“ฉันก็คิดว่าไม่ใช่ผู้หญิงของเขา”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนโล่งอก เห็นโอเลย์ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เธอ จึงหยอกล้ออย่างไม่ยอมแพ้ “ถ้าเธอเป็นผู้หญิงของเซียวเซิ่ง นายจะกล้าทำกับเธอแบบนี้เหรอ? ไม่ต้องช่วยเธอเทกาแฟ เสิร์ฟผลไม้อย่างเอาอกเอาใจเหรอ…”
“ดังนั้น…เธอยอมรับว่าตัวเองคือผู้หญิงของเซียวเซิ่งเหรอ?” โอเล่ย์ถามเสียงเบา
เธอเหลือบมองกาแฟและผลไม้บนโต๊ะ เอี๋ยวเสี่ยวเนี่ยนนึกได้ว่าลากตัวเองเข้าไปแล้ว เธอหน้าแดงในทันที เพียงแต่เธอยังพบอีกว่าเธอสวมบทบาทภรรยาของเซียวเซิ่งโดยไม่รู้ตัว…
โอเล่ย์เห็นเธอเขินอาย ก็ไม่กล้าล่วงเกิน เขายืนตัวตรงเหลือบมองไปทาง ถังเหวยอย่างเย็นชา “ทำไมยังไม่ไปอีก?”
“คุณโอ เธอมีเรื่องอยากจะพูดครับ” พนักงานรักษาความปลอดภัยลำบากใจ ถังเหวยก็เป็นพนักงานระดับสูง ปกติมักคุยโวว่าสนิทกับท่านประธาน ถ้าหากประธานกลับมาแล้วเรียกเธอมาอีก พวกเขาไม่กล้าผิดใจ
ถังเหวยเหมือนกับรู้สึกผิดแล้ว หน้าตาโศกเศร้า “คุณโอ พวกเราทำงานร่วมกันมาหลายปีขนาดนี้ คุณทำไมถึงใจเหี้ยมอาศัยงานส่วนรวมมาแก้แค้นความแค้นส่วนตัว...”
“ทำไมจะใจเหี้ยมไม่ได้?” ขณะพูด เสียงเยือกเย็นราวกับน้ำลึกดังขึ้น
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ตกตะลึง แล้วพากันมองไปทางนอกประตู...
ผู้ชายเย็นชาคนหนึ่งเดินเข้ามา การแต่งกายที่แปลกประหลาดของชุดคนไข้บวกกับเสื้อโค้ท กลับไม่บั่นทอนความหล่อเหลาของเขา ยิ่งไปกว่านั้นเขาเหมือนกันต้นยูคาลิปตัสสู้ลม ท่าทางไม่ธรรมดา
เห็นเซียวเซิ่งเข้ามา ในใจของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเกิดความร้อนแรงที่ทั้งหวานทั้งอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เธอกัดปาก อยากจะเคลื่อนสายตาออกแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะว่าเซียวเซิ่งก็กำลังมองเธออยู่
ทั้งสองมองหน้ากันผ่านอากาศแบบนี้ สายตาเหม่อลอยจับจ้อง...
“ท่านประธาน ฮือฮือฮือ...” ถังเหวยต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ แยกไม่ออกระหว่างจินตนาการกับความเป็นจริง เธอคิดว่าท่านประธานรักเธอมากๆ จึงพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเซียวเซิ่ง แล้วร้องไห้อย่างอัดอั้นตันใจขึ้นมา
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยิ้มเยาะ
โครม! วินาทีต่อมา ถังเหวยก็ถูกเซียวเซิ่งที่กำลังโมโหผลักออกไปอย่างแรง เธอชนเข้ากับโต๊ะทำงานของประธานทันที แครนเบอรี่จานหนึ่งถูกกระแทกบินออกไป เสียงเพล้ง เหมือนกับฝนทับทิม
“ไอ้หยา!” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยังไม่กล้ากินเลยนะ เดิมทีอยากจะเหลือไว้กินคำโตๆ ตอนสุดท้าย ตอนนี้เสียดายอย่างถึงที่สุด
ถังเหวยผมยุ่งเหยิง กระโปรงก็ม้วนขึ้นมา ล้มอยู่ที่ขาโต๊ะ เธอมองไปทางประธานด้วยความจนตรอกและตื่นตระหนก
คนอื่นก็ตกตะลึงเช่นกัน ได้เห็นความเย็นชาไร้ปราณีของท่านประธานอีกครั้ง ทั้งหมดตกใจจนไม่กล้าเงยหน้า พวกเขาแทบจะหารูหลบเข้าไป...
เห็นเพียงความชื่นชอบและชื่นชมในสายตาที่เปล่างประกายของโอเล่ย์ แอบตะโกนท่านประธานทรงอานุภาพ! เปลี่ยนเป็นเขาไม่ว่ายังไงก็ไม่กล้าลงมือ
เซียวเซิ่งยืนตัวตรงอยู่ตรงนั้น เขาเหลือบมองน้ำสตอเบอรี่บนหัวของเสี่ยวเนี่ยน สายตาเย็นชา มือข้างหนึ่งค่อยๆ กำหมัดแน่น ถ้าเขาไม่กลับมา ผู้หญิงของเขาก็ถูกดูถูกฟรีๆ ใช่ไหม?”
“ท่านประธานคะ ฉันผิดไปแล้ว ขอร้องคุณให้โอกาสฉันอีกครั้งนะคะ” ถังเหวยคุกเข่าลง ไม่มีความเย่อหยิ่งเหมือนตอนที่ดูถูกเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนในตอนแรกอีกแล้ว “ฉันไม่กล้าอีกแล้วค่ะ...”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนถือโอกาสตอนที่ทุกคนไม่สังเกต แอบหยิบแครนเบอรี่ขึ้นอยากจะเอาใส่ปาก เธอเอาใส่ปากไปด้วยกลอกตาป้องกันไปด้วย เกรงว่าคนอื่นเห็นเข้าจะไม่ดี ผลปรากฎว่าสบตาเข้ากับเซียวเซิ่งโดยไม่ระวัง ถูกจับได้คาที่...
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนสะดุ้ง กลายเป็นหินในทันที มือที่จับแครนเบอรี่ก็แข็งทื่ออยู่ตรงนั้น ริมฝีปากรูปสีเหลี่ยมขนมเปียกปูนอ้าปากออกเล็กน้อย อ่อนนุ่มยิ่งกว่าแครนเบอรี่ มีเสน่ห์และน่ารักอย่างบอกไม่ถูก
“ทำอะไร?” เซียวเซิ่งถาม โตขนาดนี้แล้ว ยังเก็บอาหารบนโต๊ะกินอีก ไม่สะอาดไม่รู้เหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น