ตอนที่ 11 ฉันไม่ไป
“การ์ดเชิญของคุณดนัย วันพุธหน้า ไปด้วยล่ะ” จอมใจไหวไหล่ก่อนจะมุ่งตรงไปยังห้องน้ำ นภัสสรกวาดสายตาอ่านแผ่นกระดาษ ด้วยสมองทำงานช้าลงเพราะฤทธิ์ของไวน์ เธอจึงใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะจำได้ว่าดนัยคือใคร เขาเป็นผู้มีพระคุณของเธอ และเป็นเพื่อนที่ดีมากคนหนึ่งเช่นกัน ณ วันงานเลี้ยง งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นบนเรือสำราญของครอบครัวหิรัญกิจ แขกที่มาร่วมงานส่วนมากเป็นบุคคลที่อิทธิพล มีอำนาจ หรือร่ำรวยที่สุดของนนทบุรี นภัสสรมาทันเวลาเรือออกพอดีหลังจากที่พาเด็ก ๆ เข้านอน คืนนี้เธอเลือกสวมชุดเดรสที่ออกแบบเอง ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากการผสมผสานสองวัฒนธรรมที่ต่างกัน จึงเกิดเป็นชุดคอเต่าดีไซน์โอบกระชับในช่วงบน ส่วนช่วงล่างก็โอบรัดไปตามสัดส่วนจนถึงข้อเท้า โทนสีเย็นของชุดสีกรมท่าช่วยขับผิวเนียนขาวของเธอ เส้นผมนุ่มสลวยเงางามถูกรวบขึ้นให้กลายเป็นมวยผมหลวม ๆ เพื่อเปิดเผยต้นคอเนียนสวย กอปรกับรอยยิ้มที่ประดับบนริมฝีปากอวบอิ่ม ส่งผลให้เธอดูสง่าและมีเสน่ห์ขึ้นไปอีก เสียงเจื้อยแจ้วดังไปทั่วห้องโถงจัดเลี้ยงเมื่อเธอไปถึงเนื่องจากมันถูกบรรจุด้วยคนมากหน้าหลายตา เหล่าแขกรับเชิญต่างพากันพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติเหมือนไม่ได้เจอกันมานาน ทันทีที่เธอเดินเข้ามา รูปลักษณ์แสนสง่านั่นก็ดึงดูดความสนใจจากผู้คนโดยทันที “เธอเป็นใคร ทำไมผมไม่เคยเห็นเธอมาก่อน” “นี่เป็นงานเลี้ยงของคุณดนัย คนที่จะสามารถเข้าร่วมได้ก็ต้องเป็นคนสำคัญ” “อืม เธอสวยมาก พูดก็พูด รูปร่างหน้าตาของเธอดีกว่าดาราบางคนเสียอีก” นภัสสรทำสีหน้าเรียบนิ่งในขณะเดินผ่านฝูงชนที่ซุบซิบนินทาทั้งหลาย ไม่มีรอยยิ้มประดับออกมาแม้แต่น้อย ท่าทางของนภัสสรสง่างามขึ้นเมื่อรับแชมเปญจากบริกรมา เธอเดินไปที่โต๊ะตัวยาวใกล้ ๆ ก่อนจะจิบเครื่องดื่ม นับตั้งแต่เธอตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับครอบครัววัชรโชติ เธอแทบไม่เคยไปร่วมงานที่เป็นทางการเช่นนี้เลย ว่ากันตามตรง เธอค่อนข้างอึดอัด เนื่องจากยังพอมีเวลาก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่ม นภัสสรจึงก้าวออกจากห้องจัดเลี้ยงไปยังทางเดินด้านนอก เธออยากไปสูดอากาศบริสุทธิ์สักหน่อย อีกทั้งยังอยากใช้โอกาสนี้โทรหาแม่ที่อยู่ต่างประเทศอีกด้วย จะได้ถามข่าวคราวของเธอบ้าง “แนท?” เธอกำลังจะเปิดกระเป๋าแต่ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง มือบางหยุดชะงักก่อนจะหันกลับไปมองยังต้นเสียง อดแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นว่าคนที่เธอพบไม่ใช่ใครอื่นใดนอกจาก ‘รสริน’ นภัสสรขมวดคิ้วเมื่อพบว่าเป็นพี่สาวต่างมารดา เมืองนี้จะแคบอะไรขนาดนี้ ขนาดกลับมายังไม่ถึงสองอาทิตย์ก็บังเอิญเจอเธอถึงสองครั้งแล้ว! แม้ว่าเธอจะโดนรสรินเอ่ยทักทาย แต่เธอก็ไม่ได้ถอยหนี ยืนมองพี่สาวต่างแม่เดินเข้ามาหาอย่างเงียบ ๆ รสรินจ้ำอ้าวไปหานภัสสรและหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ ไม่รู้เพราะอะไร เสียงของเธอต่ำลงและสั่นเครือขณะที่พยายามเอื้อนเอ่ย “เธอมาทำอะไรที่นี่?” ตอนเธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ที่ทางเดินอีกฟาก เธอคิดว่าตัวเองตาฝาดไป แต่ท้ายที่สุด ผู้หญิงคนนั้นคือนภัสสรจริง ๆ “ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้วสิ” นภัสสรตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้ม “เป็นไปได้ไง เธอได้รับบัตรเชิญด้วยเหรอ?” รสรินกู่ร้องออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ เธอจะไม่เชื่อนภัสสรก็ไม่ผิด งานนี้ไม่ใช่งานธรรมดาจริงๆ เพราะสถานที่นี้คือเรือสำราญของตระกูลหิรัญกิจ หนึ่งในสถานที่จัดเลี้ยงชั้นนำในเมืองดังนั้น คนที่ ‘ไม่สำคัญ’ และ ‘ต่ำต้อย’ อย่างนภัสสรไม่ควรจะมาที่นี่ ความจริงแล้วเธอไม่มีทางที่จะสามารถเข้ามาที่นี่ได้ด้วยซ้ำ แต่ในทางกลับกัน มันไม่ใช่! “เธอจะมากังวลอะไรกับเรื่องนี้” ตอนนั้นเองที่นภัสสรสังเกตเห็นสีหน้าของรสริน นอกจากแปลกใจที่เห็นเธออยู่ที่นี่แล้ว รสรินยังดูหวาดกลัวอีกด้วย มันเป็นอาการเดียวกับที่เราสองคนเจอกันครั้งสุดท้าย เธอกลัวที่จะเจอเราเหรอ ทำไมล่ะ? ความสับสนและความงุนงงก่อตัวขึ้น ทันใดนั้น รสรินก็เหลือบตามองไปทางห้องจัดเลี้ยง เมื่อไม่เห็นใครมองมาจึงคว้าข้อมือของนภัสสรด้วยความรุนแรง “ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้! เธอไม่ควรจะอยู่ที่นี่ เธอไม่มีสิทธิ์จะอยู่ในที่แบบนี้!” ขณะที่พูดก็พยายามฉุดกระชากนภัสสรไปยังประตูด้านหน้า เหตุผลที่รสรินทำอย่างนี้ก็เพราะว่าคืนนี้นภัสสรดูงดงามเหลือเกิน ตั้งแต่ชุดที่สวยหนูรวมไปถึงการแต่งหน้า จึงทำให้เธอโดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ ดังนั้น ถ้าเธอปรากฏตัวในงานเลี้ยง แทนไทจะต้องสนใจเธออย่างแน่นอน หากมันเกิดขึ้น ความพยายามในช่วงห้าปีที่ผ่านมาของรสรินก็จะสูญเปล่า คำโกหกของเธอก็จะถูกเปิดโปง ไม่... ฉันจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นไม่ได้ ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณธามเจอเธอเด็ดขาด! ยิ่งคิดก็ยิ่งหวาดกลัว และยิ่งพยายามทำให้นภัสสรออกไปจากที่นี่ “ฉันไม่ไป” นภัสสรบิดข้อมือของเธอจนหลุดออก ริมฝีปากสีแดงทับทิมฉีกยิ้มก่อนจะเปลี่ยนมาคว้าข้อมือของรสรินแทนแล้วออกแรงลากเธอไปด้านหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพียงความรู้สึก