ตอนที่ 10 เด็กน้อยคนนั้นคล้ายเขามาก
ใบหน้าของเด็กน้อยคนนั้นดูคล้ายกับเขามากจริง ๆ แทนไทมั่นใจว่าเขานอนกับผู้หญิงเพียงคนเดียวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเท่าที่รู้ ผู้หญิงคนนั้นไม่มีลูก ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เขาจะมีลูกนอกสมรสได้ ปกป้องที่ประจำตำแหน่งคนขับก็มีความคิดแบบเดียวกัน เขาเอียงหัวเล็กน้อยเพื่อมมองด้านหลัง พยายามสังเกตสีหน้าอันคิดไม่ตกของแทนไท เขาออกปาก “ผมควรตรวจสอบเรื่องนี้ไหมครับคุณธาม?” อันที่จริง ปกป้องสงสัยว่าผู้หญิงที่ช่วยชีวิตแทนไทเมื่อห้าปีก่อนคือรสรินจริง ๆ หรือเปล่า เนื่องจากเขาได้พบว่าเธอเป็นพวกตีสองหน้าที่มีจิตใจหยาบกร้าน ผู้หญิงอย่างเธอจะใจดีพอที่จะเสียสละตัวเองเพื่อคนอื่นเหรอ? เมื่อได้ยินดังนั้น แทนไทก็มองดูปกป้องแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แม้ว่าจะไม่ได้มีคำพูดอะไร แต่ปกป้องก็เข้าใจในทันทีว่าชายหนุ่มอนุญาตแล้ว และก็เหมือนเดิม วันนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนเพิ่งจะเริ่ม นภัสสรกำลังพาเด็ก ๆ กลับบ้าน เมื่อมาถึง เด็กแฝดทั้งสองก็ผล็อยหลับไปบนเบาะหลังของรถเสียแล้ว ทั้งคู่ขดตัวเข้าหากันทำให้เกิดภาพน่ารักน่าชังอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยความช่วยเหลือจากจอมใจ นภัสสรจึงสามารถพาเด็กน้อยทั้งสองเข้าห้องได้สำเร็จ เมื่อมองมายังต้นเสียงแห่งการหลับใหล ความสุขเล็ก ๆ ก็รายล้อมนภัสสรไว้ เธออ้าปากหาวและมุ่งหน้าไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัว วันนี้เป็นวันที่ยาวนาน แต่เธอก็ดีใจที่ได้ใช้เวลากับลูก ๆ ของเธอ เมื่ออาบน้ำเสร็จก็เป็นเวลาสามทุ่มครึ่งแล้ว “ไวน์เหรอ” นภัสสรล้มตัวนอนลงบนโซฟาก่อนที่จอมใจจะยื่นแก้วบรรจุไวน์แดงมาให้ นภัสสรยิ้มก่อนจะรับมันมา “ดูเหมือนเธอจะอารมณ์ดีนะ” ก่อนหน้านี้จอมใจได้เจรจากับคู่ค้าทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยม หากทุกอย่างราบรื่น เสื้อผ้าสำหรับฤดูกาลหน้าจะถูกปล่อยออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการในเมืองนน หากมันเกิดขึ้นจริง แบรนด์เสื้อผ้าที่พวกเขาสร้างกันมาอย่าง ‘ปรารถนา’ ก็จะได้เปิดตัว “ใช่ ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เราทั้งคู่จะได้ทำในสิ่งที่อยากทำแล้ว” จอมใจนั่งลงข้างนภัสสรพลางปิ้งขนมปังไปกับเธอ ในยามราตรีอันเงียบสงัด เสียงกระทบกันของแก้วก็ดังขึ้นอย่างชัดเจน “ยินดีด้วยค่ะคุณแนท ถึงเวลาเอนจอยกับสิ่งที่ลงแรงไปแล้ว” “ขอบใจจ้ะที่รัก” สี่ปีแล้วตั้งแต่ที่นภัสสรและจอมใจพบกันที่ร้านอาหารในต่างประเทศ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่นภัสสรมีชีวิตที่แสนยากลำบาก งานเดียวที่เธอทำได้คือเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหาร ในขณะเดียวกัน จอมใจก็เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่กำลังทานอาหารอยู่ที่ร้าน เนื่องจากบริการที่ล่าช้า ทำให้พวกเขาทั้งสองมีปากมีเสียงกัน แต่ไม่รู้เพราะความบังเอิญหรืออะไร พวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนรักกันหลังจากการโต้เถียงครั้งนั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นภัสสรให้ใจกับจอมใจไปทั้งหมด จอมใจรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับอดีตของเธอ รวมถึงความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานที่เธอได้ประสบพบเจอ จอมใจเป็นเหมือนโจอี้ให้กับแชนด์เลอร์ของนภัสสร แยกไม่ออกเหมือนเกลือกับพริกไทย จอมใจผ่านร้อนผ่านหนาวกับนภัสสรมาโดยเสมอ นั่นคือเหตุผลที่เธอยินดีอย่างสุดซึ้งกับความสำเร็จของนภัสสรในวันนี้ ฉันภูมิใจใสตัวเธอมากแนท เธอมาไกลมาก ๆ สำหรับนภัสสรแล้ว จอมใจเป็นเพื่อนที่คอยห่วงใยและเป็นคู่หูในการทำงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เธอเคยมี เธอรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่โชคดีได้พบกับคนแบบจอมใจในชีวิต “แนท ตอนนี้เฟสแรกเราเสร็จแล้ว เธอจะทำยังไงต่อไป” จอมใจถาม “ไม่รู้เหมือนกัน” นภัสสรไม่ได้คิดเตรียมแผนใด ๆ ไว้เลยจริง ๆ เธอไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น หลังจากรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์เมื่อห้าปีก่อน เธอก็ถูกบังคับให้ต้องเลือกมาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเธอจึงเติบโตมาเป็นคนกำหนดโชคชะตาด้วยตัวเธอเอง เธอเลือกที่จะหล่อหลอมความสำเร็จของตนเองผ่านการทำงานอย่างหนัก ตอนนี้เธอประสบความสำเร็จแล้ว เธอกำลังจะสูญเสียสิ่งที่ได้ทำมาตลอด “เธอเคยคิดจะตามหาพ่อของลูกไหม” จอมใจเปิดประเด็นหลังจากที่เงียบไปชั่วครู่ นภัสสรกระพริบตาอย่างแปลกใจก่อนจะส่ายหัว “ไม่ล่ะ” ความจริงเธอไม่กล้าคิดเกี่ยวกับตัวตนของพ่อของพวกเขา เพราะท้ายที่สุดแล้วเธอก็ไม่รู้ว่าเธอนอนกับใครในคืนนั้น เมื่อรับรู้ได้ว่านภัสสรไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย ประโยคถัดมาก็ติดอยู่ในลำคอของจอมใจ ความจริงแล้ว มีหลายครั้งที่เธอถูกต้นข้าวถามถึงเรื่องพ่อ ทุก ๆ ครั้งเธอก็พยายามหลบเลี่ยงหัวข้อนี้ให้ได้มากที่สุดเพื่อเห็นแก่นภัสสร แต่ถึงอย่างไร เมื่อเด็ก ๆ โตขึ้นอีกนิด ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะปิดบังไปตลอด เมื่อจบหัวข้อสนทนา ทั้งคู่ก็ยังคงดื่มกันต่อขณะเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่มีกันและกัน พวกเขาต้องใช้ไวน์แดงจนเกือบจะหมดขวด กว่าจอมใจจะจำบางอย่างได้ “เอ้อนี่ ฉันลืมเอาให้” เธอลุกขึ้นก่อนจะสาวเท้าไปที่ห้องแล้วกลับมาพร้อมกับการ์ดเชิญตัวอักษรสีทองนูนเด่น “อะไรเหรอ” นภัสสรรับมันมาจากเพื่อนสาว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพียงความรู้สึก