“ลงรถ” ท่ามกลางความมืดมิด น้ำเสียงนั้นดังขึ้นอย่างเย็นเฉียบ ราวกับทะลุเข้าไปถึงหัวใจ
ท่าทางนี้ทำให้เนี่ยหยวนรู้สึกปวดใจ เธอกัดริมฝีปากของตนเองเบา ๆ ผ่านไปสักพักเธอจึงได้เอ่ยว่า “คุณลุงคะ นี่มันก็ดึกมากแล้ว คุณลุงไปคนเดียวฉันไม่วางใจ ให้ฉันไปเป็นเพื่อนดีกว่านะคะ”
นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น จากนี้ไปเธออยากจะเดินไปกับเขาจนถึงวันสุดท้าย
แม้ว่าเซียวจวินเซิงจะเป็นคนเยือกเย็นดูไม่แยแส แต่เขาก็มีจุดอ่อน และจุดอ่อนของเขานั้นก็คือไม่อาจคัดค้านผู้หญิงที่ขี้อ้อนได้
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าภรรยาของตนค่อนข้างที่จะแข็งแกร่ง เธอมีเสน่ห์แต่ไม่อ่อนแอ ไม่ต้องการพึ่งพาเขา ในฐานะผู้ชายคาดว่าคงจะรู้สึกผิดหวังบ้างเล็กน้อย ดังนั้น......
สายตาของเขามองไปยังไฟข้างถนนที่อยู่ไม่ไกลนัก เซียวจวินเซิงปล่อยมือออกแล้วพูดว่า “กลับไปนอนเสีย ถ้าลุงหาเซียวซาเจอเมื่อไหร่แล้วจะโทรหาเราเป็นคนแรก”
“ไม่เอาค่ะ” เนี่ยหยวนเม้มริมฝีปากของเธอแล้วยื่นมือออกมาวางลงบนแขนของเซียวจวินเซิง เมื่ออุณหภูมิในร่างกายส่งมาถึง ผิวหนังของทั้งสองคนก็ดูกระหายในทันที มันโหยหาสัมผัสที่ลึกซึ้งกว่านี้ มือของเนี่ยหยวนไต่ขึ้นไปที่หลังมือของเขา......
ดวงตาของเซียวจวินเซิงชะงักลง เขาสะบัดมือเธอออกแล้วโน้มตัวไปทางข้างคนขับ เปิดประตูรถพูดว่า “ลงไป อย่าชักช้าเสียเวลา......”
ยังไม่ทันพูดจบร่างของเขาก็แข็งทื่อ แขนเรียวบางอ่อนนุ่มของหญิงสาวโอบไปที่ไหล่ของเขา ใบหน้าอันขาวผ่องอ่อนโยนสัมผัสไปที่ใบหน้าของเขา ลมหายใจของทั้งคู่ประสานกันจู่ ๆ ความร้อนก็พลุ่งพล่านในพื้นที่แคบ
ร่างกายของเซียวจวินเซิงเกร็งมาก คิ้วอันได้รูปของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อย เส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปน “เนี่ยหยวน เราไม่ใช่เด็กแล้วนะ รู้หรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่?”
“หนูรู้ค่ะ” เนี่ยหยวนมองไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาของคุณลุง ริมฝีปากแดงเรื่อของเธอเข้าใกล้ริมฝีปากของเขา ก่อนจะหายใจออกมาเล็กน้อย “หนูไม่มีพ่อมาตั้งแต่เด็ก ก็แค่อยากจะกอดคุณลุงแทนพ่อ ทำไมล่ะคะ ปีนี้หนูเพิ่งจะสิบเจ็ด ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ หนูกอดคุณลุงไม่ได้เหรอคะ?”
“......” เซียวจวินเซิงนิ่งเงียบเป็นท่อนไม้
เนี่ยหยวนยิ้มเยาะจากภายใน เธอเอนกายพิงไปที่หน้าอกของคุณลุงแต่ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรมากไปกว่านี้
ถึงอย่างไรเซียวจวินเซิงก็เป็นชายธรรมดาทั่วไป เมื่อมีหญิงสาวร่างกายอ่อนโยนอยู่ในอ้อมกอดถูไถไปมาแบบนี้ประกอบกับกลิ่นหอมเย้ายวน ร่างกายของเขาจะไม่ตอบสนองได้อย่างไร เขากลืนน้ำลาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ ไฟในร่างกายพลุ่งพล่านแผดเผาร้อนแรง
เขาอยากจะผลักเจ้าหนูคนนี้ลงจากรถเหลือเกิน แต่ก็กลัวว่าจะทำการเสียงดังเกินไปและเกิดปัญหาตามมาโดยไม่จำเป็น จึงทำได้เพียงประนีประนอม “ปล่อยมือ ลุงจะพาไปหาเซียวซา”
เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกก็จบแล้ว
เนี่ยหยวนเผยอยิ้มตรงมุมปากขึ้นราวกับนางร้าย เธอปล่อยมือออกแต่ยังคงจับจ้องไปที่เขา สายตาประสานกันดวงตาของเธอสดใสยิ่งกว่าสายน้ำ มันดูสะอาดสะอ้านยิ่งกว่าฟ้าหลังฝน ทำให้ผู้คนรู้สึกดึงดูดใจ
หัวใจของเซียวจวินเซิงอ่อนแอลงอย่างอธิบายไม่ได้ เขาถอดเสื้อคลุมกันลมออกแล้วคลุมไว้ที่ร่างของเธอ น้ำเสียงดูสง่างามว่า “ต่อไปนี้ไม่อนุญาตให้ใส่แบบนี้ในบ้าน อะไรกัน”
เนี่ยหยวนเลิกคิ้วขึ้นแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ เธอมองไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน “คุณลุงคะดูโน่นสิคะ มีเครื่องบินบินมาด้วย สวยจังเลย อ้าว อีกเครื่องก็บินตามมา หนูจำได้ว่าเส้นทางบินเดียวกันไม่สามารถบินใกล้ ๆ กันแบบนี้ได้นี่นา”
“นั่นมันเครื่องบินส่วนตัวที่ขึ้นพร้อมกันและลงพร้อมกัน” เซียวจวินเซิงสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับออกไป......โอเล่ย์เช่าเครื่องบินส่วนตัวสองลำในราคาสูง และออกเดินทางเมื่อคืนนี้ เขามาถึงเกาะร้างที่เซียวเซิ่งอยู่ตอนสิบเอ็ดโมงเช้าของวันนี้ สภาพอากาศสงบ เครื่องบินจึงบินตรงลงไปยังเกาะร้างเพื่อรับทั้งสามคนได้โดยราบรื่น
แต่เนื่องจากสภาพของเย่เฟิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ทางด้านเอี๋ยนต้าฟาก็ไม่ดีนัก ระหว่างทางพวกเขาได้ลงจากเครื่องบินพยายามช่วยชีวิตอยู่สองชั่วโมง จึงเดินทางมาถึงสนามบินจงโจวเป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว
เมื่อเครื่องบินทั้งสองลำลงจอด เย่เฟิงก็ถูกหามขึ้นใส่เปล จากนั้นนำขึ้นรถส่งไปที่โรงพยาบาลโนเบิลซูจี้ อาการบาดเจ็บของเขาจะรอต่อไปไม่ได้ไม่อย่างนั้นเขาคงจะตาย
เซียวเซิ่งอุ้มเอี๋ยนต้าฟาขึ้นรถคันที่สองไป
เมื่อเดินทางไปถึงโรงพยาบาลโนเบิลซูจี้ เย่เฟิงก็ถูกส่งเข้าห้องผ่าตัดทันที และเอี๋ยนต้าฟาก็ได้รับการรักษาด้วยการให้น้ำเกลือ
ส่วนเซียวเซิ่งได้รับบาดเจ็บตอนที่เฮลิคอปเตอร์ระเบิดด้วย ประกอบกับถูกเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแทงเข้า แผลยังรักษาไม่หายดี ตอนนี้จึงมีแนวโน้มที่จะอักเสบเขาเองก็ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเช่นกัน......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น