หนึ่งเดือนแล้วสินะกับการอยู่ตามลำพังบนพื้นแผ่นดินที่ห่างกันคนละฟากฟ้ากับคอร์เนล ยาหยีปล่อยน้ำตาให้ไหลพรากลงมาอาบแก้มนวลอีกครั้งเมื่ออยู่ตามลำพัง เนื่องจากลินดาออกไปกับโกวิทคู่รักของเธอ และจะกลับเข้ามาอีกทีตอนสามทุ่มเศษ
“ฉันลืมคุณไม่ได้หรอกนะคอร์เนล ลืมไม่ลงจริงๆ”
ความเสียใจกัดกินเนื้อหัวใจจนแทบไม่เหลือชิ้นดี หล่อนพยายามคิดว่าคอร์เนลตายแล้ว ตายไปจากชีวิตของหล่อนแล้ว แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ทุกลมหายใจของหล่อนยังคงโหยหาเขาแต่เพียงผู้เดียว เวลาที่เคลื่อนผ่านไปในวันหนึ่งๆ มันยาวนานชั่วกัปชั่วกัลป์
มือบางสั่นระริกยกขึ้นป้ายน้ำตาแห่งความเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า สมองนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อหนึ่งเดือนก่อนซ้ำอีกครั้งจนได้
หล่อนตื่นขึ้นมาภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงมอสโกหลังจากหลับใหลไปถึงสามวันเต็มๆ และคนแรกที่ได้เห็นก็คือเชอรี่ที่คอยเฝ้าหล่อนไม่ห่างกาย
“คอร์เนลล่ะป้า คอร์เนลเป็นยังไงบ้าง”
จำได้ว่านี่คือคำถามแรกที่หล่อนถามเชอรี่
“โธ่! แม่คุณยังห่วงคนอื่นอีกเหรอ ตัวเองแทบจะไม่รอดอยู่แล้ว”
“ป้า บอกฉันก่อน คอร์เนลอยู่ไหน เขาเป็นยังไงบ้าง”
ภาพความเหี้ยมโหดของอังเดรยังติดตาและมันก็ทำให้หล่อนห่วงคอร์เนลเหลือเกิน หล่อนเห็นแม่บ้านร่างท้วมมีสีหน้าลำบากใจก่อนจะพูดออกมา
“นายน้อยไม่เป็นอะไรค่ะ และตอนนี้ก็เดินทางไปนิวยอร์ก เห็นว่าสาขาที่นั่นมีปัญหา”
แม่บ้านวัยกลางคนเก็บงำความลับที่ว่าคอร์เนลมาเฝ้ายาหยีทุกคืนสามวันเต็มๆ เอาไว้ตามคำสั่งของเจ้านายหนุ่ม จากนั้นก็เริ่มพูดในสิ่งที่คอร์เนลต้องการจะให้เด็กสาวตรงหน้าได้ฟัง
“เธอไปตั้งแต่ส่งคุณเข้าห้องผ่าตัดน่ะค่ะ”
รู้สึกเหมือนหัวใจกระตุกแรงๆ หลายต่อหลายครั้ง คอร์เนลเดินทางไปในระหว่างที่หล่อนกำลังอยู่ในความเป็นความตายอย่างนั้นหรือ เขาไม่ห่วงหล่อนเลยหรือไง แต่เขาจะมาห่วงทำไมล่ะในเมื่อหล่อนเป็นต้นเหตุทุกอย่างนี่ แถมยังทรยศเขาอย่างน่าละอายอีก เขาไม่ฆ่าหล่อนให้ตายตกไปก็ถือว่าใจดีแล้ว
“แล้ว...เขาจะกลับมาเมื่อไรหรือคะป้า”
หล่อนได้ยินเสียงคู่สนทนาถอนใจออกมาคล้ายกับอึดอัดอะไรสักอย่าง
“ไม่มีกำหนดค่ะคุณยาหยี นายน้อยบอกว่าจะอยู่ที่นิวยอร์กสักพัก เอ่อ...แล้วก็สั่งให้ดิฉันดูแลคุณยาหยีจนกว่าจะหายดี จากนั้นก็ให้ส่งคุณกลับเมืองไทยค่ะ”
ยาหยีจำได้ว่าตอนที่ได้ฟัง น้ำตาไหลทะลักออกมา คอร์เนลประกาศอย่างโจ่งแจ้งเลยทีเดียวว่าไม่อยากเห็นหน้าหล่อนอีกแล้ว และการที่เขาหนีหน้าไปแบบนี้ก็เพราะเกลียดขี้หน้าหล่อน
“ฝากขอบคุณนายน้อยของป้าด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันจะรีบรักษาตัวให้หาย และสัญญาว่าจะไปจากมอสโกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
แม้จะพยายามบังคับเสียงให้เรียบปกติแค่ไหนแต่มันก็ยังคงสั่นระริกโชว์ความอ่อนแอออกมาอยู่ดี หญิงสาวถอนสะอื้น ป้ายน้ำตาทิ้ง ขณะพลิกกายหันหลังให้กับเชอรี่เป็นการปิดบทสนทนาอย่างถาวร
และนับจากวันที่หล่อนฟื้นไปอีกหนึ่งอาทิตย์ หล่อนก็เหินฟ้ามุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร ด้วยความอนุเคราะห์จากคอร์เนลที่ส่งผ่านเซอร์เกมาให้ และตลอดระยะเวลาที่หล่อนอยู่ในโรงพยาบาล เขาก็ไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียว
หล่อนพบเขาก็แค่บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เท่านั้นเอง ภาพที่เขาเดินออกมาจากเพนต์เฮาส์สุดหรูกับนางเอกชื่อดังของฮอลลีวูดคนนั้นในนิวยอร์ก และนี่มันก็ยิ่งตอกย้ำความว่าหล่อนถูกคอร์เนลเขี่ยลงถังขยะแล้วอย่างชัดเจน
“นายน้อยบอกให้ผมเรียนคุณยาหยีว่า เรื่องการหย่าจะให้ทนายความติดต่อไปเอง คุณยาหยีไม่ต้องกังวล”
เซอร์เกบอกหล่อนตอนที่มาส่งหล่อนที่สนามบินนานาชาติในกรุงมอสโก ตอนนั้นหล่อนทำได้แค่เพียงพยักหน้ารับช้าๆ และก็รีบหันหลังเดินจากไปทั้งน้ำตานองหน้า
‘ลาก่อนมอสโก ลาก่อนคอร์เนล’
“ร้องไห้อีกแล้วเหรอลูกหยี”
“ลินดา...เธอมาตั้งแต่เมื่อไร ฉันไม่เห็นได้ยินเสียงเลย”
ยาหยีรีบยกหลังมือป้ายน้ำตาทิ้ง พร้อมกับร้องถามด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นเพื่อนสนิทมาหยุดอยู่ข้างกายทั้งๆ ที่หล่อนไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูเลยแม้แต่นิดเดียว
“ก็มาตั้งแต่ที่เธอเริ่มต้นร้องไห้นั่นแหละ ดีนะที่เป็นฉัน นี่หากเป็นโจร เธอถูกฆ่าหมกห้องไปแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย