ปลายนิ้วเรียวยาวแตะใบหน้าหล่อ หยดเลือดเปื้อนตามมา
ใบหน้ามีเลือดไม่สามารถเช็ดซี้ซั้วได้ ไม่งั้นมันจะยิ่งแย่ เซียวเวิ่งยังคงอยู่ในลักษณะของแดลเมเชียน แต่ไม่ได้ทำลายความหล่อเขาสักนิด กลับปรากฏความรู้สึกงดงามของความโหดเหี้ยมกระหายเลือด ป่าเถื่อนจนทำให้คุกเข่ายอมอยู่ใต้อำนาจ
ในการจ้องมองด้วยสายตาบึ้งตึงและน่ากลัวของชายหนุ่ม ความโหดเหี้ยมของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนั้นก็หายไปจนไม่เหลือในพริบตาเดียว
ความแรงในการรัดคอกระชับขึ้นทีละนิด ความดื้อรั้นโหดเหี้ยมในกระดูกเซียวเวิ่งน่าหวาดผวา “เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน เธอมีชีวิตมากพอแล้ว ฉันไม่ถือสาที่จะส่งเธอไปนรก!”
“อึก~” ลำคอเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเลื่อนขึ้นลง ทำให้ฝ่ามือเซียวเวิ่งจั๊กจี้ หลังจากพ่นไปไม่กี่ที สองมือเธอก็จับแขนเหล็กชายหนุ่มดึงออกไป แต่น่าเสียดายมันไม่ขยับสักนิด
ภายนอกมีศัตรูแข็งแกร่งบีบคออยู่ ภายในมีวาซาบิแผดเผาร่างกาย ความรู้สึกนั้น……สู้ตายไปดีกว่า เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองเซียวเวิ่งอย่างเหยียดหยาม ค่อยๆ หลับตาลง
นักรบหญิงที่หลั่งเลือดเข่นฆ่า กลายเป็นกระต่ายขาวที่จะถูกเชือดภายในวินาทีเดียว น่าเบื่อจริง
อีกอย่างเธอทำท่าทีอะไร?
ใช้ดวงตาเหยียดหยามเขา รนหาที่ตายใช่ไหม!
ความรู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ เกลื่อนกลาดเต็มหัวใจ เซียวเวิ่งตระหนักได้ว่าอำนาจ ตำแหน่ง ความมั่งคั่งร่ำรวยของเขามันไม่เกิดผลต่อหน้าผู้หญิงคนนี้
“ที่รัก ขอร้องปล่อยเธอไปเถอะ!”
พยายามระงับความดีใจอันบ้าคลั่งภายในใจลง เอียนหยู่โรวขอร้องอ้อนวอนต่อ ด้วยคำพูดสัตย์จริง ความรู้สึกจริงใจ
เธอรู้เซียวเวิ่งไม่ฟังเธอหรอก จึงขุดคำพูดดีๆ จากใจเพื่อน้องสาว แสดงออกถึงความโอบอ้อมอารีอย่างถึงอกถึงใจ ไม่มีใครสงสัยความเป็นแม่พระของเธอสักคน
“ประธาน!” ผู้ช่วยชีวิตตัวจริงมาถึงในที่สุด
โอเล่ย์หายใจหอบพุ่งตัวเข้ามา เสี่ยงตายดึงศอกเซียวเวิ่ง “คุณปล่อยมือก่อน เธอไม่ไหว จะตายแล้ว!”
“ไสหัวไปซะ!” เซียวเวิ่งสะบัดมือโอเล่ย์ออก ใช้โอกาสนี้ปล่อยเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนได้อย่างแยบยล
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนฟุบตัวลงอาเจียนข้างเตียง น้ำตาน้ำมูกไหลรวมกัน สภาพไม่เหมือนคน
ไม่รู้ว่าโชคดีหรือหายนะ การบีบคอทำให้เค้นอาเจียนออกมา วาซาบิที่ทรมานในท้อง เธออาเจียนออกมาพอสมควรแล้ว ไม่งั้นโดนวางยาพิษแน่
เซียวเวิ่งรู้สึกตัวเองบ้าไปแล้ว แม้แต่กลิ่นอาเจียนของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็รู้สึกว่าหอมเป็นพิเศษ ทำยังไงดี?
“เจ็บมากไหม? ต้องเรียกหมอไหม?” โอเล่ย์หยิบทิชชูส่งให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนสองสามแผ่น มองเธอด้วยความเห็นอกเห็นใจอย่างยิ่ง แล้วมองลายจุดบนหน้าประธาน จู่ๆ ก็อยากหัวเราะอย่างอดไม่ได้
“ไม่ต้อง ขอบคุณค่ะ” ท่าทีเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่มีต่อโอเล่ย์นั้นมีมารยาทและอ่อนโยน
หางตาเซียวเวิ่งกระตุก พูดด้วยเสียงดุดัน “โอเล่ย์ ไสหัวไป!”
“ประธาน พวกคุณ……” โอเล่ย์อดไม่ได้ที่จะมองประธานลายจุดแดลเมเชียน แล้วพูดด้วยภาษาฝรั่งเศส “คุณกับเสี่ยวเหนียนหยูมีความเหมือนของสามีภรรยา แม้แต่จุดเลือดบนหน้าก็ส่งเสริมกัน อยากถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกไหม?”
ความเหมือนของสามีภรรยา?
เอียงศีรษะมองรูปร่างเล็กกะทัดรัดนั้น ใบหน้าน่ารักน่าสงสารของหญิงสาวโจมตีเส้นประสาทหลังสมองเขาทันที “ถ่าย”
ฉีกผ้าเปียกฆ่าเชื้อออกมา เซียวเวิ่งคว้าท้ายทอยเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเอาไว้ เช็ดหน้าเธอให้สะอาดอย่างบุ่มบ่าม ลายจุดของตัวเองก็เช็ดออกแล้ว จากนั้นก็โอบเธอนั่งลง “มองกล้องแล้วยิ้มให้ฉัน”
โอเล่ย์แค่ล้อเล่น แต่เห็นว่าประธานจริงจัง ก็รีบเปิดกล้อง ใช้สายตาส่งสัญญาณให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอย่าขัดใจประธาน
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเผยรอยยิ้มที่น่าเกลียดกว่าร้องไห้ออกมา แต่ยังถือว่าสวย
“เอารูปเป็นแบบทะเบียนสมรส” หลังจากถูกเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเหยียดหยาม เซียวเวิ่งก็ปฏิเสธที่จะครุ่นคิดแล้ว เอ่ยสั่งด้วยภาษาฝรั่งเศส “ไปทำใบทะเบียนมาภายในครึ่งชั่วโมง”
“ทำทะ ทะเบียนสมรส?”
โอเล่ย์สีหน้าเปลี่ยนไป ปะทะกับสายตามั่นใจยโสโอหังของประธาน ก็รีบก้มหน้า “ครับ”
เป็นลม เขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเกี่ยวกับความเหมือนของสามีภรรยาอีกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น