล้วคุณจะรู้สึกดีขึ้น ผมก็ยินดีจะทำครับ”
“ขอบคุณค่ะ” เช็ดแล้วส่งคืน แต่จัสตินไม่ยอมรับคืนไป
“ผมให้ครับ ไม่ต้องคืนหรอก ว่าแต่ทำไมคอร์เนลถึงปล่อยให้ผู้หญิงที่สวยราวนางฟ้าอย่างคุณต้องอยู่ตามลำพังล่ะครับ” จัสตินเดินตามไปทรุดกายนั่งข้างๆ ร่างของยาหยีบนศาลากลางสวนที่ถูกเนรมิตขึ้นจากสถาปนิกฝีมือดี
“ใครว่าฉันปล่อยให้เมียอยู่คนเดียวกันล่ะ”
“คอร์เนล...”
ยาหยีอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ตัวเองกำลังน้อยใจปรากฏอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางถมึงทึง
“ไม่ยักจะรู้ว่านายมีเมียแล้วนะคอร์น”
จัสตินเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี ขณะก้าวลงจากศาลาเดินตรงเข้าไปเผชิญหน้ากับคอร์เนล ร่างของผู้ชายทั้งคู่สูงเท่าเทียมกัน และความสง่างามก็กินกันไม่ขาดเลยทีเดียว
“นึกว่าแค่ผู้หญิงในสังกัดซะอีก”
“มันเรื่องส่วนตัวของฉัน เพื่อนทรยศอย่างนายไม่ต้องมาเสือก!”
คอร์เนลใช้คำพูดหยาบคายจนยาหยีที่นั่งนิ่งอยู่บนศาลถึงกับหน้าซีดเผือด ตกใจจนแทบช็อก กระแสความอำมหิตเหี้ยมโหดทอรัศมีออกมาจากกายของชายหนุ่มทั้งคู่จนหล่อนแสบตา
จัสตินระบายยิ้มหยันออกมา จ้องมองผู้ชายตรงหน้าเขม็งไม่ยอมหลบตา
“นี่แสดงว่ายังจำเรื่องเมื่อสามปีก่อนได้ดีใช่ไหม”
คราวนี้ยาหยีรู้สึกว่าน้ำเสียงของผู้ชายที่แนะนำตัวว่าชื่อจัสตินแข็งกร้าวและอัดแน่นไปด้วยแรงแค้นมากมายเหลือเกิน
“ฉันไม่มีทางลืมเรื่องระยำ! แบบนั้นได้หรอกน่า ไปให้พ้นหน้าฉันซะ ก่อนที่ฉันจะทนเก็บหมัดเอาไว้ไม่ไหว” คอร์เนลเค้นเสียงคำรามออกมา จัสตินระบายยิ้มกระด้าง
“ระวังหัวใจของตัวเองไว้ให้ดีล่ะ เพราะฉันจ้องจะเชือดมันตลอดเวลา”
จัสตินพูดจบก็เดินหายกลับเข้าไปในงานเลี้ยง ขณะที่คอร์เนลยังยืนนิ่งงันอยู่กับที่ เพราะรู้ดีอยู่เต็มอกว่าจัสตินหมายความถึงอะไร
“หวังไปเถอะว่าคนอย่างฉันจะพลาด”
คำรามออกมาด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม ก่อนจะตวัดตามองไปยังร่างของยาหยีที่นั่งนิ่งอยู่บนศาลาด้วยความสายตาเพชฌฆาต
“ลงมา ถ้าไม่อยากใช้ศาลาต่างเตียง”
ยาหยีไม่มีทางเลือกจึงต้องทำตามคำสั่งของคอร์เนล
“คุณไม่ควรจะมาวุ่นวายกับฉัน...ในเมื่อ...”
“หุบปากไปเลย ถ้าผมไม่มา คุณก็คงจะพลอดรักกับไอ้จัสตินในศาลานี้ตามลำพังใช่ไหม ร่านซะไม่มี แค่ผัวอยู่ห่างไม่กี่นาทีก็คันจนทนไม่ไหวแล้วหรือไง!”
เผียะ!
“คนหยาบคาย อย่าเที่ยวเหมาว่าคนอื่นเขาจะเป็นเหมือนคุณกันทุกคนสิ”
คอร์เนลกัดฟันแน่นเพื่อข่มโทสะเอาไว้ ขณะขยุ้มมือแข็งแกร่งลงบนหัวไหล่เปลือยแรงๆ จนแม่สาวน้อยตรงหน้าเบ้หน้าด้วยความเจ็บ แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย
‘ดีสิ เจ็บให้ตายไปเลยสิดี พอเขาไม่อยู่ก็ระริกระรี้ดีนัก’
คอร์เนลคิดด้วยความเจ็บแค้น หึงหวงจนแทบอยากจะหักคอยาหยีให้ตายคามือ โดยลืมไปว่าตั้งแต่เกิดมาตัวเองไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลย
“แล้วไอ้ที่ยิ้มหวานจนแทบจะเชิญมันให้เข้าไปในตัวน่ะ มันเรียกว่าอะไรไม่ทราบ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย