แต่ว่าเธอไม่อยากทำแบบนั้น มันขายหน้าเกินไป
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกัดริมฝีปากแน่น แม้ว่าพ่อบ้านเซี่ยจะบอกเธอไว้แล้วล่วงหน้า และเธอก็ทำใจว่าเซียวเซิ่งเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่า เธอเองไร้หนทาง ทำได้เพียงเชื่อฟังเขา แต่ร่างกายของเธอนั้น...... เธอยังไม่อาจข้ามผ่านจิตใจของตนเองไปได้
เมื่อเห็นว่าเธอลังเลไม่เดินเข้ามาสักที เซียวเซิ่งก็ไม่รีบร้อน ดวงตาอันลึกล้ำของเขามองออกไปแล้วเหยียดมืออย่างสบายอารมณ์ เขาปรับระดับน้ำเกลือ ราวกับกำลังคำนวณเวลา เพื่อไม่ต้องเข้ามาเปลี่ยนน้ำเกลือกลางทาง
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองไปยังขวดน้ำเกลือของเขาแววตาของเธอเป็นประกายทันทีแล้วยิ้มอย่างประจบสอพลอว่า “มือของคุณ......ตอนนี้ไม่สะดวกในการออกกำลังใช้กำลังมั้งคะ รอให้คุณรับน้ำเกลือเสร็จ......”
“ผมไม่คิดจะขยับ”
“หา......” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเบิกตากว้างมองไปทางเซียวเซิ่งอย่างเหลือเชื่อ “คุณจะให้ฉันทำคนเดียว คุณจะให้ฉัน...... คุมเกมอย่างงั้นเหรอ”
เซียวเซิ่งหลับตาลงอย่างสบายอารมณ์ เป็นความหมายว่าเธอเดาถูกแล้ว
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหน้าแดงเรื่อไปถึงใบหู เธอโมโหมาก แล้วหันกลับไปเรียกความโกรธ แต่ท่าทางแบบนั้นน่ารักทีเดียว “ฉันทำผิดอะไร คุณกำลังบีบบังคับฉันรู้หรือเปล่า?”
เซียวเซิ่งหยิบทะเบียนสมรสออกมาเคาะไปที่ขอบเตียงแล้วยื่นไปให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเปิดทะเบียนสมรสนั้นออกดูรูปของทั้งสองคนปรากฏอยู่เป็นคู่รัก แม้จะเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย แต่เธอก็ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องแบบนั้นมันน่าอายเหลือเกิน
“ฉันไปก่อน” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหันหลังกลับ เรื่องน่าอายแบบนี้เธอจะไม่ทำมันอย่างแน่นอน
เซียวเซิ่งไม่ได้รั้งเธอเอาไว้ จนกระทั่งเธอเปิดประตูเขาจึงพูดออกมาเบา ๆ ว่า “ลูกคิดถึงคุณนะ”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจุกเสียดหน้าอก น้ำตาของเธอจะไหล
เธอไม่ได้เจอลูกมาเดือนกว่าแล้ว เธอคิดถึงลูกมาก เอาเถอะเธอต้องเริ่มก่อนก็คงต้องเป็นตามนั้น ชีวิตนี้เธอคงไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่ต้องถูกเซียวเซิ่งเหยียบย่ำไปตลอดชีวิตได้ ทำไมไม่จัดการเขาให้ตายไปเสียก่อนล่ะ!
เธอปิดประตูลง เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหันหลังกลับไปแล้วแกะกระดุมของตัวเองทีละเม็ด......ปลายนิ้วของเธอสั่นเทาด้วยความประหม่า เสื้อผ้าหลุดลงไปกองที่พื้น เผยให้เห็นผิวกายอันสะอาดอ่อนโยนปรากฏอยู่ท่ามกลางอากาศ มันช่างประณีตและวิจิตรบรรจง ผิวสีแทนของเธอดูเปล่งประกายเป็นสีชมพู ยิ่งมองยิ่งเพลินตาสวยงามเกินกว่าจะบรรยาย
แววตาของเซียวเซิ่งดูลึกล้ำ เขารู้สึกร้อนวูบวาบเหมือนเลือดในร่างกายจะไปรวมตัวกันที่ตรงนั้น มันทำให้อึดอัดและเจ็บปวด
เขาไม่ได้กอดเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนานเท่าไหร่แล้วนะ สามวันหรือสี่วันกัน แต่ดูเนิ่นนานเท่าสามปี?
แต่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกลับยืนอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานไม่เคลื่อนไหว
ความเย่อหยิ่งของเธอหายไปอีกครั้ง แววตาอันน่าสงสารของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาคลอและสั่นเทา ทำให้ผู้คนรู้สึกคลั่ง
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเซียวเซิ่งปรากฏความไร้ความอดทนขึ้นเขาดึงเข็มน้ำเกลือออกแล้วโยนมันไป
ร่างสูงใหญ่ตรงเข้ามาราวกับสัตว์ร้ายกระหายเลือด เขาจับเอวเรียนของหญิงสาวแล้วกดไปที่ประตูอย่างไร้ความปรานี......
ณ โกลเด้นฟีนิกซ์ ทุกอย่างยังคงดูสนุกสนาน
“เสี่ยวเนี่ยนรอผมด้วย!” สวี่เจียนเดินโซซัดโซเซ เขาสูญเสียความมั่นคงในการเดินและแทบจะล้มลงอยู่หลายครั้ง
ยาที่อยู่ในร่างของเขาปะทุไปทั่ว ประกอบกับที่เขาดื่มจนเมามายบัดนี้จึงเห็นภาพซ้อนและพร่ามัว เหงื่อขนาดเท่าเม็ดถั่วหยดลงมา ร่างกายของเขาราวกับจะระเบิดพร้อมใบหน้าที่เด็ดเดี่ยว
น้าเสวี่ยแห่งโกลเด้นฟีนิกซ์ สังเกตอาการของสวี่เจียนตลอดเวลา เมื่อเห็นว่าเขามีความรักอันลึกซึ้งต่อเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน จึงได้หาผู้หญิงที่มีรูปร่างใบหน้าใกล้เคียงกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน ตัดผมของเธอให้สั้น แล้วสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกันกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน เดินอยู่ตรงหน้าของสวี่เจียนและดึงดูดแขกเข้าไปในห้อง
เมื่อเข้าไปในห้อง ผู้บัญชาสวี่ที่พยายามห้ามตัวเองมาถึงหลายปีในที่สุดก็ทนไม่ไหว
เซียวซาเดินหาอยู่ด้านนอกหลายรอบแต่ก็ไม่พบสวี่เจียน เธอกังวลจนแทบจะร้องไห้ ทำได้เพียงหวังว่าสวี่เจียนยังคงอยู่ด้านใน
เป็นจริงดังนั้น เมื่อเธอไปยังชั้น 4 เธอก็พบกับสวี่เจียนและผู้หญิงหน้าตาสวยงามที่เขาเรียกว่าเสี่ยวเนี่ยนตรงเข้าไปในห้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น