มือหนายื่นเข้าไปเพื่อหยุดประตูลิฟต์ที่กำลังจะปิดลงไว้
พอหยุดประตูลิฟต์ได้ชายหนุ่มร่างสูงก็ได้ก้าวเข้าไป
"ไปไหนมา" ไม่รู้ว่าจะชวนคุยอะไรดีก็เลยมองดูของที่อยู่ในมืออีกฝ่าย
"คุณแม่ชวนออกไปซื้อของ"
"คุณแม่เข้ามาเหรอ"
"ค่ะ"
"ไม่เห็นท่านโทรมาบอกเลย"
ไอยวริญไม่ได้ตอบและไม่มองหน้าเขาด้วย จนประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นบน
"คุณหมอคะ"
เซอร์เวย์ที่กำลังจะเดินตามเธอเข้าห้อง หันกลับมามองเมื่อได้ยินแจนเรียก
"คืนนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับคุณหมอคนใหม่แบบเป็นทางการค่ะ"
"งานเลี้ยงอะไรอีก วันนั้นก็เลี้ยงไปแล้วไม่ใช่เหรอ"
"เออ.. มีกำหนดการมาแบบนี้จริงๆ ค่ะ"
"ส่งรายละเอียดงานเข้ามาในอีเมลผมแล้วกัน" เขาไม่ได้ตามเธอเข้าไปในห้อง เพราะต้องรีบลงไปรับคนไข้ช่วงบ่าย
ไอยวริญก็รออยู่ว่าเมื่อไรเขาจะเข้ามาสักที จนเธอแง้มประตูออกมาดู ..เขาไปแล้วเหรอ จะไม่ง้อเราอีกสักนิดเลยเหรอ
เย็นวันเดียวกันนั้น..
หญิงสาวที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง หันมามองเขาซึ่งกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่
"วันนี้อาจจะกลับดึกหน่อย ล็อกห้องเลยเดี๋ยวผมเอากุญแจออกไปด้วย"
ที่เธอไม่ถามเพราะรู้ว่าเขาจะไปไหน แต่เขาน่าจะแกล้งชวนเธอสักนิด
พอเขาออกไปแล้วห้องนี้มันดูเงียบมากเงียบมากกว่าตอนกลางวัน ..ทำไมไม่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านตัวเองขึ้นมาเปลี่ยนบนนี้ทำไม มันก็เลยทำให้เธอคิดมากไปกันใหญ่
โรงแรมที่ใช้จัดงาน..
"เชิญที่ห้องนี้เลยค่ะคุณหมอ" โรงพยาบาลของเขาจัดงานที่โรงแรมนี้บ่อย พนักงานที่นี่ก็พอจะรู้จักกันอยู่บ้าง
"ครับ" ถ้ามีงานเกี่ยวกับโรงพยาบาลเขาต้องมา แต่ส่วนมากเขาจะมาแค่พอเป็นพิธี แล้วก็ขอตัวกลับก่อน "ทำไมวันนี้ใช้ห้องนี้ล่ะครับ" ชายหนุ่มเดินตามพนักงานขึ้นมาก็เห็นว่ามันไม่ใช่ห้องจัดเลี้ยง
"เชิญคุณหมอเข้าไปข้างในดีกว่าค่ะ" พนักงานถูกสั่งห้ามไม่ให้พูดอะไร
พอประตูห้องเปิดออกเท่านั้นแหละ เซอร์เวย์ก็รู้ได้ในทันทีว่ามันคืองานอะไร
"มานั่งกับพ่อตรงนี้สิลูก"
พอเขาก้าวขาเข้ามา ก็มีแสงแฟลชสว่างขึ้นอยู่หลายที
"คุณพ่อกำลังจะทำอะไร"
"พ่อดีใจนะที่เราชอบหนูฤดี"
"ชอบ?"
"ก็เห็นเราไปทานข้าวเที่ยงคุยกันกระหนุงกระหนิง"
"แผนของคุณพ่อใช่ไหมครับ"
จังหวะนั้นรุ่งฤดีก็ได้เดินเข้ามาพร้อมญาติผู้ใหญ่ของเธอ
"เชิญนักข่าวเก็บภาพได้เลยนะครับ วันนี้จะเป็นวันหมั้นหมายของลูกชายผม"
"อะไรนะครับพ่อ?"
"ฤดีดีใจนะคะคุณหมอ" รุ่งฤดีเดินยิ้มหวานเข้าไปหาเซอร์เวย์ที่กำลังงงอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ว่าแล้วทำไมพ่อเขาถึงเงียบไป กำลังคิดทำการใหญ่นี่เอง ชายหนุ่มมองไปทั่วงานก็ไม่เห็นผู้เป็นแม่ งานนี้พ่อคงแอบทำขึ้นแบบไม่ให้ถึงหูแม่แน่
"ฤดีกำลังทำให้มันถูกต้องอยู่ค่ะ" และคนที่อยู่ในห้องนี้ก็มีรุ่งฤดีอยู่ด้วย
"ออกไป"
"จะรีบไล่ออกไปไหนคะ เธอกำลังเก็บของอยู่ เดี๋ยวฤดีจะย้ายของของเข้ามาอยู่ในห้องนี้นะคะ"
"ผมบอกให้คุณออกไป" ประโยคนี้เขาหันมองไปที่รุ่งฤดีเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาหมายถึงใคร
"คุณอย่าลืมสิคะว่าฤดีอยู่ในฐานะอะไร"
"ฐานะอะไรล่ะ"
"ก็คู่หมั้นของคุณหมอไงคะ" ประโยคนี้รุ่งฤดีพูดชัดเจนมากเพื่อให้ผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในห้องนี้ได้ยิน
"ไม่ต้องไปไหน" ชายหนุ่มคว้าแขนของเธอที่กำลังจะเดินออกไป ให้หยุดอยู่ที่เดิม
"คุณแจนคะ" รุ่งฤดีหันไปพูดกับแจนที่ยืนอยู่ข้างๆ
"อะไรคะคุณหมอ"
"คุณออกไปข้างนอกก่อนค่ะ"
"แจนเหรอคะ..เออ..ค่ะ" แจนรีบออกจากห้องพร้อมกับปิดประตูไว้
"ฉันว่าคุณหมอให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากห้องนี้จะดีกว่านะคะ"
"ทำไมผมต้องฟังคุณด้วย"
"ถ้าคุณหมอไม่อยากให้โรงพยาบาลนี้ถูกปิด คุณหมอควรที่จะเชื่อฉันนะคะ"
"ทำไมโรงพยาบาลผมต้องถูกปิด" จากที่เขาไม่อยากจะมองหน้าคู่สนทนาเลย แต่เขาต้องได้หันไปมองเพราะประโยคที่เธอเพิ่งจะพูดไป
"คุณหมอรู้ดียิ่งกว่าใคร การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ.." รุ่งฤดีกรอกสายตามองไปดูมือของเซอร์เวย์ที่ยังคงจับแขนไอยวริญอยู่ "ถ้าเรื่องนี้ล่วงรู้ไปถึงหูผู้ใหญ่ คุณหมอคิดว่าโรงพยาบาลจะไม่ถูกสั่งปิดเหรอคะ และอีกอย่าง อนาคตของคุณหมอก็คงจะดับไปด้วย..แค่นี้ปล่อยมือได้หรือยังล่ะคะ"
ทั้งสองคนที่ยังคงจับมือกันอยู่ ค่อยๆ หันมองหน้ากันแบบตกใจว่าทำไมรุ่งฤดีถึงรู้เรื่องนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียขัดดอก