"เห็นหน้าฉันทำเหมือนเห็นผีเลยนะ" ภาคินกอดอกมองเด็กสาวอย่างยียวน ยิ่งเห็นเธอแสดงอาการหวาดกลัวยิ่งนึกสนุกอยากกลั่นแกล้ง
"อย่ามายุ่งกับหนูนะ!" นาร์เนียผวาถอยหลังด้วยความหวาดกลัวเมื่อภาคินตั้งท่าจะเดินเข้ามาประชิดตัว แต่เขากลับแสยะยิ้มอย่างยากจะคาดเดา ราวกับสะใจนักหนาที่ได้กลั่นแกล้งเธอ
"เห็นเธอไม่ยอมโทรมา ฉันเลยแวะมาถามว่าไอติมเมื่อวานอร่อยไหม"
"..." เขาเองเหรอที่เป็นเจ้าของไอศกรีมกล่องนั้น นาร์เนียกัดฟันแน่นด้วยความโกรธเคืองเมื่อรู้ว่าภาคินเป็นเจ้าของไอศกรีมปริศนากล่องนั้นจริงๆ ทั้งที่เขาเองก็รู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงของเหมราช แต่ก็ยังทำเหมือนชอบเธอ ทำราวกับอยากจะแย่งเธอไปเป็นของตัวเอง
"ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย พี่ภาคินก็รู้นิว่าหนูมีแฟนอยู่แล้ว"
"เพราะฉันชอบเธอล่ะมั้ง"
"..." เด็กสาวชะงักไปกับคำตอบของภาคิน สีหน้าที่ไม่แสดงความรู้สึกอย่างชัดเจนของเขาทำให้เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดออกมามันคือความจริงที่เขาคิดหรือเป็นคำพูดที่ประดิษฐ์ขึ้นมากันแน่
"หนูไม่รู้ว่าพี่ภาคินพูดจริงหรือพูดเล่น แต่เลิกทำแบบนี้เถอะค่ะ เพราะต่อให้หนูเลิกกับเหมจริงๆ หนูก็ไม่มีวันหนีไปคบกับคู่อริของเขาหรอก"
"ซื่อสัตย์กับมันจังเลยนะ" ภาคินแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ มุมปากหนาเหยียดยิ้มเย้ยหยันเมื่อมองเห็นรอยรักแดงช้ำบนลำคอที่โผล่พ้นออกมาจากปกเสื้อของนาร์เนีย "ลองให้ไอ้เหมมันอ่านข้อความบนกระดาษโน้ตของฉันรึยังล่ะ มันเชื่อว่าเธอซื่อสัตย์กับมันรึเปล่า หรือคลุ้มคลั่งจนต้องทิ้งรอยแสดงความเป็นเจ้าของไว้แบบนั้น"
"ขะ..เขาเป็นแฟนหนู" นาร์เนียแย้งเสียงสั่น แม้จะยังเรียกเหมราชว่าแฟนอย่างเต็มปากเต็มคำ แต่แววตาสั่นระริกเมื่อนึกถึงการกระทำป่าเถื่อนของเขา "คนเป็นแฟนกันทำรอยให้กันไม่เห็นแปลกอะไรเลย"
"งั้นเหรอ แล้วถ้าฉันทำอะไรมากกว่านั้นล่ะ มันยังจะเชื่อใจเธออยู่ไหม เชื่อว่าเธอยังซื่อสัตย์กับมัน"
"แค่อยากเอาชนะเหมถึงกับต้องใช้วิธีสกปรกแบบนี้เลยเหรอ" นาร์เนียถอยหลังสองสามก้าวเมื่อภาคินเดินเข้ามาใกล้ แต่ในจังหวะที่กำลังจะหันหลังหนี มือหนาของเขาก็ยื่นเข้ามากระชากแขนอย่างแรงจนเสียหลักถลาเข้าไปซบแผงอกแกร่ง
"ปล่อยนะ! อย่ามายุ่งกับหนู!" ความหวาดกลัวทำให้เธอกล้าที่จะสะบัดตัวออกจากพันธนาการของผู้ชายร้ายกาจ นาร์เนียหันหลังให้ แล้ววิ่งหนีออกไปให้ห่างจากภาคิน
"หึ ใจเด็ดกว่าที่คิด" ภาคินมองตามไปอย่างนึกสนใจ ก่อนจะรีบวิ่งตามเด็กสาวไป
ปึก!
"โอ๊ย!" เพราะมัวแต่จดจ่อกับการเอาตัวรวดทำให้นาร์เนียไม่ทันระวัง วิ่งสะดุ้งพื้นถนนขรุขระจนเสียหลักล้มคะมำ เข่าทั้งสองข้างกระแทกกับพื้นคอนกรีตอย่างแรง อาการเจ็บตรงเข้าเล่นงานจนไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกขึ้นวิ่งต่อ
"ไม่วิ่งหนีฉันก็คงไม่เจ็บ" ภาคินเดินเข้ามาย่อเข่าลงข้างๆ ยื่นมือเข้าไปแตะปลายคางมนเบาๆ แต่นาร์เนียก็รีบเบือนหน้าหลบอย่างนึกรังเกียจ เนื้อตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวเมื่อภาคินสอดแขนเข้ามาใต้ข้อพับขาทั้งสองข้างหมายจะช้อนตัวเธอขึ้นในท่าเจ้าสาว
"ไอ้ภาคิน!" ทว่าน้ำเสียงตวาดเข้มของใครบางคนที่ดังขึ้นขัดจังหวะก็ทำให้เธอและภาคินชะงักไป แต่อารมณ์ของเขาและเธอมันแตกต่างกัน ในขณะที่เธอชะงักไปเพราะน้ำเสียงที่คุ้นเคย ภาคินกลับแสยะยิ้มแล้วยืนขึ้นเต็มความสูง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียนักเลง