“ผมไม่คิดว่าคุณอาจะคิดถึงผมบ่อยขนาดนี้”
คอร์เนลเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันทีที่ตัวเองก้าวเข้ามาภายในห้องรับแขก ร่างของอังเดรที่กำลังเดินกลับไปกลับมาราวกับเสือติดจั่นหันมาจ้องหน้าเขาเขม็ง
“อย่ามาทำเป็นไขสือ แกรู้ดีว่าฉันมาทำไม”
คอร์เนลหัวเราะเบาๆ ขณะเดินไปทรุดตัวนั่งไขว่ห้างบนโซฟาตัวใหญ่อย่างสบายอารมณ์ อังเดรกัดฟันข่มความเดือดดาลเอาไว้ในอก ตอนนี้ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกแล้ว
“เรื่องเพชรสีทองหรือครับ”
“ก็ใช่น่ะสิ แกมันเจ้าเล่ห์นักนะคอร์เนล!”
เจ้าของชื่อหัวเราะเสียงดัง กวาดสายตาเย็นชาใส่ผู้เป็นอาของตัวเองเขม็ง
“แต่ผมก็ไม่ใช่คนขี้ขโมยหรอกนะครับคุณอา”
“นี่แกกำลังว่าใคร ไอ้คอร์น!”
อังเดรผรุสวาทคำหยาบคายออกมา
คอร์เนลเหยียดยิ้มหยันขณะลุกขึ้นยืนจากโซฟาและเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับอาของตัวเองในระยะกระชั้นชิด ความสูงที่แตกต่างกันทำให้อังเดรใจสั่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
“พ่อยังไม่เคยเรียกผมแบบนี้เลย คุณอาก็แค่คนนอกของซีร์ยานอฟ อย่ามาทำให้ผมทนไม่ไหวดีกว่า เพราะคุณอาก็รู้นี่ครับว่าผมสามารถทำอะไรกับคุณอาได้บ้าง”
“นี่แกขู่ฉันอย่างนั้นหรือ!”
“ผมไม่ฆ่าคุณอาเรื่องที่บงการให้คนมาขโมยเพชรของผมไปก็ถือว่าปรานีแล้วล่ะครับ ไปซะ อย่าให้ผมต้องใช้มาตการรุนแรงกับคุณอาเลยดีกว่า เพราะถึงยังไงคุณอาก็เป็นน้องชายของพ่อ”
อังเดรจนมุมหน้าซีด แต่ก็ยังไม่คิดจะยอมแพ้ เพราะการที่เขามาหาคอร์เนลในวันนี้ไม่ได้มาฟังไอ้หลานชายอวดดีเทศนา แต่เป็นการทวงเพชรสีทองคืนต่างหากล่ะ
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกใช้วิธีอะไรเพื่อให้ได้เพชรสีทองนั่นคืนมา”
เมื่อเห็นยาหยียืนนิ่งอยู่ที่ปากประตูห้องรับแขก ชายวัยกลางคนจึงเริ่มแผนการร้าย ในขณะที่คอร์เนลยืนหันหลังให้ประตูจึงไม่รู้ถึงการมาเยือนของภรรยาเลยแม้แต่นิดเดียว
“มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม”
“แกคงใช้ทะเบียนสมรสระหว่างแกกับเด็กยาหยีต่อรองกับไอ้ยอดชายใช่ไหมล่ะ มันถึงได้ยอมทรยศฉันแล้วนำเพชรสีทองของจริงไปมอบให้แก”
“ผมบอกแล้วไงว่ามันคือเรื่องส่วนตัว”
เมื่อเห็นคอร์เนลไม่ยอมเล่นตามแผน อังเดรจึงจำเป็นต้องเป็นฝ่ายเดินเกมเสียเอง
“นี่แกกำลังจะทำให้ฉันคิดว่าที่แกจดทะเบียนสมรสกับเด็กยาหยีก็เพราะว่าแกรักหล่อนเข้าแล้วจริงๆ งั้นสิ”
ภายในห้องรับแขกเงียบกริบลงอย่างน่าตกใจ ยาหยีกำลังรอฟังคำตอบจากปากของคอร์เนลอย่างใจจดใจจ่อ ภาวนาให้เขาตอบว่าใช่จริงๆ เถอะ หัวใจสาวเต้นระรัวแรง ความหวังเบ่งบานอยู่ภายในอก อยากให้คนตัวโตทำทุกอย่างลงไปเพราะความรักเหลือเกิน แต่แล้วก็ต้องยืนน้ำตาท่วมหน้าเมื่อได้ยินคำตอบที่หลุดออกมาจากปากของคอร์เนล
“ที่ผมจดทะเบียนกับยาหยีก็เพราะผมไม่มีทางเลือก”
“จดทะเบียนสมรสเพื่อแลกกับเพชรสีทองใช่ไหม”
อังเดรพยายามต้อนหลานชายของตัวเอง ยิ่งเห็นชายหนุ่มกำลังหงุดหงิดงุ่นง่านแบบนี้ก็ยิ่งสะใจ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กยาหยีจะมีอิทธิพลต่อคอร์เนลถึงเพียงนี้ แค่ได้ยินชื่อของหล่อน ไอ้หลานชายตัวดีก็มีท่าทางไปไม่เป็นซะแล้ว
“หากคำตอบของผมมันจะทำให้คุณอากลับไปได้ ใช่...ผมจดทะเบียนกับยาหยีก็เพื่อแลกกับการได้เพชรสีทองคืนมา พอใจแล้วใช่ไหมครับ งั้นก็ไสหัวไปซะ แล้วอย่ากลับมาให้ผมเห็นหน้าอีก เพราะไม่อย่างนั้นผมจะลากคอคุณอาเข้าคุกด้วยมือของผมเอง!”
คอร์เนลตวาดใส่อังเดรเสียงดังลั่น ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำด้วยโทสะแรงกล้า เกลียดตัวเองนักที่ปล่อยให้ยาหยีเข้ามามีอิทธิพลเหนือสมองและร่างกายของตัวเอง แค่ได้ยินชื่อของหล่อน ผู้ชายที่เคยแข็งแกร่งยิ่งกว่าภูผาเช่นเขาก็อ่อนเปลี้ยจนแทบล้มทั้งยืนแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงต่ำๆ อย่างยาหยีจะทำให้เขาอ่อนแอได้ถึงเพียงนี้
และแทนที่อังเดรซึ่งได้ยินประโยคขับไล่ออกจากของหลานชายจะรู้สึกเกรี้ยวกราด กลับหัวเราะร่วนด้วยความยินดี
“ฉันพอใจแน่ๆ อยู่แล้ว แต่เห็นทีเด็กยาหยีจะไม่พอใจหรอกมั้ง”
“ยาหยี...”
คอร์เนลหัวใจชาหนึบ รีบหมุนขวับไปมองที่หน้าประตูห้องแล้วก็ทันได้เห็นร่างของยาหยีวิ่งร้องไห้หายไปต่อหน้าต่อตา ชายหนุ่มกำลังจะวิ่งตามไปแต่คำพูดหยามหยันของอังเดรก็หยุดเท้าของเขาเอาไว้เสียก่อน
“ถ้าไม่รักไม่สนใจ ก็คงไม่จะคิดตามไปใช่ไหม”
ศักดิ์ศรีทำให้คอร์เนลเลือกที่จะเดินกลับมานั่งบนโซฟาเช่นเดิม ทั้งๆ ที่ภายในอกรุ่มร้อนดั่งถูกไฟโลกันตร์แผดเผา
“แกคงจะถูกบังคับให้จดทะเบียนจริงๆ นั่นแหละ”
อังเดรทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงสะอกสะใจ ก่อนจะเดินหายไปจากห้องรับแขกที่มีคอร์เนลนั่งหน้าแดงก่ำด้วยโทสะทันที อังเดรมุ่งหน้าเดินตามยาหยีมาและก็มาทันที่ลานจอดรถ
“จะรีบไปไหนล่ะยาหยี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย